วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560

ว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่

        ระหว่างที่พรรคการเมืองต่าง ๆ ยังยุ่งวุ่นวายกับผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายนที่ผ่านมา มีการตัดสินใจด้านบุคลากรอันดับแรก โดย Wolfgang Schäuble วัย ๗๕ ปีจากพรรค CDU ควรเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ ซึ่งจะทำให้เป็นบุคคลสำคัญหมายเลขสองของรัฐรองจากตำแหน่งประธานาธิบดี
ผู้นำของพรรค CDU และ CSU ได้เสนอชื่ออดีตรัฐมนตรีคลังให้เป็นผู้รับตำแหน่งต่อจาก Norbert Lammert เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายนที่ผ่านมา นับเป็นเวลาหลายวันมาแล้วที่มีการพูดถึงชอยเบลอร์ในฐานะตัวเก็งสำหรับตำแหน่งนี้  ส่วนส.ส.พรรคต่าง ๆ เชื่อมั่นว่าเขาจะได้รับเสียงขานรับที่ดี หากพรรคประชานิยมขวา AfD ประสงค์จะลองเชิงขอบเขตของกฎเกณฑ์ในรัฐสภา  เมื่อเย็นวันที่ ๒๗ กันยายน พรรค AfD ได้ลงมติให้ Albrecht Glaser รองหัวหน้าพรรคเป็นผู้สมัครแข่งขันตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร  ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพรรค AfD จะได้รับตำแหน่งนี้ด้วยหรือไม่  ตามกฎระเบียบที่ใช้อยู่ของสภาผู้แทนราษฎรถือได้ว่าพรรคมีสิทธิ 
แต่การรับตำแหน่งใหม่ก็เป็นข้อบ่งชี้ว่าพรรค CDU/CSU คาดคำนวณว่าต้องยอมสละตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง หากตั้งรัฐบาลจับมือผสมสีธงชาติจาไมกากับพรรคเขียวและพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตย  Christian Lindner หัวหน้าพรรค FDP ได้เคยเรียกร้องสิทธิในการเป็นรัฐมนตรีดังกล่าวในกรณีที่มีการเข้าร่วมรัฐบาลตั้งแต่ก่อนหน้าการเลือกตั้ง  การตอบรับของเขาทำให้ขณะนี้ชอยเบลอร์ขจัดอุปสรรคในการตั้งรัฐบาลผสมสีจาไมกาออกจากเส้นทาง  โดยเขาได้รับการหนุนหลังจากทุกฝ่าย  แม้แต่ปีกซ้ายของพรรคเขียวก็ให้การเห็นชอบด้วย  และพรรค SPD ก็ส่งสัญญาณการให้การสนับสนุน 
ขณะนี้ CSU ได้เลื่อนการต่อสู้ด้านอำนาจเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของ Horst Seehofer หัวหน้าพรรคออกไปก่อน  โดยการประชุมพรรคที่วางแผนไว้ในเดือนพฤศจิกายนจึงควรมีการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงในพรรคอย่างไรบ้าง  Seehofer ได้กล่าวหลังการประชุมส่วนส.ส.พรรค CSU ที่รัฐสภาแคว้นที่ München เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายนที่ผ่านมา ว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะไม่รบกวนการเจรจาที่เบอร์ลินทั้งกับผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคู่ผสมและ CDU ด้วยต่อไปอีก

  ขณะเดียวกันส่วนส.ส.พรรค SPD ได้เลือก Andrea Nahles ให้เป็นประธานฝ่ายค้าน ที่จนถึงปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีสังคม ซึ่งเธอได้ประกาศการต่อสู้กับ CDU/CSU ด้วยท่าทีที่แข็งขัน

