หลังคริสต์มาสควรเริ่มต้นการฉีดวัคซีนต่อต้านไวรัสโคโรนา
แต่กว่าทุกคนที่ประสงค์จะฉีดจะได้รับวัคซีนจริงก็กินเวลาไปจนถึงปีหน้า Jens Spahn
รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหพันธ์ฯ ได้เสนอระเบียบข้อบังคับวัคซีนเมื่อวันที่ ๑๘
ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีเพียงสามกลุ่ม ซึ่งเป็นจำนวนเพียงแค่ครึ่งเดียวจากข้อเสนอของคณะกรรมาธิการวัคซีนที่รับผิดชอบ
(Stiko)
กฎระเบียบของเขาทำให้เป็นไปได้ว่าแม้ภายในกลุ่มเดียวกันก็มีการจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง ซึ่งต่างจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
ผู้ใดจะได้รับวัคซีนก่อน? ที่ได้รับความสำคัญสูงสุด ได้แก่ ประชาชนที่มีวัยตั้งแต่
๘๐ ปีขึ้นไป
รวมถึงทุกคนที่เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล
ผู้มีหน้าที่ดูแลประชาชนสูงอายุหรือประชาชนที่ต้องได้รับการดูแล นอกจากนั้น ในกลุ่มแรกยังรวมผู้ที่ทำงานในหอผู้ป่วยหนัก
ในแผนกฉุกเฉิน ในหน่วยกู้ภัยหรือในศูนย์วัคซีน
กลุ่มไหนอยู่ในอันดับที่ ๒? ในกลุ่มที่สองที่มีความสำคัญสูง ได้แก่
ทุกคนที่มีวัยตั้งแต่ ๗๐ ปีขึ้นไป
รวมถึงประชาชนที่มีความเสี่ยงสูงมากหรือความเสี่ยงสูงสำหรับการป่วยหนัก ในจำนวนนี้รวมผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม
รวมทั้งประชาชนที่เป็นดาวน์ซินโดรมและผู้ปลูกถ่ายอวัยวะ บุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ที่ต้องรับการดูแลก็ได้รับอนุญาตให้ฉีดวัคซีนได้
เช่นเดียวกับประชาชนในสถานลี้ภัยหรือที่พำนักสำหรับคนไร้บ้าน
ใครอยู่ในกลุ่มที่ ๓? ในกลุ่มที่สาม ได้แก่
ประชาชนทุกคนที่มีวัยตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป
ผู้มีน้ำหนักเกินขนาดหนักด้วยดัชนีมวลรวมร่างกายสูงกว่า ๓๐
พร้อมโรคไตหรือโรคตับเรื้อรัง
คนไข้ที่มีความบกพร่องด้านภูมิคุ้มกันโรคและผู้ติดเชื้อเอชไอวี รวมถึงประชาชนที่เป็นโรคเบาหวาน
โรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูง นอกจากนั้น
ที่รวมอยู่ด้วยก็ได้แก่ ผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ
รวมทั้งประชาชนที่มีโรคแพ้ภูมิตนเองหรือโรคไขข้ออักเสบ
ในความสำคัญลำดับสามยังรวมถึงพนักงานขององค์กรรัฐธรรมนูญ
รัฐบาลและฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ศุลกากร ดับเพลิง ปกป้องสาธารณภัย และยุติธรรม
รวมทั้งการค้าปลีกอาหาร
นอกจากนั้นยังรวมประชาชนที่มีเงื่อนไขการทำงานที่ล่อแหลม เช่น คนงานที่ทำงานเป็นฤดูกาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น