วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ยอดผู้เสียชีวิตจากอีโบลาใกล้ 1,000 ศพ ไลบีเรียเข้าตาจนพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย



       
       เอเอฟพี – ยอดผู้เสียชีวิตจากอีโลบาขยับเข้าใกล้ 1,000 ศพแล้วในวันพุธ (6 ส.ค.) ท่ามกลางความหวาดวิตกว่าการแพร่ระบาดของมันกำลังลุกลามไปยังไนจีเรีย ชาติที่มีพลเมืองมากที่สุดของแอฟริกา หลังจากพบผู้เสียชีวิตเป็นรายที่ 2 ในหมู่ผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน 7 คนที่เมืองลากอส ขณะที่สถานการณ์ในไลบีเรียเริ่มวิกฤตหนัก จนประธานาธิบดีต้องหันไปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสั่งสวดมนต์ภาวนาทั่วประเทศ
       
       การลุกลามของโรคติดต่อนี้เกิดขึ้นขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดประชุมฉุกเฉินในเจนีวา เพื่อตัดสินใจว่าจะมีการประกาศเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขนานาชาติหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่าจะไมีมีแถลงประกาศการตัดสินใจใดๆ ต่อสาธารณชนจนกว่าจะถึงวันศุกร์นี้ (8 ส.ค.)
       
       องค์การอนามัยโลกเปิดเผยในวันพุธว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้ในแอฟริกาตะวันตก เพิ่มเป็น 932 รายแล้ว นับตั้งแต่มันเริ่มแพร่ระบาดเมื่อช่วงต้นปี ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน 1,711 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกินี ไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน
       
       เหตุเสียชีวิตของพยาบาลคนหนึ่งในเมืองลากอส มหานครที่มีประชากร 20 ล้านคน มีขึ้นขณะที่มีการยืนยันว่าช่วงระหว่างวันเสาร์ (2 ส.ค.) ถึงวันจันทร์ (4) มีผู้เสียชีวิตทั่วแอฟริกาตะวันตกเพิ่มเติมอีก 45 ราย ด้วยหน่วยงานความช่วยเหลือต่างๆ ในนั้นรวมถึงองค์การแพทย์ไร้พรมแดน บอกว่าโรคระบาดที่น่าสยดสยองนี้ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว

       
Picture From   http://en.wikipedia.org/wiki/Ebola#mediaviewer/File:Monoclonal_antibodies3.jpg

       ในกรุงมันโรเวีย เมืองหลวงของไลบีเรีย ซึ่งศพเหยื่อถูกทิ้งไว้ตามท้องถนนและในบ้านเรือน ทางประธานาธิบดีเอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟ วิงวอนขอความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสั่งอดอาหารและสวดมนต์ภาวนาทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน เริ่มตั้งแต่วันพุธ (6) เป็นต้นไป
       
       ส่วนในเซียร์ราลีโอน ชาติที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อมากที่สุด มีการส่งทหารเข้าไปอารักขาโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อป้องกันญาติๆและเพื่อนของผู้ป่วยอีโบลา ใช้กำลังพาตัวพวกเขาไปจากโรงพยาบาลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากแพทย์ ขณะที่กำลังพลซึ่งถูกส่งไปประจำการในโซมาเลีย ส่วนหนึ่งของกองกำลังรักษาสันติภาพสหภาพแอฟริกา ก็ได้รับคำสั่งเมื่อวันพุธ (6)ให้อยู่ในโซมาเลียต่อไปอีกสักระยะ เนื่องจากความเสี่ยงติดเชื้ออีโบลาหากเดินทางกลับสู่มาตุภูมิ
       
       แม้การแพร่ระบาดที่ไนจีเรีย ยังถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับชาติแอฟริกาตะวันตกอื่นๆที่ได้รับผลกระทบ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในลากอส ได้ก่อความท้าทายใหญ่หลวงแก่เจ้าหน้าที่สาสาธารณสุข ด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขบอกว่าผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทั้งหมด 7 รายของประเทศ ล้วนแค่เคยสัมผัสกับ นายแพทริก ซอว์เยอร์ ลูกจ้างกระทรวงการคลังของไลบีเรีย ซึ่งเป็นคนนำเชื้อไวรัสมายังลากอสเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น