รางวัลโนเบลทางเลือก

        รางวัลโนเบลทางเลือกของปีนี้ยกย่องนักต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อเพื่อผู้อ่อนด้อยในสังคม  Colin Gonsalves ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนชาวอินเดียได้รับรางวัล เนื่องจากเขาว่าความให้กับทาสยุคใหม่ ผู้อยู่อาศัยในสลัม สตรี และคนยากจนนับเป็นเวลาสามทศวรรษ  มูลนิธิ  Right Livelihood Award ที่สต็อคโฮล์มเปิดเผยเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายนที่ผ่านมาว่าเครือข่ายเพื่อสิทธิมนุษยชน HRLN ของเขาต่อสู้เพื่อ “สิทธิในอาหาร”  ซึ่งทำให้ชีวิตของประชาชน ๔๐๐ ล้านคนดีขึ้น  นอกจากนั้นยังมอบรางวัลที่ประกอบด้วยเงินรางวัล ๑๐๕,๐๐๐ ออยโรให้กับ Yetnebersh Nigussie สตรีชาวเอธิโอเปีย สำหรับงานเพื่อประชาชนที่มีความพิการในอัฟริกาและทั่วโลก  Khadija Ismayilova นักหนังสือพิมพ์สตรีจากอาเซอร์ไบจานได้รับรางวัลสำหรับการเปิดโปงที่กล้าหาญเรื่องการคอร์รัปชันในระดับสูงของรัฐบาล  ซึ่งทำให้เธอต้องถูกจำขัง  Robert Bilott นักป้องกันสิ่งแวดล้อมชาวอเมริกันได้รับรางวัลเกียรติยศที่ไม่มีเงินรางวัล เนื่องจากการเป็นตัวแทนผู้อยู่อาศัย ๗๐,๐๐๐ คนในการโต้แย้งด้านกฎหมายที่กินเวลา ๑๙ ปี  เนื่องจากน้ำดื่มปนเปื้อน

แนวโน้มประเทศเยอรมัน

        ส่วนใหญ่ของชาวเยอรมันสามารถรับได้กับการตั้งรัฐบาลผสม ดำ-เหลือง-เขียว  ตามการสอบถาม “แนวโน้มประเทศเยอรมัน” ของสถานีโทรทัศน์ ARD  ๕๗% ของผู้ถูกสอบถามเห็นว่ารัฐบาลผสมดังกล่าวดีหรือดีมาก  ซึ่งมากกว่าในวันเลือกตั้ง ๓๔%  การผสมใหญ่ครั้งใหม่จาก CDU/CSU และ SPD มีผู้ต้องการเพียง ๓๑หากไม่มีการผสมจาไมกาเกิดขึ้น ๖๕% เห็นด้วยกับการเลือกตั้งใหม่  ขณะนี้พรรค AfD สูญเสียสมาชิกที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดสองคน  Frauke Petry หัวหน้าพรรคประกาศการออกจากพรรค  Marcus Pretzell สามีของเธอซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคและหัวหน้าส่วนส.ส.พรรคที่แคว้นนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลนก็ประสงค์จะลาจากพรรคและส่วนส.ส.ที่สภาผู้แทนราษฎรของแคว้นด้วย  โดยเป็นผลจากการทะเลาะเบาะแว้งเกี่ยวกับทิศทางของพรรคที่ขยายตัวออกไป

