เงินกู้เรียน

          ตั้งแต่กลางปี ๒๐๑๙ เป็นต้นไปนักศึกษาและนักเรียนควรได้รับเงินกู้เพื่อสนับสนุนการศึกษา (Bafög) สูงกว่าเดิมอย่างชัดเจน  โดยจนกว่าจะถึงปี ๒๐๒๒ สหพันธ์ฯประสงค์จะใช้เงินเพื่อการปฏิรูปมากกว่า ๑.๘ พันล้านยูโร ตามกฎหมายร่างของ Anja Karliczek รัฐมนตรีกระทรวงศึกษา  ตั้งแต่เทอมการศึกษาฤดูหนาว ปี ๒๐๑๙ เป็นต้นไปจนถึงปี ๒๐๒๐ ควรมีการทะยอยเพิ่มยอดจำนวนเงินสนับสนุนสูงสุดสองขั้นจาก ๗๓๕ ยูโร เป็นรวมทั้งสิ้นราว ๘๕๐ ยูโร  โดยผู้ที่จะได้รับเงินจำนวนนี้ ได้แก่ นักศึกษาที่ไม่ได้อาศัยอยู่กับบิดามารดาและต้องทำประกันสุขภาพเอง  นอกจากนั้น ผู้ที่ได้รับการสนับสนุนไม่ต้องหวั่นเกรงว่าจะมีหนี้ตลอดชีวิต  แทนที่จะต้องชำระเงินในฐานะเงินกู้ธนาคารที่มีดอกเบี้ยคืนให้กับธนาคารเพื่อการสงเคราะห์ KfW ตั้งแต่เทอมการศึกษาฤดูหนาว ๒๐๑๙/๒๐๒๐ รัฐควรให้ใช้ในฐานะเงินกู้ที่ปลอดดอกเบี้ย  จำนวนผู้ที่ได้รับเงินสนับสนุนลดลงเป็นเวลาหลายปีแล้ว  ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี ๒๐๑๗ ทั่วประเทศ มีนักเรียน ๒๒๕,๐๐๐ คนและนักศึกษา ๕๕๗,๐๐๐ คนได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ  รวมทั้งสิ้นน้อยกว่าในปีก่อนหน้าราว ๔๑,๐๐๐ คนหรือ ๕%  นักวิจารณ์เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงที่วางแผนไว้ยังไม่เพียงพอ  สหภาพการศึกษาและวิชาการ (GEW) ก็วิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายนี้ว่า “ไม่เพียงพอ”