การก่อวินาศกรรมที่เบอร์ลินอาจเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยมีตัวอย่างมาก่อนของความขลุกขลักของทางการ Anis Amri ชาวทูนิเซีย
วัย ๒๔ ปีที่เอกสารส่วนบุคคลถูกพบบนพื้นในรถบรรทุกที่ก่อเหตุที่เบอร์ลิน ซึ่งได้รับการจัดระดับว่าเป็นบุคคลอันตรายโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหลายแคว้น
โดยทั่วไปบุคคลเช่นนี้ต้องถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
ก่อนหน้านี้ถึงกับมีการไต่สวนเขาเนื่องจากต้องสงสัยว่าเตรียมการกระทำผิดกฎหมายที่เป็นอันตรายต่อรัฐ โดยคณะอัยการทั่วไปของเบอร์ลินเป็นผู้ไต่สวน แต่ถูกระงับไป
เนื่องจากท้ายสุดหลักฐานไม่เพียงพอสำหรับการฟ้องร้อง
Ralf
Jäger รัฐมนตรีมหาดไทยของแคว้นนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลนกล่าวว่าท้ายสุดแคว้นนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลนได้มีการแลกเปลี่ยนหาข้อมูลเกี่ยวกับนาย
Amri กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของแคว้นอื่น
ๆ ในเดือนพฤศจิกายน
ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ค้นหาตัวผู้ก่อเหตุทั่วยุโรป โดยมีการตั้งเงินรางวัลสำหรับให้ข้อมูลบ่งชี้ถึง
๑๐๐,๐๐๐ ยูโร
ร่องรอยที่สำคัญนำไปสู่แคว้นนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลน Amri มีการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับ
Ahmad Abdulaziz Abdullah A. ที่โดนจับกุมตัวในเดือนพฤศจิกายน Abdullah A. ภายใต้ชื่อ Abu Walaa ถือเป็นหนึ่งในพวกอิสลามที่อันตรายที่สุดในประเทศเยอรมัน เขาอาศัยอยู่ที่ St.Tonis
เขต
Viersen ก่อนการถูกจับกุมตัว Amri อาศัยอยู่กับ
Boban S. ที่ถูกจับพร้อมกับ
Abu Walaa เป็นบางเวลาที่ดอร์ทมุนด์ ที่พักของผู้ลี้ภัยที่ Emmerich
ที่
Amri เคยอยู่เป็นบางเวลาเช่นเดียวกันถูกตำรวจค้นหาร่องรอยเมื่อวันที่
๒๑ ธันวาคมที่ผ่านมา
นับแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 เขาใช้ชีวิตอยู่ที่เบอร์ลิน
คำร้องขอลี้ภัยของเขาถูกปฏิเสธในเดือนกรกฎาคม
สำนักงานชาวต่างชาติที่
Kleve ที่ประสงค์จะส่งตัว Amri
ที่เคยกระทำผิดมาก่อนในกรณีทำร้ายร่างกายออกนอกประเทศไม่ประสบความสำเร็จ
เนื่องจากทางการทูนิเซียปฏิเสธไม่ยอมออกเอกสารทดแทนหนังสือเดินทางให้เขา โดยประเทศทูนิเซียได้โต้แย้งเป็นเวลานานว่า Amri
เป็นชาวทูนิเซีย Jäger กล่าวว่าฝ่ายทูนิเซียไม่มีความสนใจที่จะรับตัวชายผู้นี้กลับคืน เอกสารทดแทนหนังสือเดินทางจากทูนิเซียเพิ่งจะมาถึงในวันที่
๒๑ ธันวาคมนี้เอง แต่ Jäger
ย้ำว่าการมีส่วนร่วมของ
Amri ในการก่อการร้ายยังไม่มีหลักฐานยืนยัน เจ้าหน้าที่พบเพียงเอกสารของเขาในรถบรรทุก ซึ่งไม่ใช่หลักฐานเพียงพอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น