อนุญาตหรือไม่อนุญาต

ทุกปีเวลาที่อากาศเริ่มดี พระอาทิตย์ส่องแสง แทนอากาศมืดมัวหม่นของฤดูหนาว มองไปที่ไหนก็จะเห็นภาพคล้ายคลึงกัน ได้แก่ ร่มกันแดดถูกนำออกมากาง เก้าอี้สนามถูกนำมาขัดถูทำความสะอาด และรางต้นไม้เต็มไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับที่ซื้อมาปลูก  อย่างไรก็ดี ผู้ให้เช่าไม่ได้เข้าอกเข้าใจกับมาตรการตกแต่งเหล่านี้ของผู้เช่าเสมอไป และบางครั้งเพื่อนบ้านก็รู้สึกว่าถูกรบกวน Gerold Happ จากสมาคมเจ้าของบ้านและที่ดินแห่งประเทศเยอรมันที่เบอร์ลินกล่าวว่า “เสรีภาพของผู้ใดผู้หนึ่งสิ้นสุดลงที่เมื่อก้าวล้ำแดนของอีกผู้หนึ่ง”  ประเด็นที่เป็นหัวข้อการทะเลาะเบาะแว้งที่พบบ่อยที่สุดก็ได้แก่
ที่กั้นสายตา (Sichtschutz)  ไม่มีผู้เช่าคนใดต้องนั่งที่ระเบียงที่สามารถมองเห็นได้โล่งโจ้ง  แต่ในเรื่องเกี่ยวกับการตกแต่งระเบียงผู้เช่าก็ไม่ได้มีทางเลือกอิสระ  โดยทั่วไปที่บังตาต้องเข้ากับสไตล์ของบ้าน  ผู้ให้เช่าได้รับอนุญาตให้กำหนดได้ว่าเครื่องตกแต่งควรเป็นสีใดและมีรูปแบบอย่างไร  แต่ Volker Raststätter จากสมาคมผู้เช่าที่มืนเช่นชี้แจงว่ากรณีนี้ใช้ได้เพียงหากภาพรวมของย่านที่พักอาศัยเป็นแบบเดียวกันจริง ๆ
กันสาด (Markise) Happ กล่าวว่าเมื่อใดก็ตามที่ผู้เช่าวางแผนการเปลี่ยนแปลงด้วยการก่อสร้างเพิ่มเติมถือว่า “ต้องขออนุญาตผู้ให้เช่าก่อน”  เนื่องจากถ้าทำความเสียหายให้ด้านหน้าของตึกต้องมีหน้าที่ชดเชยความเสียหาย  ซึ่งมีผลเช่นเดียวกับการติดตั้งกันสาด  เขาชี้แจงว่าหากที่ระเบียงแดดส่องเข้าถึงแรงมากไป ผู้เช่าสามารถมีสิทธิมีกันสาดได้และระบุถึงคำพิพากษาของศาลมืนเช่น
จานรับสัญญาณดาวเทียม (Satellitenschüssel) ผู้เช่าจำเป็นต้องได้รับการเห็นชอบด้วยจากผู้ให้เช่าเช่นเดียวกัน  Raststätter กล่าวว่าตามประสบการณ์บ่อย ๆ ผู้เช่าไม่ได้รับความยินยอม แม้แต่ที่ศาล ข้อโต้แย้งที่ว่าประสงค์จะดูช่องสถานีถ่ายทอดจากประเทศบ้านเกิดก็แทบไม่ให้ผลอะไร
การปิ้งย่าง (Grillen)  หากในสัญญาเช่าห้ามการปิ้งย่างอย่างชัดแจ้ง ผู้เช่าก็ต้องยึดมั่นตามนั้น  มิฉะนั้นจะเสี่ยงต่อการถูกตักเตือนหรือถูกให้ย้ายออก  แต่ถึงจะไม่มีการห้ามอย่างแจ่มแจ้งในสัญญาเช่า ผู้เช่าก็ต้องละเว้นการปิ้งย่างภายใต้สถานการณ์บางประการ เช่น หากควันฟุ้งเข้าไปในที่อยู่อาศัยของเพื่อนบ้าน  Raststätter ชี้แจงว่ากลิ่นและควันไฟสามารถรบกวนเพื่อนบ้านได้
รางดอกไม้ (Blumenkästen)  โดยพื้นฐานผู้เช่าได้รับอนุญาตให้ติดตั้งรางดอกไม้ที่ระเบียงได้  แต่ผู้ให้เช่าสามารถเรียกร้องให้ติดกระถางและรางดอกไม้ด้านในของระเบียง  Raststätter แนะนำว่าผู้เช่าควรติดให้แน่นหนา เพื่อไม่ให้สามารถหล่นใส่ศีรษะผู้ใดได้ขณะสภาพอากาศไม่ดี
ต้นไม้ (Pflanzen) ผู้เช่าสามารถเลือกดอกไม้สำหรับระเบียงได้เอง  อย่างไรก็ดีมีพืชพรรณไม้ที่ผู้ให้เช่าสามารถออกเสียงห้ามได้ เช่น ต้นองุ่นที่ไต่ผนังตึกเลื้อยไปหรือ Efeu ที่เป็นพันธุ์ไม้เลื้อยชนิดหนึ่งก็ไม่ได้รับอนุญาตได้โดยไม่ต้องมีข้อโต้แย้งใดๆ Happ กล่าวว่าเหตุผลเนื่องจากมันสามารถทำความเสียหายให้กับส่วนผิวหน้าของตึกและกำแพงได้
งานเลี้ยง (Feiern) ปาร์ตีที่ระเบียงหรือเทอเรซเป็นที่นิยมในฤดูร้อน  Raststätter แนะนำว่า ผู้เช่าควรรักษาความสงบในช่วงเวลาสงบ ได้แก่ ตั้งแต่เวลา ๒๒.๐๐ นาฬิกาเป็นต้นไปควรกลับเข้าไปในโวนุงหรือพูดคุยในระดับเสียงค่อย ๆ เท่านั้น
การอาบแดด (Sonnenbaden)  ยิ่งอุณหภูมิเพิ่มสูงเท่าใด บางคนก็ยิ่งสวมเสื้อผ้าน้อยลงเท่านั้น แต่ระวัง ! แต่ละคนมีขีดขั้นความอายไม่เท่ากัน  Happ กล่าวว่าหากระเบียงมองเห็นได้ชัด ผู้อาบแดดก็ไม่ควรเปิดเผยเนื้อตัวมากเกินไป  เนื่องจากหากผู้ใดรู้สึกถูกรบกวนจริง ๆ ภายใต้บางสถานการณ์อาจเสี่ยงกับการถูกปรับได้

