ผลการสืบสวน

        ๙ วันหลังการก่อวินาศกรรมที่ตลาดคริสต์มาสหน้าโบสถ์ Gedächtniskirche ที่เบอร์ลินมีการจับกุมบุรุษชาวทูนิเซียวัย ๔๐ ปีจากเบอร์ลิน ตามการเปิดเผยของคณะอัยการสหพันธ์ฯเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมีการปล่อยตัวอีกครั้งหนึ่งในวันที่ ๒๙ ธันวาคมที่ผ่านมา โดยโฆษกของคณะอัยการสหพันธ์ได้กล่าวว่าเนื่องจากการไต่สวนให้ผลว่า “ไม่ได้เป็นบุคคลที่ติดต่อกับ Anis Amri”  เธอกล่าวต่อไปว่าผู้ไต่สวนเห็นว่าวิดีทัศน์ที่แสดงภาพ Amri ที่ได้รับการเผยแพร่จากกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) หลังการก่อวินาศกรรมเป็นของจริง  การไต่สวนเส้นทางหลบหนีหลังการก่อวินาศกรรมของเขาให้ผลว่าเขาเดินทางผ่านเนเธอร์แลนด์ไปยังฝรั่งเศสและต่อไปยังอิตาลี  โดยยืนยันได้จากซิมการ์ดเนเธอร์แลนด์ รวมถึงตั๋วรถไฟที่ออกที่ Chambéry ของฝรั่งเศส โดยมีจุดหมายที่มิลาน  ทั้งคนขับรถบรรทุกชาวโปแลนด์ที่เบอร์ลินและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มิลานถูกยิงด้วยอาวุธปืนคาลิเบอร์ ๒๒  เป็นอาวุธเดียวกันหรือไม่ขณะนี้ต้องได้รับการพิสูจน์  ที่มิลานเขายิงด้วยอาวุธของ Erma ผู้ผลิตเยอรมัน  ก่อนหน้านี้สื่อหลายแขนงรายงานว่าระบบเบรกอัตโนมัติของรถบรรทุกเป็นตัวหยุดการขับของผู้ก่อวินาศกรรม  ตามข้อมูลของ “Süddeutsche Zeitung” NDR และ WDR รถบรรทุกจึงหยุดหลังเพียง ๗๐-๘๐ เมตร  เนื่องจากเครื่องยนต์ประกอบด้วยการเบรกอัตโนมัติ  กลุ่มผู้ไต่สวนภายใต้การนำของคณะอัยการทั่วไปสหพันธ์ได้ผลลัพธ์นี้  ตามข้อมูลจากแวดวงรัฐบาลเบอร์ลิน ระบบเบรกอัตโนมัตินี้ช่วยชีวิตประชาชนไว้  ในศูนย์ป้องกันการก่อการร้ายที่เบอร์ลินมีการถกเถียงกันอย่างน้อย ๒ ครั้งเกี่ยวกับคำถามว่า Amri  วางแผนการก่อวินาศกรรมในประเทศเยอรมันหรือไม่  ทั้งสองครั้งลงมติว่าไม่น่าเป็นไปได้  แน่ชัดว่าเขาค้นหาในเน็ตถึงวิธีการประกอบระเบิดและการทำวัตถุระเบิด  ไม่กี่นาทีก่อนหน้าการลงมือเขายังแช็ทกับเพื่อนร่วมศาสนาและส่งเซลฟีภาพตัวเองจากรถบรรทุก