น้ำมันขึ้น-หุ้นสหรัฐฯ ลง หลังสหรัฐฯ คิดถล่มทางอากาศอิรัก ทองคำทรงตัว

Picture From  http://en.wikipedia.org/wiki/Oil_price

ราคาน้ำมันขยับขึ้นและวอลล์สตรีทปิดลบวานนี้ (7 ส.ค.) จากข่าวรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังพิจารณาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอิรัก ปัจจัยดังกล่าวก่อความหวาดวิตกแก่นักลงทุนและทำให้ทองคำทรงตัว
       
       สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 42 เซ็นต์ ปิดที่ 97.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 89 เซ็นต์ ปิดที่ 105.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
       
       ความเคลื่อนไหวของตลาดน้ำมันมีขึ้นหลังจากมีข่าวว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังชั่งใจใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อพวกหัวรุนแรงสุหนี่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรัก หลังพวกกบฏเหล่านี้จู่โจมเมืองแห่งหนึ่งซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวเคิร์ดกลุ่มยาซิดีต้องอพยพหนีตายขึ้นสู่พื้นที่ภูเขาซึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยกองกำลังของไอเอส เป็นผลให้ขณะนี้พวกเขายังคงตกอยู่ในอันตราย
       
       จอห์น เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาวไม่ยืนยันรายงานข่าวที่ว่าแผนโจมตีทางอากาศวางอยู่บนโต๊ะ แต่บอกว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กำลังศึกษาสภาวการณ์ต่างๆ ทางภาคพื้นในความร่วมมือกับกองกำลังอิรัก
       
       นอกจากโจมตีเมืองของชาวเคิร์ดแล้ว พวกนักรบอิสลามิต์ยังได้บุกยึดการ์รากอช เมืองที่มีชาวคริสเตียนอาศัยอยู่มากที่สุดในอิรัก ทำให้ชาวบ้านผู้ตื่นตระหนกหลายหมื่นคนต้องหลบหนี
       
       การรุกคืบของพวกนักรบญิฮัดในอิรัก ซึ่งกระพือความเป็นไปได้ว่าสหรัฐฯ อาจใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ฉุดให้ตลาดหุ้นอเมริกาวานนี้ (7) ปิดลบพอสมควร
       
       ดาวโจนส์ ลดลง 75.62 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,367.72 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 10.69 จุด (0.56 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,909.55 จุด แนสแดค ลดลง 20.08 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,334.97 จุด
       
       ปัจจัยข้างต้นประกอบกับสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน ผลักให้ราคาทองคำวานนี้ (7) ยังยืนหยัดอยู่เหนือ 1,300 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 70 เซ็นต์ ปิดที่ 1,307.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์