เรียบเรียงโดยเอื้อยอ้าย”

ข้อมูล  Aachener Zeitung

วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2560

จำกัดการเดินทางเข้าสหรัฐฯ

        ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์สั่งให้มีการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศครั้งใหม่สำหรับแปดประเทศ  โดยมีผลกับประชาชนจากชาติ อิหร่าน ลิเบีย เกาหลีเหนือ โซมาเลีย ซีเรีย เวเนซูเอลา และซูดาน  และควรมีผลใช้บังคับในวันที่ ๑๘ ตุลาคมศกนี้  แต่วีซาที่ออกแล้วได้รับการยกเว้นจากการจำกัด  นอกจากนั้น ในกลุ่มประเทศยังมีข้อแตกต่าง ตัวอย่างเช่น ผู้เดินทางจากเวเนซูเอลามีผลกระทบเพียงหากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสังคมนิยมและญาติพี่น้องของเจ้าหน้าที่รัฐบาล

สนามบิน Tegel

        ชาวเบอร์ลินลงมติให้มีการเปิดทำการสนามบิน Tegel ต่อไป  สร้างความพ่ายแพ้ให้กับ แดง-แดง-เขียว  โดยชาวเบอร์ลิน ๕๖.๑% ลงมติให้มีการประกอบธุรกิจที่สนามบิน Tegel ต่อไป แม้หลังการประกอบกิจการที่สนามบินใหญ่แห่งใหม่ BER ที่วางแผนไว้  ๔๑.๗% เรียกร้องให้มีการปิดสนามบิน Tegel ภายหลังการเปิดสนามบินใหม่  อย่างไรก็ดี ผลของการลงมติไม่ผูกมัดและไม่ได้มีผลทางกฎหมาย  หากแต่เป็นเพียงการเรียกร้องต่อสภาซีเนต  รัฐบาลผสมแดง-แดง-เขียวยังคงยึดแผนการปิดที่วางแผนไว้ต่อไป  แคว้นบรันเดนบวร์กและสหพันธ์จะเป็นผู้ร่วมตัดสินใจในฐานะเจ้าของ

ประชามติที่เบรเมน

        เบรเมนยังคงเป็นแคว้นเดียวที่มีการเลือกตั้งทุก ๆ ๔ ปี  ประชามติเกี่ยวกับการยืดเวลาเป็น ๕ ปีเช่นเดียวกับแคว้นอื่น ๆ ทั้งหมดล้มเหลว  ในการลงคะแนนเสียงควบคู่ไปกับการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายนที่ผ่านมา ๔๘.๔% ลงมติเห็นด้วย และ ๕๑.๖% ไม่เห็นด้วย  การเลือกตั้งครั้งหน้าที่เบรเมนจะมีขึ้นในปี ๒๐๑๙  โดยเป็นการลงประชามติครั้งแรกในแคว้นที่เล็กที่สุด  เยาวชนวัย ๑๖ และ ๑๗ ปีก็ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในการลงประชามติด้วย  ต่างจากการเลือกตั้งทั่วไป  รวมทั้งสิ้นมีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ๕๐๐,๐๐๐ คน

