วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

“นายกฯอังกฤษ” พบโอบามา ลั่นผสานความร่วมมือด้าน “ความมั่นคงทางไซเบอร์”

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯและนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษเริ่มต้นการพูดคุยนาน 2 วันที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (15) โดยทางผู้นำอังกฤษให้คำมั่นว่าจะมีความคืบหน้าในเรื่อง “ภัยคุกคามใหม่” ของความมั่นคงทางไซเบอร์ออกมา
คาเมรอน ได้อ้างอิงถึงการโจมตีทางไซเบอร์ต่อบริษัท โซนี พิกเจอร์ เมื่อเร็วๆนี้ที่ทางสหรัฐฯกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของเกาหลีเหนือในวิดีโอที่ถูก โพสต์ขึ้นเพียงไม่นานก่อนการพูดคุยดังกล่าว
“ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่อังกฤษและอเมริกาจะร่วมมือกันและปฏิบัติงานร่วมกันอย่างเต็มที่” คาเมรอน กล่าวในคลิปวิดีโอดังกล่าวที่โพสต์อยู่บนหน้าทวิตเตอร์ของเขา
“เรากำลังจะออกคำประกาศบางอย่างที่สำคัญเกี่ยวกับวิธีที่เราจะปกป้อง ธุรกิจและประชาชนของเราให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ชนิดใหม่” เขากล่าว
ผู้นำทั้งสองคาดว่าจะหารือกันเรื่องความพยายามต่อต้านก่อการร้ายร่วม กันระหว่างการพูดคุยครั้งนี้ ที่มีขึ้นท่ามกลางกระแสจากการโจมตีในฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
        พวกเขาเขียนบทบรรณาธิการร่วมในหนังสือพิมพ์ เดอะไทมส์ ของเมืองผู้ดี ที่ถูกตีพิมพ์เมื่อวันพุธ (14) โดยให้คำมั่นว่าจะเผชิญหน้าเคียงข้างกันต่อต้านพวกหัวรุนแรงอิสลาม หลังจากกลุ่มมือปืนแนวคิดสุดโต่งก่อเหตุสังหารคน 17 คนทั้งในและนอกกรุงปารีสในช่วงสามวันของสัปดาห์ที่แล้ว
จอช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ทั้งสองรัฐบาลจะพูดถึงประเด็นนี้ โดย เออร์เนสต์ กล่าวว่า “ผมมีความมั่นใจว่า ความร่วมมือต่อต้านก่อการร้ายอันแนบแน่นที่เรามีกับสหราชอาณาจักรจะได้รับ การหยิบยกมาหารือ”
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ คาเมรอน กล่าวย้ำถึงเจตนารมณ์ของเขาที่จะยกระดับการสอดส่องผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย
ประเด็นเรื่องความร่วมมือต่อต้านก่อการร้ายจากบริษัทออนไลน์ยักษ์ ใหญ่ อย่าง เฟสบุ๊ค , ทวิตเตอร์ หรือ กูเกิล และวิธีที่อาจช่วยปรับสมดุลระหว่างความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงก็อาจถูก หยิบยกมาหารือด้วย
ประเด็นนี้กลายเป็นเรื่องอ่อนไหวในสหรัฐ ภายหลังที่ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เปิดโปงโครงการรวบรวมข้อมูลอ่อนไหวของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ของสหรัฐฯ โดยการปฏิรูปกลวิธีการสอดส่องของรัฐบาลในสหรัฐฯได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น