วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

ญี่ปุ่นเพิ่ม “งบทางทหาร” สูงสุดทำสถิติ เสริมแสนยานุภาพเพื่อรับมือปักกิ่ง


คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ลงมติในวันพุธ (14 ม.ค.) อนุมัติงบประมาณกลาโหมประจำปีงบประมาณ 2015 ซึ่งมียอดสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เป็นการปฏิบัติตามความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรีชาตินิยมผู้นี้ ในการเสริมสร้างแสนยานุภาพเพื่อปกป้องดินแดนโดยเฉพาะน่านน้ำ ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับจีน ด้านปักกิ่งแสดงความคิดเห็นอย่างระมัดระวัง ว่า หวังให้ความเคลื่อนไหวของโตเกียวครั้งนี้เป็นการสานต่อการพัฒนาอย่างสันติ รวมทั้งส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพภายในภูมิภาค
ในร่างงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2015 ซึ่งครอบคลุมช่วงเดือนเมษายน 2015 จนถึงเดือนมีนาคม 2016 และผ่านการเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นคราวนี้ เฉพาะยอดงบประมาณด้านกลาโหม ปรากฏว่ามีตัวเลข 4.98 ล้านล้านเยน (41,970 ล้านดอลลาร์) ซึ่งนอกจากเป็นงบประมาณการทหารที่ขยับสูงขึ้นต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 3 แล้ว ยังเป็นงบประมาณกลาโหมที่มีมูลค่าสูงสุด โดยแซงหน้าแชมป์เก่าอย่างงบประมาณการทหารปี 2002 ซึ่งมียอด 4.96 ล้านล้านเยน
การดำเนินการเช่นนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรี อาเบะ ในการเสริมสร้างแสนยานุภาพของกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งฝ่ายสนับสนุนระบุว่า เพื่อรับมือสถานการณ์ตึงเครียดจากการเผชิญหน้ากับจีน โดยเฉพาะในการอ้างสิทธิ์ทับซ้อนเหนือเกาะหลายแห่งในทะเลจีนตะวันออก
“สถานการณ์รอบญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนแปลง ระดับการใช้จ่ายด้านการทหารสะท้อนความจำเป็นในการปกป้องน่านน้ำ น่านฟ้า และแผ่นดินญี่ปุ่น รวมทั้งปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของพลเมืองของเรา” เกน นากาตานิ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นแถลงเมื่อวันพุธ (14)
ทว่า ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยชี้ว่า การเพิ่มงบประมาณการทหารครั้งนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังจากการที่ตัวอาเบะเองมีความปรารถนาจะเพิ่มบทบาททางการทหารของญี่ปุ่น และถอยฉากจากลัทธิใฝ่สันติ
ทางด้านแดนมังกรได้แสดงปฏิกิริยาในทันที โดยในวันพุธนั้นเอง หง เล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประกาศเพิ่มงบกลาโหมของญี่ปุ่นอย่างระมัดระวังว่า การเคลื่อนไหวด้านนโยบายการทหารและความมั่นคงของญี่ปุ่นเป็นที่สนใจของเพื่อนบ้านในเอเชียและประชาคมโลกมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นดัชนีบ่งชี้ว่า ญี่ปุ่นสามารถยึดมั่นบนเส้นทางการพัฒนาอย่างสันติได้หรือไม่
“เราหวังว่า ญี่ปุ่นจะใช้ประวัติศาสตร์เป็นกระจกสะท้อน และยึดมั่นบนเส้นทางการพัฒนาอย่างสันติ รวมทั้งรับบทบาทที่สร้างสรรค์ในการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพภายในภูมิภาค”
เห็นกันว่า อาเบะนั้นต้องการถึงขั้นแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลดข้อจำกัดต่อกองทัพ แต่ไม่สามารถระดมการสนับสนุนจากประชาชนได้ จึงหันมาตีความมาตราที่เกี่ยวข้องแทนเพื่อเปิดทางให้กองทัพสามารถให้ความช่วยเหลือพันธมิตรที่ถูกโจมตี
ร่างงบประมาณฉบับนี้ ยังต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาจึงจะบังคับใช้ได้ แต่ไม่น่ามีปัญหาเนื่องจากพรรครัฐบาลครองเสียงข้างมากเทั้งในสภาสูงและสภาล่าง
ในรายการใช้จ่ายทางด้านกลาโหมนั้น ร่างฉบับนี้ได้จัดสรรเงินส่วนหนึ่งไว้จัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ อาทิ เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-1 จำนวน 20 ลำ, ออสเปรย์ V-22 เครื่องบินเอนกประสงค์ที่รวมคุณสมบัติของเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินเข้าไว้ด้วยกันจำนวน 5 ลำ, เครื่องบินขับไล่สเตลธ์ F-35 จำนวน 6 ลำ
ญี่ปุ่นยังมีแผนซื้อโดรน “โกลบัล ฮอว์ก” ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยที่ร่างงบประมาณใหม่นี้เริ่มมีการตั้งจ่ายเอาไว้ส่วนหนึ่งแล้ว
นอกจากนั้น คณะรัฐมนตรียังเตรียมจัดซื้อยานยนต์สะเทินน้ำสะเทินบก 30 คัน, เครื่องบินเตือนภัยทางอากาศ E-2D หนึ่งลำ เพื่อใช้ปกป้องพื้นที่รอยต่อ ซึ่งรวมถึงหมู่เกาะนันเซ โชโตะ ที่อยู่ระหว่างทะเลจีนตะวันออกและมหาสมุทรแปซิฟิก
งบประมาณก้อนนี้ยังจัดสรรสำหรับการสร้างเรือพิฆาตติดตั้งระบบเอจิส 1 ลำ และการส่งหน่วยลาดตระเวนไปประจำรอบเกาะโอกินาวะ และ อะมามิ
คณะรัฐมนตรีของอาเบะได้ตัดสินใจตั้งแต่ตอนปลายปี 2013 ที่จะจัดสรรงบ 24.7 ล้านล้านเยน ในช่วงระหว่างปี 2014 – 2019 เพื่อจัดซื้อยุทโธปกรณ์ตามแผนการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์มุ่งเน้นด้านใต้และตะวันตก โดยระบุว่าจีนนอกจากแย่งชิงหมู่เกาะเซงกากุ/เตี้ยวอี๋ว์ กับญี่ปุ่นอยู่อย่างเข้มข้นแล้ว ยังส่งเรือและเครื่องบินทางทหารออกปฏิบัติการรอบญี่ปุ่นมากขึ้นด้วย ขณะเดียวกัน เกาหลีเหนือที่เป็นประเทศซึ่งไม่อาจคาดเดาได้ ยังคงเดินหน้าโครงการพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์ไม่หยุดยั้ง แม้ถูกแซงก์ชันจากนานาชาติ
และแม้อาเบะ และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน เห็นพ้องกันระหว่างการพบกันเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกหลังจากต่างฝ่ายขึ้นสู่ตำแหน่ง ที่จะระงับการเผชิญหน้าจากข้อพิพาทด้านอธิปไตยในทะเลจีนตะวันออก แต่อาเบะยังคงเดินทางสานสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อคานอิทธิพลที่แผ่ขยายของปักกิ่ง นอกจากนี้ ผู้นำญี่ปุ่นยังกระชับสัมพันธ์ทางการทหารกับอเมริกา
งบประมาณกลาโหมล่าสุดคิดเป็นสัดส่วนเท่ากับกว่า 5% ของงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2015 ของญี่ปุ่น โดยที่งบประมาณรวมนี้ก็มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 96.34 ล้านล้านเยน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น