วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2560

ผลเลือกตั้งทั่วไปในเยอรมัน

        เหมือนทั้งโลกพุ่งความสนใจมาอยู่ที่เบอร์ลินในวันเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายนที่ผ่านมา  ประชาชนจาก ๑๓๗ ประเทศวิ่งผ่านเมืองหลวง สำนักนายกรัฐมนตรีและสภาผู้แทนราษฎรไปจนถึงสัญลักษณ์ของเมือง ที่ประตู Brandenburger Tor นักกีฬามาถึงเส้นชัย  สภาพอากาศตอนเช้าหม่นมัว แต่อารมณ์ชื่นบาน  การแข่งขันวิ่งมาราธอนได้รับการถ่ายทอดไปทั่วโลกและภายหลังผลการเลือกตั้งทั่วไป  ซึ่งก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนในช่วงเย็น  แนวโน้มประเทศเยอรมันขยับไปทางขวา  สหพันธ์สาธารณรัฐจะเปลี่ยนแปลงไป  เป็นครั้งแรกนับเป็นเวลากว่า ๖๐ ปีที่พรรคเอียงขวา Alternative für Deutschland (AfD) ได้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรเยอรมัน  สำหรับพรรค CDU/CSU พร้อมกับหัวหน้ารัฐบาลที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในยุโรปนับว่าได้รับผลคะแนนเสียงที่ย่ำแย่ที่สุดในช่วงระยะเวลาการเป็นนายก ฯ ของ Angela Merkel  พรรคร่วมรัฐบาลผสม SPD ตกต่ำ บุคลากรของพรรคจะเปลี่ยนแปลงไป  Martin Schulz ตัวแทนลงชิงชัยตำแหน่งนายก ฯ ของพรรคประกาศการเข้าสู่การเป็นฝ่ายค้าน  ทำให้พรรคสังคมนิยมที่ได้รับความเสียหายปิดทางเลือกที่ไม่ให้พรรค AfD ซึ่งได้รับเลือกมากที่สุดเป็นอันดับสามได้เป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน  พรรค FDP หวนกลับคืนสู่รัฐสภาอย่างน่าประทับใจหลังความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี ๒๐๑๓  พรรคซ้ายและพรรคเขียวยังคงที่เหมือนเดิม  แต่ประเทศเยอรมันซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่ได้รับความเชื่อถือจากบรัสเซลส์ วอชิงตัน มอสโคว์ ปารีสทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองจะยังคงมีเสถียรภาพเท่าใด ?
        ความเป็นไปได้เพียงประการเดียวในการจับมือจัดรัฐบาลผสม ได้แก่ การผสมสีธงชาติจาไมกาจาก พรรค CDU/CSU, FDP และพรรคเขียว  ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในระดับสหพันธ์  และการทดสอบที่แคว้นชเลสวิก-โฮลสไตน์นับแต่ฤดูร้อนปีนี้ก็สั้นและยากที่จะเปรียบเทียบกับในระดับสหพันธ์  หลังการคำนวณผลล่วงหน้าผู้ประท้วงได้รวมตัวกันต่อต้านฝ่ายขวาที่กลางกรุงเบอร์ลิน  โดยประท้วงการเหยียดผิวและน้ำเสียงของพรรค AfD  แมร์เคลปรากฎตัวที่ศูนย์กลางพรรคและได้รับการไชโยโห่ร้องเหมือนกับว่าได้รับคะแนนเสียง ๔๐แมร์เคลให้คำมั่นว่า CDU/CSU ประสงค์จะชนะใจผู้เลือกพรรค AfD กลับคืนผ่านนโยบายที่ดี การแก้ไขปัญหาและการใส่ใจต่อความวิตกกังวล  แม้ว่าเธอจะยอมรับว่านางคาดผลคะแนนเสียงที่ดีกว่านี้  แต่หลังการรับผิดชอบเป็นรัฐบาลมาถึง ๑๒ ปีไม่ใช่เรื่องธรรมดาอยู่เองที่ CDU/CSU จะบรรลุเป้าหมายทางกลยุทธ์ นั่นคือพรรคได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง ได้รับมอบหมายให้เป็นรัฐบาล และไม่มีใครก่อตั้งรัฐบาลได้หากไม่มี CDU/CSU  อย่างไรก็ดี จำนวนมากเห็นว่าแมร์เคลต้องรับผิดชอบต่อการสูญเสียคะแนนอย่างหนักของ CDU/CSU  ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ผู้หนึ่งได้เสนอสถิติที่แสดงว่าผู้ที่ก่อนหน้านี้ไม่ไปเลือกตั้ง ๑.๒ ล้านคนขณะนี้ได้เทใจลงคะแนนเสียงให้ AfD และผู้ที่ก่อนหน้านี้เคยลงคะแนนเสียงให้ CDU/CSU ซึ่งนับเป็นบาดแผลลึก  ในแวดวง CDU/CSU เห็นว่านายก ฯ แมร์เคลก่อให้เกิดความแตกแยกในประเทศจากนโยบายผู้ลี้ภัยในปี ๒๐๑๕ ของเธอ  และทำให้พรรคประชานิยมขวาจัดได้รับแรงขับเคลื่อน  Horst Seehofer หัวหน้าพรรค CSU ได้พยายามดึงผู้ถือหาง AfD มายัง CDU/CSU ด้วยการต่อต้านแมร์เคลอย่างหนัก โดยการกดดันแมร์เคล ขู่จะฟ้องร้องศาลรัฐธรรมนูญและเรียกร้องพรมแดนสูงสุดของผู้ลี้ภัยจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ คนต่อปี  ซึ่งคงแทบไม่สามารถหยุดยั้งเขาไม่ให้นำมาเป็นเงื่อนไขการเจรจาต่อรองตั้งรัฐบาลผสมได้  เนื่องจากแมร์เคลไม่ต้องการ รวมทั้งพรรคเขียวด้วย  ซึ่งจะเป็นปัญหาของพันธมิตรสีธงชาติจาไมกาที่ขณะนี้ดูเหมือนว่าเป็นความเป็นไปได้หนึ่งเดียว  การเจรจาต่อรองต้องหนักหน่วงมาก  Seehofer ได้กล่าวในเย็นวันที่ ๒๔ กันยายนที่ผ่านมาถึง “ความผิดหวังอย่างหนัก”  ในปี ๒๐๑๘ จะมีการเลือกตั้งที่แคว้นไบเอิร์น 
        ขณะนี้ประเทศเยอรมันเผชิญกับสิ่งที่เป็นเรื่องปกตินานแล้วในประเทศเพื่อนบ้าน  เพียงแต่ว่าประเทศเยอรมันมีอดีตที่เลวร้ายกับนาซี  ดังนั้น การเลือกตั้งที่ได้ผลเช่นนี้ จึงได้รับการเพ่งเล็งจากทั่วโลก  ขณะนี้มีความหวาดกลัวว่า AfD จะเลือกวาจาที่เป็นพิษกับบรรยากาศในประเทศและเป็นหนทางยาวไกลสำหรับพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่จะได้ใจผู้ถือหาง AfD กลับคืนมา

ผลการเลือกตั้ง  CDU/CSU ๓๓.๐% (-๘.๖) SPD ๒๐.๕% (๕.๒) พรรคซ้าย ๙.๒% (+๐.๖) พรรคเขียว ๘.๙% (+๐.๕)  FDP ๑๐.๗% (+๖)  AfD ๑๒.๖% (+๗.๙ผู้ไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ๗๖.๕% (ปี ๒๐๑๓ มีจำนวน ๗๑.๕%)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น