สถาบัน Robert-Koch (RKI) ที่เบอร์ลินได้รวบรวมข้อมูลของทุกแคว้นในประเทศเยอรมันและเขียนรายงานที่ครอบคลุมเกี่ยวกับโรคมะเร็งจำนวน
๒๗๐ หน้า ซึ่งมีการนำเสนอเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามรายงาน
ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งในมะเร็งหลายชนิดเพิ่มขึ้นพร้อมกับวัย
ทำให้สังคมเยอรมันที่สูงอายุขึ้นทุกทีมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ท้ายสุดมีผู้ป่วยใหม่มากขึ้นเกือบ ๒
เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับปี ๑๙๗๐ โดยในปี
๒๐๑๓ บุรุษราว ๒๕๓,๐๐๐ คนและสตรี ๒๓๐,๐๐๐ คนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ระหว่างที่ในปี ๑๙๘๐ ประชาชน ๑๙๓,๐๐๐
คนเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ในปี ๒๐๑๓
มีจำนวน ๒๒๓,๐๐๐ คน
โดยมีความแตกต่างในภูมิภาค
ที่แคว้นบาเดน-วือร์ทเทมแบร์กมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งต่ำที่สุดทั้งสองเพศ มีบางแคว้นที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงกว่านี้
๒๕-๓๕% ขึ้นกับเพศ
สันนิษฐานว่าขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตที่ถูกสุขลักษณะมากกว่าในภาคตะวันตกเฉียงใต้
แคว้นบาเดน-วือร์ทเทมแบร์กมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ซึ่งสภาพแวดล้อมเช่นนี้ส่งผลต่อลักษณะการใช้ชีวิตอย่างมีนัยยะสำคัญ
การเป็นโรคมะเร็งจำนวนมากถือว่าหลีกเลี่ยงได้ ทั่วโลกเชื่อว่ามีจำนวน ๓๐% ที่ถือว่าใช้ชีวิตไม่ถูกสุขลักษณะและมีผลกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็ง
ได้แก่ การสูบบุหรี่และการบริโภคแอลกอฮอล์
โรคอ้วน น้ำหนักเกิน และการเคลื่อนไหวน้อย
ในการกินผู้เชี่ยวชาญสังเกตว่าชาวเยอรมันกินผลไม้และผักน้อย แต่เนื้อสัตว์สีแดงจำนวนมากเกินไป นอกจากนั้น
สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันต่อต้านไวรัส HPV และไวรัสตับอักเสบชนิดบี
ประชาชนที่เสียชีวิตจากมะเร็งมีอายุเฉลี่ย ๗๔
ปีหรือใช้ชีวิตยืนนานกว่าผู้ป่วยในปี ๑๙๘๐ สี่ปี
เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตจนถึงปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญ RKI มีข้อมูลน้อย
ตามรายงาน มะเร็งตับอ่อนและมะเร็งตับไม่มีการพัฒนาที่ดีขึ้น
แต่กลับมีจำนวนกรณีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและอัตราการเสียชีวิตที่แทบไม่เปลี่ยนแปลง ที่ลดลง ได้แก่ มะเร็งปอดในบุรุษ ส่วนหนึ่งเนื่องจากสัดส่วนผู้สูบบุหรี่ในบุรุษลดลงหลายปีแล้ว นอกจากนั้น ที่ลดลงเช่นเดียวกัน ได้แก่ มะเร็งในกระเพาะอาหารและลำไส้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น