ในผู้ป่วยบางโรคการกินพืชผักหรือผลไม้บางชนิดกลับเป็นสิ่งต้องห้าม
เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อโรคที่เป็นอยู่ได้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ได้เคยเผยแพร่ผ่านทวิตเตอร์ “@FDAThai” โดยให้ข้อมูลว่า
- ผู้ป่วยโรคไต ควรหลีกเลี่ยงการกินพืชผัก-ผลไม้ที่มีสารของกรดออกซาลิกในปริมาณสูง เช่น มันสำปะหลัง ดอกกระหล่ำ ผักโขม ปวยเล้ง เป็นต้น เนื่องจากกรดออกซาลิกสามารถจับกับแคลเซียมตกตะกอนเป็นก้อนนิ่วที่ไต นอกจากนั้น ผู้ป่วยไตเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่มีโปแตสเซียมสูง เช่น หน่อไม้ ใบขี้เหล็ก ทุเรียน มะละกอ เป็นต้น
- ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นโรคเลือดจางที่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติทางพันธุกรรม มีปริมาณธาตุเหล็กสูง แต่ไม่สามารถนำมาสร้างเม็ดเลือดแดงเองได้ ทำให้เกิดภาวะธาตุเหล็กสูงในเลือด ซึ่งเป็นอันตราย ฉะนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ตับสัตว์ เครื่องในสัตว์ รวมไปถึงผักผลไม้ที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ผักกูด ถั่วฝักยาว ผักแว่น เห็ดฟาง ใบตำลึง ใบแมงลัก ส้ม เป็นต้น
- ผู้ป่วยโรคไทรอยด์ สิ่งที่ผู้ป่วยกลุ่มนี้พึงระวัง คือ พืชวงศ์ Cruciderae ได้แก่ กระหล่ำปลี ทูนิปและเมล็ดพันธุ์ผักกาดชนิดต่าง ๆ ซึ่งผลที่เกิดขึ้น คือ จะทำให้เกิดเป็นโรคคอหอยพอก แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำลายโดยการต้ม จึงควรกินกระหล่ำปลีสุกดีกว่ากระหล่ำปลีต้ม
- ผู้ป่วยโรคกระเพาะและลำไส้ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคพริก เพราะจะทำให้กระเพาะอักเสบได้ ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร หากกินพริกปริมาณมากอาจทำให้อาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารหนักมากขึ้น เนื่องจากพริกมีสารที่เรียกว่า “แคปไซซิน” ซึ่งทำให้เกิดความเผ็ดร้อน พบมากในส่วนของรกพริก (ไส้แกนกลาง) และเมล็ดพริก ความเผ็ดของพริกทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารและทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น