ผลเลือกตั้งทั่วไปในเยอรมัน

        เหมือนทั้งโลกพุ่งความสนใจมาอยู่ที่เบอร์ลินในวันเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายนที่ผ่านมา  ประชาชนจาก ๑๓๗ ประเทศวิ่งผ่านเมืองหลวง สำนักนายกรัฐมนตรีและสภาผู้แทนราษฎรไปจนถึงสัญลักษณ์ของเมือง ที่ประตู Brandenburger Tor นักกีฬามาถึงเส้นชัย  สภาพอากาศตอนเช้าหม่นมัว แต่อารมณ์ชื่นบาน  การแข่งขันวิ่งมาราธอนได้รับการถ่ายทอดไปทั่วโลกและภายหลังผลการเลือกตั้งทั่วไป  ซึ่งก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนในช่วงเย็น  แนวโน้มประเทศเยอรมันขยับไปทางขวา  สหพันธ์สาธารณรัฐจะเปลี่ยนแปลงไป  เป็นครั้งแรกนับเป็นเวลากว่า ๖๐ ปีที่พรรคเอียงขวา Alternative für Deutschland (AfD) ได้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรเยอรมัน  สำหรับพรรค CDU/CSU พร้อมกับหัวหน้ารัฐบาลที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในยุโรปนับว่าได้รับผลคะแนนเสียงที่ย่ำแย่ที่สุดในช่วงระยะเวลาการเป็นนายก ฯ ของ Angela Merkel  พรรคร่วมรัฐบาลผสม SPD ตกต่ำ บุคลากรของพรรคจะเปลี่ยนแปลงไป  Martin Schulz ตัวแทนลงชิงชัยตำแหน่งนายก ฯ ของพรรคประกาศการเข้าสู่การเป็นฝ่ายค้าน  ทำให้พรรคสังคมนิยมที่ได้รับความเสียหายปิดทางเลือกที่ไม่ให้พรรค AfD ซึ่งได้รับเลือกมากที่สุดเป็นอันดับสามได้เป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน  พรรค FDP หวนกลับคืนสู่รัฐสภาอย่างน่าประทับใจหลังความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี ๒๐๑๓  พรรคซ้ายและพรรคเขียวยังคงที่เหมือนเดิม  แต่ประเทศเยอรมันซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่ได้รับความเชื่อถือจากบรัสเซลส์ วอชิงตัน มอสโคว์ ปารีสทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองจะยังคงมีเสถียรภาพเท่าใด ?
        ความเป็นไปได้เพียงประการเดียวในการจับมือจัดรัฐบาลผสม ได้แก่ การผสมสีธงชาติจาไมกาจาก พรรค CDU/CSU, FDP และพรรคเขียว  ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในระดับสหพันธ์  และการทดสอบที่แคว้นชเลสวิก-โฮลสไตน์นับแต่ฤดูร้อนปีนี้ก็สั้นและยากที่จะเปรียบเทียบกับในระดับสหพันธ์  หลังการคำนวณผลล่วงหน้าผู้ประท้วงได้รวมตัวกันต่อต้านฝ่ายขวาที่กลางกรุงเบอร์ลิน  โดยประท้วงการเหยียดผิวและน้ำเสียงของพรรค AfD  แมร์เคลปรากฎตัวที่ศูนย์กลางพรรคและได้รับการไชโยโห่ร้องเหมือนกับว่าได้รับคะแนนเสียง ๔๐แมร์เคลให้คำมั่นว่า CDU/CSU ประสงค์จะชนะใจผู้เลือกพรรค AfD กลับคืนผ่านนโยบายที่ดี