วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2561

รางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ


สาขาสันติภาพ  Nadia Murad และ Denis Mukwege ประสบพบเห็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรมีผู้ใดพบเห็น  สตรีชาวอิรักวัย ๒๕ ปีเผชิญกับการเป็นทาสกามของกลุ่มก่อการร้าย IS ถูกทรมาน ถูกเหยียดหยามเป็นเวลา ๓ เดือนขณะที่เธอมีวัย ๑๙ ปี  ในขณะที่ Mukwege สูตินรีแพทย์ชาวคองโก วัย ๖๓ ปีได้ช่วยเหลือสตรีหลายพันคนที่บาดเจ็บสาหัสจากการถูกข่มขืนด้วยด้ามปืนกล ดาบปลายปืนและขวดแตก  ทั้งสองคนไม่ปล่อยให้ประสบการณ์ที่โหดร้ายนี้สร้างความหวาดกลัว หากแต่ออกมาเล่าและแสดงให้โลกเห็นว่าความทารุณอย่างเพศถูกใช้เป็นอาวุธในพื้นที่สงครามและพื้นที่ที่มีความขัดแย้งอย่างไร  ซึ่งทำให้ทั้งคู่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปีนี้  ภายหลังการหลบหนีมาได้ Murad ได้รับการช่วยเหลือให้เดินทางมายังแคว้นบาเดน-วือร์ทเทมแบร์ก ที่ซึ่งเธอใช้ชีวิตอยู่และเริ่มต้นการต่อสู้กับ IS เธอยังเป็นทูตพิเศษขององค์การสหประชาชาติด้วย  ส่วน Mukwege ได้ก่อตั้งโรงพยาบาลในภาคตะวันตกของประเทศคองโกที่ไม่มีเสถียรภาพในปี ๑๙๙๙  องค์การให้ความช่วยเหลือระบุว่าคองโกเป็นประเทศที่มีการข่มขืนสูงที่สุดในโลก  เขาไม่เพียงให้การรักษาสตรีและเด็กหญิงเท่านั้น  หากแต่ยังให้ความช่วยเหลือด้านจิตใจ กฎหมายและการเงิน  คณะกรรมการพิจารณาตัดสินเน้นว่าทั้ง Murad และ Mukwege เสี่ยงความปลอดภัยของตนเอง  โดยการต่อสู้กับอาชญากรสงครามอย่างกล้าหาญและแสวงหาความยุติธรรมสำหรับเหยื่อ  คณะกรรมการ ฯ ประสงค์จะส่งข่าวสารว่าสตรีถูกใช้เป็นเครื่องมือในสงครามจริง  สตรีต้องการการคุ้มครองและผู้ร้ายต้องได้รับการลงโทษ  ซึ่งคณะกรรมการ ฯ เชื่อว่าจะเป็นเงื่อนไขพื้นฐานสำหรับสันติภาพที่ยั่งยืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น