คนไทยเราต้องอาบน้ำทุกวันเป็นเรื่องปกติ เช้าตื่นขึ้นมาก็ต้องอาบน้ำล้างหน้า ก่อนแต่งเนื้อแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียน มหาวิทยาลัยหรือที่ทำงานก็แล้วแต่ เย็นค่ำกลับบ้านมา ก่อนกินข้าวบางคนอาจจะขออาบน้ำก่อน เพราะความเหนียวเนอะหนะจากเหงื่อไคลหรือฝุ่นละอองที่ติดตัวมาจากนอกบ้าน บางคนก็กินข้าวแล้วค่อยไปอาบก่อนเข้านอน ยิ่งในช่วงเวลาที่อากาศร้อน ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง บางคนอาบวันละหลาย ๆ รอบก็มี ขนาดไปเที่ยวหรือใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน บางคนก็ยังไม่เลิกนิสัยอาบน้ำทุกวัน ส่วนตัวผู้เขียนนั้นบอกได้เลย ว่าถ้าเข้าหน้าหนาวแล้วละก้อ ขออาบน้ำ (แบบ) แมวก็พอละจ้า แต่ตามจริงการอาบน้ำที่พวกเราคิดว่าเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรก ทำให้ร่างกายผ่อนคลายสบายใจนั้น ไม่ใช่แค่อาบ ๆ ให้เสร็จ ๆ ไปก็พอ เพราะถ้าอาบไม่ถูกต้องเหมาะสมก็กลายเป็นโทษได้น้า บางคนถึงแก่เสียชีวิตก็มีหากปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง ผู้เขียนเพิ่งอ่านพบเรื่องอันตรายจากการอาบน้ำมา ก็อดไม่ได้ที่จะเอามาสาธยายต่อตามเคย สรุป ๆ ก็คือ
๑. ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ ต้องระวังการอาบน้ำอุ่น ๆ คนเดียวให้มาก ๆ เนื่องจากมีสิทธิจะล้มในห้องน้ำสูงมาก เพราะโดยปกติแล้วเวลาอาบน้ำอุ่น
อุณหภูมิของน้ำจะสูงกว่าอุณหภูมิของร่างกาย
ซึ่งอุณหภูมิที่สูงจะไปทำให้หลอดเลือดขยายตัว ดังนั้น
ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำจะมีอาการที่เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ
และเป็นสาเหตุให้เป็นลมหมดสติได้
๒. สตรีที่สุขภาพไม่แข็งแรง
เพศหญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่าเพศชายอยู่แล้ว ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่สบายด้วยแล้วละก้อ
ภูมิต้านทานของร่างกายก็จะยิ่งต่ำลงไปกว่าเดิม
ดังนั้น ผู้หญิงที่สุขภาพไม่ดีจึงไม่ควรอาบน้ำเย็น
เพราะมันจะไปกระตุ้นให้เป็นโรคหวัดได้ง่าย
๓. หลังดื่มแอลกอฮอล์ หลายคนคิดว่าหลังดื่มเหล้าจนเมามาย หัวหูแดงก่ำ
ถ้าได้อาบน้ำเสียหน่อยอุณหภูมิในร่างกายคงลดลงและอาการดีขึ้น ซึ่งไม่จริง เพราะหลังดื่มสุรายาเมา
แอลกอฮอล์จะไปยับยั้งการทำงานของตับ
ทำให้การปล่อยกลูโคสออกมาสู่กระแสเลือดลดน้อยลง
แต่ช่วงเวลาอาบน้ำร่างกายของเราต้องการกลูโคสมากกว่าเดิม
เพราะฉะนั้นการอาบน้ำหลังกินเหล้าจึงทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดไม่เพียงพอ ดังนั้น มันจึงจะทำให้เกิดอาการเวียนหัว
หน้ามืด ตาลาย ร่างกายไร้เรี่ยวแรง และเสี่ยงต่อการล้มในห้องน้ำได้
๔. หลังการออกกำลังกายเต็มที่
ช่วงเวลานี้ร่างกายหรือสมองจะทำงานอย่างหนัก ดังนั้น
ร่างกายจึงต้องการการพักผ่อนสักพักนึงก่อนการอาบน้ำ
ถ้ายังฝืนไปอาบทันทีอาจเป็นเหตุให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่เพียงพอในขณะที่อาบน้ำได้
และสามารถนำไปสู่การเป็นลมหมดสติได้
๕. เมื่อมีไข้สูง ผู้ที่มีอาการไม่สบายไม่ควรอาบน้ำ
เนื่องจากเวลาที่ป่วยเป็นไข้อุณหภูมิร่างกายจะสูงขึ้นได้ถึง ๓๘-๔๐
องศาเซลเซียส ทำให้ปริมาณการเผาผลาญความร้อนในร่างกายเพิ่มขึ้น
๒๐%
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ร่างกายอ่อนแอมากที่สุด ถ้าอาบน้ำไปอาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย
จนถึงขนาดล้มหมอนนอนเสื่อได้
๖. หลังรับประทานอาหาร หลังการกินข้าวเสร็จใหม่ ๆ
ไม่ควรอาบน้ำทันที เพราะหลังกินอาหาร
เลือดจะไหลไปเลี้ยงที่ระบบย่อยอาหารส่วนใหญ่
ถ้าเราไปอาบน้ำในเวลานี้
ก็จะต้องมีเลือดบางส่วนแบ่งไปเลี้ยงที่อวัยวะส่วนอื่น ๆ ด้วย ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่
อาหารไม่ย่อย และเกิดอาการป่วยตามมาได้
จริง
ๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่เราเคยได้ยินได้ฟังและรับรู้กันมาก่อนแล้ว ผู้เขียนจำได้ว่าตั้งแต่สมัยเด็ก
ๆ หลังกินข้าวเสร็จ ผู้หลักผู้ใหญ่จะบอกตลอดว่าอย่าเพิ่งไปอาบน้ำ
รอให้ข้าวเรียงเม็ดเสียก่อน หรือเวลาไม่สบายเป็นไข้
ก็จะได้รับการเตือนไม่ให้อาบน้ำ โดยเฉพาะน้ำเย็น ๆ แต่แม่จะเอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้บ่อย ๆ
จนไข้ลดและแน่ใจแล้วว่าหายไข้แน่ จึงได้รับอนุญาตให้อาบน้ำได้ แต่บางเรื่องยอมรับว่าไม่รู้ เช่น
อาบน้ำหลังกินเหล้า นึกเหมือนกันว่าน่าจะทำให้สร่างเมาเร็วขึ้น
หรือหลังการออกกำลังกายเสร็จ เหงื่อท่วมตัว ก็อยากไปอาบน้ำเร็ว ๆ
จริงด้วยสินะที่เขาว่าคนเราสามารถเรียนรู้ได้ไม่สิ้นสุด มีเรื่องใหม่ ๆ
ให้เรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
ข้อมูล มูลนิธิหมอชาวบ้าน
เรียบเรียงโดย
“เอื้อยอ้าย”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น