Picture From http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/9/98/Abdullah_of_Saudi_Arabia.jpg
ซาอุดีอาระเบียมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งแก่กองทัพเลบานอนซึ่งกำลังต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธบริเวณพรมแดนซีเรีย อดีตนายกรัฐมนตรี สะอัด ฮาริรี แห่งเลบานอน เผยต่อสื่อมวลชนที่นครเจดดาห์ วันนี้(6)
ฮาริรี ระบุว่า “สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ทรงแจ้งให้ผมทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อกองทัพเลบานอน โดยจะทรงมอบเงินช่วยเหลือ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเสริมศักยภาพของทหาร และรักษาความมั่นคงในเลบานอน”
ฮาริรี ซึ่งเป็นผู้แทนทางการเมืองคนสำคัญของชุมชนมุสลิมสุหนี่ในเลบานอน กล่าวเสริมในงานเสวนาด้วยว่า “เราได้รับความช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว… มันสำคัญต่อเราอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เลบานอนต้องต่อกรกับกลุ่มก่อการร้าย”
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา(2) กองทัพเลบานอนได้เปิดฉากปะทะกับกลุ่มติดอาวุธที่เมืองอาร์ซัล ทางภาคตะวันออกของประเทศ
ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียซึ่งถือเป็นชาติมุสลิมสุหนี่ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตะวันออกกลาง ก็ได้สนับสนุนแพ็กเกจจัดซื้ออุปกรณ์ทางทหารและอาวุธจากฝรั่งเศสมาช่วยกองทัพเลบานอน มูลค่าราว 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
พล.อ. ฌอง คาห์วาจี ผู้บัญชาการกองทัพเลบานอน ออกมาเรียกร้องวานนี้(5) ให้ฝรั่งเศสเร่งจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่เลบานอนตามสัญญา
สมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลเลาะห์ ยังประกาศสนับสนุนเบรุตในการสกัดกั้นภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้าย ระหว่างที่ทรงสนทนาทางโทรศัพท์กับอดีตประธานาธิบดี มิเชล สเลย์มาน
เหตุสู้รบที่เกิดขึ้นในเมืองอาร์ซัลทำให้ทหารเลบานอนเสียชีวิตไป 16 นาย บาดเจ็บอีก 85 นาย และถือเป็นการปะทะบริเวณพรมแดนที่รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เริ่มมีกระแสลุกฮือขับไล่ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียในปี 2011
เลบานอนให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยซีเรียประมาณ 1 ล้านคน และแม้ว่ารัฐบาลเบรุตจะแสดงจุดยืนไม่เข้าข้างฝ่ายใด แต่ก็ยังได้รับผลกระทบอยู่เสมอจากการสู้รบที่ลุกลามข้ามพรมแดน
ทั้งนี้ ยังมีทหารเลบานอนสูญหายอีก 22 นาย ซึ่งเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจถูกกลุ่มก่อการร้ายจับเป็นตัวประกัน
กลุ่มติดอาวุธยังควบคุมตัวตำรวจเลบานอนไว้อีก 20 นาย โดย 3 นายได้รับการปล่อยตัวเมื่อบ่ายวานนี้(5) ตามเงื่อนไขของการเจรจาหยุดยิง
การสู้รบในเมืองอาร์ซัลเมื่อวันเสาร์(2) มีจุดเริ่มต้นมาจากการจับกุมชายชาวซีเรียคนหนึ่ง ซึ่งกอทัพเลบานอนอ้างว่าได้ยอมรับสารภาพว่าเป็นสมาชิกกลุ่ม อัล-นุสรา ฟรอนท์ เครือข่ายอัลกออิดะห์ในซีเรีย
ฮาริรี ระบุว่า “สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ทรงแจ้งให้ผมทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อกองทัพเลบานอน โดยจะทรงมอบเงินช่วยเหลือ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเสริมศักยภาพของทหาร และรักษาความมั่นคงในเลบานอน”
ฮาริรี ซึ่งเป็นผู้แทนทางการเมืองคนสำคัญของชุมชนมุสลิมสุหนี่ในเลบานอน กล่าวเสริมในงานเสวนาด้วยว่า “เราได้รับความช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว… มันสำคัญต่อเราอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เลบานอนต้องต่อกรกับกลุ่มก่อการร้าย”
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา(2) กองทัพเลบานอนได้เปิดฉากปะทะกับกลุ่มติดอาวุธที่เมืองอาร์ซัล ทางภาคตะวันออกของประเทศ
ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียซึ่งถือเป็นชาติมุสลิมสุหนี่ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตะวันออกกลาง ก็ได้สนับสนุนแพ็กเกจจัดซื้ออุปกรณ์ทางทหารและอาวุธจากฝรั่งเศสมาช่วยกองทัพเลบานอน มูลค่าราว 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
พล.อ. ฌอง คาห์วาจี ผู้บัญชาการกองทัพเลบานอน ออกมาเรียกร้องวานนี้(5) ให้ฝรั่งเศสเร่งจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่เลบานอนตามสัญญา
สมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลเลาะห์ ยังประกาศสนับสนุนเบรุตในการสกัดกั้นภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้าย ระหว่างที่ทรงสนทนาทางโทรศัพท์กับอดีตประธานาธิบดี มิเชล สเลย์มาน
เหตุสู้รบที่เกิดขึ้นในเมืองอาร์ซัลทำให้ทหารเลบานอนเสียชีวิตไป 16 นาย บาดเจ็บอีก 85 นาย และถือเป็นการปะทะบริเวณพรมแดนที่รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เริ่มมีกระแสลุกฮือขับไล่ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียในปี 2011
เลบานอนให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยซีเรียประมาณ 1 ล้านคน และแม้ว่ารัฐบาลเบรุตจะแสดงจุดยืนไม่เข้าข้างฝ่ายใด แต่ก็ยังได้รับผลกระทบอยู่เสมอจากการสู้รบที่ลุกลามข้ามพรมแดน
ทั้งนี้ ยังมีทหารเลบานอนสูญหายอีก 22 นาย ซึ่งเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจถูกกลุ่มก่อการร้ายจับเป็นตัวประกัน
กลุ่มติดอาวุธยังควบคุมตัวตำรวจเลบานอนไว้อีก 20 นาย โดย 3 นายได้รับการปล่อยตัวเมื่อบ่ายวานนี้(5) ตามเงื่อนไขของการเจรจาหยุดยิง
การสู้รบในเมืองอาร์ซัลเมื่อวันเสาร์(2) มีจุดเริ่มต้นมาจากการจับกุมชายชาวซีเรียคนหนึ่ง ซึ่งกอทัพเลบานอนอ้างว่าได้ยอมรับสารภาพว่าเป็นสมาชิกกลุ่ม อัล-นุสรา ฟรอนท์ เครือข่ายอัลกออิดะห์ในซีเรีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น