ก่อนหน้านี้ผู้เขียนใช้ชีวิตเรียบง่าย สบาย ๆ อยู่กันสองคน อยากตื่นสายก็ตื่น อยากไปไหนก็ไป ไม่อยากก็ไม่ไป แต่วันดีคืนดีหลังสถานะกลายเป็น “ยาย” เป็น “ย่า” ภายในเวลาห่างกันเพียงแค่หนึ่งเดือนหนึ่งวัน ก็ต้องโบกมืออำลาชีวิตเรียบง่ายแสนสงบของเราไปเลย เพราะต้องรับบทบาทเลี้ยงหลานในวันที่พ่อแม่เขาไม่ว่าง ไอ้เราก็ว่างวายจากการเลี้ยงเด็กมาเป็นสิบ ๆ ปี จะรื้อฟื้นความทรงจำมาใช้ใหม่ก็ดูจะใช้กับเด็กสมัยนี้ไม่ได้เสียแล้ว เพราะผดุงครรภ์ที่แวะเวียนมาดูแลเด็กจะให้คำแนะนำอย่างที่เราไม่เคยได้ยิน เอ้า แล้วยังไงกันละเนี่ย ก็ต้องเชื่อเขาสิคะคุณ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้นี่นา
การมีหลานในวัยไล่เรี่ยกันมันก็ทำให้มีข้อสังเกตว่าเด็กแต่ละคนมีพัฒนาการที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งนั่นก็น่าจะขึ้นกับทั้งองค์ประกอบเรื่องเพศ สิ่งแวดล้อมและการเลี้ยงดูรวม ๆ กัน หลานยายเธออยู่กับยายกับแม่ที่ช่างพูดช่างคุย จึงเริ่มต้นพูดได้เร็ว ในขณะที่หลานย่าโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่พ่อพูดภาษาเยอรมัน แม่พูดไทย และทั้งสองคนคุยกันด้วยภาษาอังกฤษ เจ้าหลานเริ่มต้นพูดได้ในวัยไม่ถึงขวบ แต่แล้วก็หยุดไปเฉย ๆ เริ่มพูดด้วยภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ ใยย่าเรียกภาษาของหลานว่าภาษาต่างดาว เจ้าตัวดูสนุกสนานคุยจ้อกับภาษาที่ตัวเองรู้เรื่องอยู่คนเดียว เอาล่ะสิ ย่าก็เดือดเนื้อร้อนใจเที่ยวหาข้อมูลว่าแบบนี้ปกติหรือไม่ปกติอย่างไร พบว่าไม่ใช่ปัญหาที่เจออยู่ครอบครัวเดียว มีเคสแบบนี้เยอะแยะมากมาย บางรายถึงกับล่วงเลยไปถึงวัยสี่ห้าขวบก็มี เอ๊ะ แล้วจะแก้อย่างไรได้บ้างน้า ในการหาข้อมูลได้ไปเจอเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับการกระตุ้นให้เด็กพูด ซึ่งเป็นวิธีที่ผู้เขียนใช้กับลูก ๆ เสมอและได้ผลดี แสดงว่าวิธีการของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ก็ไม่ได้แย่ไปเสียทั้งหมดนิ รู้สึกเสียดายถ้าจะเก็บไว้อ่านคนเดียว รออะไร ก็เอามาบอกต่อสิเล่า
คุณหมอเด็กหลายท่านแนะนำว่าการเล่านิทานเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเสริมสร้างพัฒนาการให้แก่เด็กและเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ยังเป็นการใช้เวลาร่วมกันภายในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ทุกวัน อีกทั้งยังสร้างความทรงจำที่ดีให้เกิดขึ้นกับเด็กอีกด้วย
เรื่องราวในนิทานเปรียบเสมือนเสถานการณ์สมมุติที่ช่วยให้เด็กได้ฝึกคิดตาม เป็นแบบฝึกหัดในอีกรูปแบบหนึ่งที่สนุกและเข้าใจง่าย โดยเด็กที่ฟังนิทานเป็นประจำจะมีทักษะการเรียนรู้ทางภาษา มีทักษะการฟังและสรุปความและเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีสมาธิที่จดจ่อกับการฟัง ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากในการเรียน
ประโยชน์ของการเล่านิทานเป็นการสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่แก่เด็ก เนื่องจาก
เสริมปัญญาเด็ก นิทานจะช่วยให้เด็กฉลาดทั้งทางสติปัญญา (IQ) และฉลาดทางอารมณ์ (EQ)
ทำให้เด็กช่างคิด ช่างถาม ช่างสังเกต
เรียนรู้ภาษา มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษา
ฝึกจับประเด็น การเล่าซ้ำจะทำให้เด็กจำได้ทั้งเรื่อง มองภาพรวมเข้าใจเรื่องได้เร็ว
ฝึกสมาธิ การตั้งใจฟังนิทานเป็นการฝึกสมาธิให้เด็ก
จินตนาการ การฟังนิทานเป็นการเสริมสร้างจินตนาการ
คุณธรรม ได้รับการปลูกฝังคุณธรรมตั้งแต่เด็กจากเนื้อหาในนิทาน
รักการอ่าน การอ่านให้ฟังบ่อย ๆ ช่วยปลูกฝังให้เด็กมีนิสัยรักการอ่าน
ความสุข บรรยากาศการเล่านิทานเป็นความสุขในครอบครัว
นับว่ามีประโยชน์มากทีเดียว นอกจากนั้นยังเป็นคำแนะนำที่ไม่ยากในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน อ่านให้ฟังหรือเล่าปากเปล่าก็ได้ คนพูดมากอย่างผู้เขียนนี้สบายเลยทีเดียว เสียอย่างเดียว ห้ามเล่าไม่เหมือนเดิม เพราะเจ้าตัวเล็กจะคอยท้วงว่าเมื่อวานไม่ใช่แบบนี้นี่นา !!
เรียบเรียงโดย "เอื้อยอ้าย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น