ขับรถจากประเทศเยอรมันผ่านสวิตเซอร์แลนด์ไปยังประเทศอิตาลีภายใน ๒-๓ ชั่วโมง ตามทฤษฎีทำได้ แม้ระยะทาง ๓๐๐ กิโลเมตรระหว่างบาเซลที่พรมแดนเยอรมันและโคโมของอิตาลีจะยาว แต่ถ้าผู้ใดเหยียบคันเร่งตลอดสามารถนำไปสู่การเข้าคุกของประเทศสวิสได้ และต้องอำลารถยนต์ของตนเอง
Picture From http://en.wikipedia.org/wiki/Ra%C3%BAl_Bobadilla
สำหรับผู้ขับรถเร็วบนท้องถนนสวิตเซอร์แลนด์ไม่มีความกรุณาให้อีกต่อไป ซึ่งขณะนี้ผู้ขับชาวเยอรมันผู้หนึ่งประสบเข้ากับตนเอง เนื่องจากเขาขับด้วยความเร็ว ๒๑๕ กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนเอาโตบาห์น A1 ในเขต Aargau ทำให้ถูกยึดรถ ที่สวิตเซอร์แลนด์อนุญาตความเร็วสูงสุดเพียง ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง โฆษกของทางการกล่าวว่ายานพาหนะของเขาจะถูกขายเพื่อประโยชน์ของรัฐ หากเจ้าของยังผูกพันกับรถเมอร์เซเดสของเขาอยู่ก็สามารถซื้อกลับได้ แต่ไม่มีการลดราคาสำหรับเจ้าของเดิม นอกจากนั้นบุรุษวัย ๕๙ ปียังต้องใข้เงินอีกมากเพื่อให้สามารถชำระค่าทนายและค่าศาลสำหรับการพิจารณาคดีในปีนี้ที่ศาลแขวงที่บาเดน (เขต Aargau) หากเขาโชคร้ายมากก็ถึงกับต้องเข้าคุกเป็นเวลานาน จนถึงปัจจุบันผู้พิพากษาชาวสวิสตัดสินโทษจำคุกระหว่าง ๑๕-๒๔ เดือนในกรณีที่ใกล้เคียงกัน ในจำนวนนี้เป็นชาวเยอรมันบางคนด้วย แม้ว่าทั้งหมดจะได้รับการรอลงอาญาไว้ก่อน ในการตัดสินศาลคำนึงถึง “ชื่อเสียงด้านยานยนต์” โดยจะสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่เยอรมันว่าบุคคลนั้น ๆ เคยมีการบันทึกการทำความผิดมาก่อนหรือไม่ หากใช่ก็จะส่งผลถึงโทษหนักขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย ประสบการณ์ดังกล่าวเกิดกับ Rául Bodadilla นักฟุตบอลล์ชาวอาร์เจนตินาจากสโมสร FC Augsburg เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ศาล Dorneck-Thierstein พิพากษาโทษจำขัง ๑๖ เดือนโดยรอลงอาญาไว้ก่อน เนื่องจากเขาขับรถสปอร์ตด้วยความเร็ว ๑๑๑ กิโลเมตรต่อชั่วโมงทั้งที่มีการกำหนดความเร็ว ๕๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง สวิตเซอร์แลนด์ยึดรถ Maserati ราคาแพงของเขา นอกจากนั้น Bodadilla ยังถูกลงโทษปรับสำหรับความประพฤติรวมทั้งค่าปรับดั้งเดิมรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น ๔๓,๐๐๐ ฟรังค์ (ราว ๓๕,๐๐๐ ออยโร)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น