เกิดเหตุรถบัสประสานงากับรถบรรทุกน้ำมัน บริเวณพื้นที่ทางตอนใต้ของปากีสถาน
ในช่วงรุ่งสางวันนี้ (11 ม.ค.) จนเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรง
ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 57 ราย
เจ้าหน้าที่เกรงว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มมากขึ้นอีก เนื่องจากศพทั้งหมดถูกเผาจนดำเป็นตอตะโกไม่เหลือเค้าเดิม ทำให้ต้องเตรียมทำการพิสูจน์ดีเอ็นเอ เพื่อใช้ในการยืนยันอัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต
“เรามีร่างผู้เสียชีวิตกว่า 57 ศพ แต่จำนวนตัวเลขอาจจะเพิ่มขึ้นอีก สภาพศพส่วนใหญ่ไหม้เกรียมจนไม่เหลือเค้าเดิมและเกาะติดกัน” ดร.เสมี จามาลี แพทย์จากโรงพยาบาลจินนาห์ในเมืองการาจี บอกกับเอเอฟพี
จามาลีบอกว่า มีศพเด็กอย่างน้อย 6 รายที่ติดแน่นกับศพที่น่าจะเป็นแม่เด็ก และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแยกศพเหล่านี้ออกจากกัน “พวกเขาไม่อยู่ในสภาพที่จะดูออกได้แล้วว่าเป็นใคร ทำได้เพียงตรวจสอบดีเอ็นเอเท่านั้น” จามาลีกล่าว
รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า รถบัสที่เกิดเหตุร้ายคันนี้อัดแน่นไปด้วยจำนวนผู้โดยสารกว่า 60 ราย ออกเดินทางจากเมืองการาจี มุ่งหน้าไปยังเมืองชิการ์ปูร์ ส่วนรถบบรทุกน้ำมันนั้นวิ่งผิดเลนย้อนศรมา จนกระทั่งเกิดการประสานงากัน
กัล ฮัสซัน ชาวเมืองการาจี บอกว่าเขาต้องสูญเสียญาติไป 9 คนจากเหตุครั้งนี้ ซึ่งในจำนวนนั้นมีหัวหน้าครอบครัววัย 80 ปีและเด็กอายุ 2 ขวบด้วย
“พวกเขาทั้งหมดโดยสารอยู่บนรถบัสคันนั้น ตอนนี้ผมจำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นใคร ศพพวกเขาถูกเผาจนเกรียมไปหมดแล้ว” เขากล่าว เจ้าหน้าที่ ราโอ มูฮัมหมัด อันวาร์ บอกว่า ตอนนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบดูว่าคนขับรถบรรทุกน้ำมันเป็นฝ่ายผิดผู้เดียวหรือ ไม่ เพราะคนขับรถบัสก็อาจจะประมาทด้วย
ทั้งนี้ มีผู้โดยสารบางส่วนของรถบัสที่รอดชีวิตออกมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ด้วยการกระโดดหนีออกมาทางหน้าต่างของรถบัส
เจ้าหน้าที่เกรงว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มมากขึ้นอีก เนื่องจากศพทั้งหมดถูกเผาจนดำเป็นตอตะโกไม่เหลือเค้าเดิม ทำให้ต้องเตรียมทำการพิสูจน์ดีเอ็นเอ เพื่อใช้ในการยืนยันอัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต
“เรามีร่างผู้เสียชีวิตกว่า 57 ศพ แต่จำนวนตัวเลขอาจจะเพิ่มขึ้นอีก สภาพศพส่วนใหญ่ไหม้เกรียมจนไม่เหลือเค้าเดิมและเกาะติดกัน” ดร.เสมี จามาลี แพทย์จากโรงพยาบาลจินนาห์ในเมืองการาจี บอกกับเอเอฟพี
จามาลีบอกว่า มีศพเด็กอย่างน้อย 6 รายที่ติดแน่นกับศพที่น่าจะเป็นแม่เด็ก และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแยกศพเหล่านี้ออกจากกัน “พวกเขาไม่อยู่ในสภาพที่จะดูออกได้แล้วว่าเป็นใคร ทำได้เพียงตรวจสอบดีเอ็นเอเท่านั้น” จามาลีกล่าว
รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า รถบัสที่เกิดเหตุร้ายคันนี้อัดแน่นไปด้วยจำนวนผู้โดยสารกว่า 60 ราย ออกเดินทางจากเมืองการาจี มุ่งหน้าไปยังเมืองชิการ์ปูร์ ส่วนรถบบรทุกน้ำมันนั้นวิ่งผิดเลนย้อนศรมา จนกระทั่งเกิดการประสานงากัน
กัล ฮัสซัน ชาวเมืองการาจี บอกว่าเขาต้องสูญเสียญาติไป 9 คนจากเหตุครั้งนี้ ซึ่งในจำนวนนั้นมีหัวหน้าครอบครัววัย 80 ปีและเด็กอายุ 2 ขวบด้วย
“พวกเขาทั้งหมดโดยสารอยู่บนรถบัสคันนั้น ตอนนี้ผมจำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นใคร ศพพวกเขาถูกเผาจนเกรียมไปหมดแล้ว” เขากล่าว เจ้าหน้าที่ ราโอ มูฮัมหมัด อันวาร์ บอกว่า ตอนนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบดูว่าคนขับรถบรรทุกน้ำมันเป็นฝ่ายผิดผู้เดียวหรือ ไม่ เพราะคนขับรถบัสก็อาจจะประมาทด้วย
ทั้งนี้ มีผู้โดยสารบางส่วนของรถบัสที่รอดชีวิตออกมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ด้วยการกระโดดหนีออกมาทางหน้าต่างของรถบัส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น