วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2563

อาบน้ำให้เป็น

       คนไทยเราต้องอาบน้ำทุกวันเป็นเรื่องปกติ  เช้าตื่นขึ้นมาก็ต้องอาบน้ำล้างหน้า ก่อนแต่งเนื้อแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียน มหาวิทยาลัยหรือที่ทำงานก็แล้วแต่  เย็นค่ำกลับบ้านมา ก่อนกินข้าวบางคนอาจจะขออาบน้ำก่อน เพราะความเหนียวเนอะหนะจากเหงื่อไคลหรือฝุ่นละอองที่ติดตัวมาจากนอกบ้าน บางคนก็กินข้าวแล้วค่อยไปอาบก่อนเข้านอน ยิ่งในช่วงเวลาที่อากาศร้อน ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง บางคนอาบวันละหลาย ๆ รอบก็มี  ขนาดไปเที่ยวหรือใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน บางคนก็ยังไม่เลิกนิสัยอาบน้ำทุกวัน  ส่วนตัวผู้เขียนนั้นบอกได้เลย ว่าถ้าเข้าหน้าหนาวแล้วละก้อ ขออาบน้ำ (แบบ) แมวก็พอละจ้า  แต่ตามจริงการอาบน้ำที่พวกเราคิดว่าเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรก ทำให้ร่างกายผ่อนคลายสบายใจนั้น  ไม่ใช่แค่อาบ ๆ ให้เสร็จ ๆ ไปก็พอ  เพราะถ้าอาบไม่ถูกต้องเหมาะสมก็กลายเป็นโทษได้น้า  บางคนถึงแก่เสียชีวิตก็มีหากปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง  ผู้เขียนเพิ่งอ่านพบเรื่องอันตรายจากการอาบน้ำมา ก็อดไม่ได้ที่จะเอามาสาธยายต่อตามเคย สรุป ๆ ก็คือ

๑.    ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ ต้องระวังการอาบน้ำอุ่น ๆ คนเดียวให้มาก ๆ  เนื่องจากมีสิทธิจะล้มในห้องน้ำสูงมาก  เพราะโดยปกติแล้วเวลาอาบน้ำอุ่น อุณหภูมิของน้ำจะสูงกว่าอุณหภูมิของร่างกาย  ซึ่งอุณหภูมิที่สูงจะไปทำให้หลอดเลือดขยายตัว  ดังนั้น ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำจะมีอาการที่เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ และเป็นสาเหตุให้เป็นลมหมดสติได้

๒.     สตรีที่สุขภาพไม่แข็งแรง  เพศหญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่าเพศชายอยู่แล้ว  ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่สบายด้วยแล้วละก้อ ภูมิต้านทานของร่างกายก็จะยิ่งต่ำลงไปกว่าเดิม  ดังนั้น ผู้หญิงที่สุขภาพไม่ดีจึงไม่ควรอาบน้ำเย็น เพราะมันจะไปกระตุ้นให้เป็นโรคหวัดได้ง่าย

๓.     หลังดื่มแอลกอฮอล์  หลายคนคิดว่าหลังดื่มเหล้าจนเมามาย หัวหูแดงก่ำ ถ้าได้อาบน้ำเสียหน่อยอุณหภูมิในร่างกายคงลดลงและอาการดีขึ้น  ซึ่งไม่จริง เพราะหลังดื่มสุรายาเมา แอลกอฮอล์จะไปยับยั้งการทำงานของตับ ทำให้การปล่อยกลูโคสออกมาสู่กระแสเลือดลดน้อยลง  แต่ช่วงเวลาอาบน้ำร่างกายของเราต้องการกลูโคสมากกว่าเดิม เพราะฉะนั้นการอาบน้ำหลังกินเหล้าจึงทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดไม่เพียงพอ  ดังนั้น มันจึงจะทำให้เกิดอาการเวียนหัว หน้ามืด ตาลาย ร่างกายไร้เรี่ยวแรง และเสี่ยงต่อการล้มในห้องน้ำได้

๔.    หลังการออกกำลังกายเต็มที่  ช่วงเวลานี้ร่างกายหรือสมองจะทำงานอย่างหนัก  ดังนั้น ร่างกายจึงต้องการการพักผ่อนสักพักนึงก่อนการอาบน้ำ  ถ้ายังฝืนไปอาบทันทีอาจเป็นเหตุให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่เพียงพอในขณะที่อาบน้ำได้ และสามารถนำไปสู่การเป็นลมหมดสติได้

๕.     เมื่อมีไข้สูง  ผู้ที่มีอาการไม่สบายไม่ควรอาบน้ำ  เนื่องจากเวลาที่ป่วยเป็นไข้อุณหภูมิร่างกายจะสูงขึ้นได้ถึง ๓๘-๔๐ องศาเซลเซียส  ทำให้ปริมาณการเผาผลาญความร้อนในร่างกายเพิ่มขึ้น ๒๐%  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ร่างกายอ่อนแอมากที่สุด  ถ้าอาบน้ำไปอาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย จนถึงขนาดล้มหมอนนอนเสื่อได้

๖.     หลังรับประทานอาหาร  หลังการกินข้าวเสร็จใหม่ ๆ ไม่ควรอาบน้ำทันที  เพราะหลังกินอาหาร เลือดจะไหลไปเลี้ยงที่ระบบย่อยอาหารส่วนใหญ่  ถ้าเราไปอาบน้ำในเวลานี้ ก็จะต้องมีเลือดบางส่วนแบ่งไปเลี้ยงที่อวัยวะส่วนอื่น ๆ ด้วย  ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ อาหารไม่ย่อย และเกิดอาการป่วยตามมาได้

จริง ๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่เราเคยได้ยินได้ฟังและรับรู้กันมาก่อนแล้ว ผู้เขียนจำได้ว่าตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ หลังกินข้าวเสร็จ ผู้หลักผู้ใหญ่จะบอกตลอดว่าอย่าเพิ่งไปอาบน้ำ รอให้ข้าวเรียงเม็ดเสียก่อน หรือเวลาไม่สบายเป็นไข้ ก็จะได้รับการเตือนไม่ให้อาบน้ำ โดยเฉพาะน้ำเย็น ๆ  แต่แม่จะเอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้บ่อย ๆ จนไข้ลดและแน่ใจแล้วว่าหายไข้แน่ จึงได้รับอนุญาตให้อาบน้ำได้  แต่บางเรื่องยอมรับว่าไม่รู้ เช่น อาบน้ำหลังกินเหล้า นึกเหมือนกันว่าน่าจะทำให้สร่างเมาเร็วขึ้น หรือหลังการออกกำลังกายเสร็จ เหงื่อท่วมตัว ก็อยากไปอาบน้ำเร็ว ๆ  จริงด้วยสินะที่เขาว่าคนเราสามารถเรียนรู้ได้ไม่สิ้นสุด มีเรื่องใหม่ ๆ ให้เรียนรู้ได้ตลอดชีวิต


ข้อมูล มูลนิธิหมอชาวบ้าน

เรียบเรียงโดย “เอื้อยอ้าย”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น