ตามการศึกษา
ประชาชนในประเทศเยอรมันรวยขึ้นเนื่องจากการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์สินเฉลี่ยต่อผู้ใหญ่แต่ละคนในปีนี้เพิ่มขึ้นแตกต่างจากแนวโน้มทั่วโลก
๒.๘% เป็น ๑๘๕,๑๗๕ ดอลลาร์ (ราว ๑๗๙,๑๕๗ ยูโร)
ตามรายงานทรัพย์สินโลกของธนาคาร Crédit Suisse ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่
๒๒ พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทำให้ประเทศเยอรมันมีการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดเป็นอันดับ ๓
หลังประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา
โดยเฉพาะจำนวนผู้ร่ำรวยและมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นอย่างหนัก ตามการศึกษา จำนวนเศรษฐีเงินล้าน (ดอลลาร์)
ในประเทศเยอรมันจากกลางปี ๒๐๑๕ ถึงกลางปี ๒๐๑๖ เพิ่มขึ้น ๔๔,๐๐๐ คนเป็นราว ๑.๖
ล้านคน จนกว่าจะถึงปี ๒๐๒๑ คาดว่าเพิ่มขึ้น
๒๐% คิดเป็นจำนวนราว ๒.๑
ล้านคน
ส่วนในกลุ่มมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินอย่างน้อย
๕๐ ล้านดอลลาร์ขยายตัวขึ้น ๕๐๐ คนเป็นขณะนี้มีสมาชิก ๖,๑๐๐ คน ทำให้ประเทศเยอรมันอยู่ในอันดับ ๓
ตามหลังประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน
ผู้ทำการศึกษาพยากรณ์ว่าจนกว่าจะถึงปี ๒๐๒๑ จะมีมหาเศรษฐีใหม่ราว ๑,๘๐๐ คนระหว่าง
Kiel กับBerchtesgaden
ในด้านทรัพย์สินเฉลี่ยประเทศเยอรมันอยู่เพียงในอันดับที่
๑๙ โดยมีผู้นำ ได้แก่
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ครองแชมป์อีกครั้งหนึ่งด้วยจำนวนทรัพย์สินเฉลี่ย ๕๖๑,๙๐๐
ดอลลาร์ต่อผู้ใหญ่
พัฒนาการได้รับการกระตุ้นจากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น หุ้นในฐานะผู้กระตุ้นการเติบโตตกไป
พัฒนาการด้านอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วนก็เป็นลบ ทั่วโลกทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ๑.๔%
เป็น
๒๕๐ ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนหน้าวิกฤติเศรษฐกิจและการคลังในปี
๒๐๐๘/๒๐๐๙ มีอัตราการเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข ๒ หลัก
ทรัพย์สินต่อหัวคงที่อยู่ที่ ๕๒,๘๐๐ ดอลลาร์เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากรโลก
ในการศึกษาวิจัย
ระหว่างนี้คนร่ำรวยที่สุด ๑% เป็นเจ้าของ
๕๐.๘% ของทรัพย์สินทั่วโลก ช่องว่างระหว่างคนยากจนและประชาชนที่ร่ำรวยแคบลงเล็กน้อยก่อนหน้าการเกิดวิกฤติการคลัง แต่นับจากนั้นก็ห่างออกจากกันอีกครั้งหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น