การแก้ไขปัญหาและการใส่ใจต่อความวิตกกังวล  แม้ว่าเธอจะยอมรับว่านางคาดผลคะแนนเสียงที่ดีกว่านี้  แต่หลังการรับผิดชอบเป็นรัฐบาลมาถึง ๑๒ ปีไม่ใช่เรื่องธรรมดาอยู่เองที่ CDU/CSU จะบรรลุเป้าหมายทางกลยุทธ์ นั่นคือพรรคได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง ได้รับมอบหมายให้เป็นรัฐบาล และไม่มีใครก่อตั้งรัฐบาลได้หากไม่มี CDU/CSU  อย่างไรก็ดี จำนวนมากเห็นว่าแมร์เคลต้องรับผิดชอบต่อการสูญเสียคะแนนอย่างหนักของ CDU/CSU  ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ผู้หนึ่งได้เสนอสถิติที่แสดงว่าผู้ที่ก่อนหน้านี้ไม่ไปเลือกตั้ง ๑.๒ ล้านคนขณะนี้ได้เทใจลงคะแนนเสียงให้ AfD และผู้ที่ก่อนหน้านี้เคยลงคะแนนเสียงให้ CDU/CSU ซึ่งนับเป็นบาดแผลลึก  ในแวดวง CDU/CSU เห็นว่านายก ฯ แมร์เคลก่อให้เกิดความแตกแยกในประเทศจากนโยบายผู้ลี้ภัยในปี ๒๐๑๕ ของเธอ  และทำให้พรรคประชานิยมขวาจัดได้รับแรงขับเคลื่อน  Horst Seehofer หัวหน้าพรรค CSU ได้พยายามดึงผู้ถือหาง AfD มายัง CDU/CSU ด้วยการต่อต้านแมร์เคลอย่างหนัก โดยการกดดันแมร์เคล ขู่จะฟ้องร้องศาลรัฐธรรมนูญและเรียกร้องพรมแดนสูงสุดของผู้ลี้ภัยจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ คนต่อปี  ซึ่งคงแทบไม่สามารถหยุดยั้งเขาไม่ให้นำมาเป็นเงื่อนไขการเจรจาต่อรองตั้งรัฐบาลผสมได้  เนื่องจากแมร์เคลไม่ต้องการ รวมทั้งพรรคเขียวด้วย  ซึ่งจะเป็นปัญหาของพันธมิตรสีธงชาติจาไมกาที่ขณะนี้ดูเหมือนว่าเป็นความเป็นไปได้หนึ่งเดียว  การเจรจาต่อรองต้องหนักหน่วงมาก  Seehofer ได้กล่าวในเย็นวันที่ ๒๔ กันยายนที่ผ่านมาถึง “ความผิดหวังอย่างหนัก”  ในปี ๒๐๑๘ จะมีการเลือกตั้งที่แคว้นไบเอิร์น 
        ขณะนี้ประเทศเยอรมันเผชิญกับสิ่งที่เป็นเรื่องปกตินานแล้วในประเทศเพื่อนบ้าน  เพียงแต่ว่าประเทศเยอรมันมีอดีตที่เลวร้ายกับนาซี  ดังนั้น การเลือกตั้งที่ได้ผลเช่นนี้ จึงได้รับการเพ่งเล็งจากทั่วโลก  ขณะนี้มีความหวาดกลัวว่า AfD จะเลือกวาจาที่เป็นพิษกับบรรยากาศในประเทศและเป็นหนทางยาวไกลสำหรับพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่จะได้ใจผู้ถือหาง AfD กลับคืนมา

ผลการเลือกตั้ง  CDU/CSU ๓๓.๐% (-๘.๖) SPD ๒๐.๕% (๕.๒) พรรคซ้าย ๙.๒% (+๐.๖) พรรคเขียว ๘.๙% (+๐.๕)  FDP ๑๐.๗% (+๖)  AfD ๑๒.๖% (+๗.๙ผู้ไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ๗๖.๕% (ปี ๒๐๑๓ มีจำนวน ๗๑.๕%)

เกี่ยวกับการเลือกตั้งในประเทศเยอรมัน

        ในระหว่างศึกหาเสียงเลือกตั้งเยอรมันจะได้ยินบ่อย ๆ ว่าเป็นการหาเสียงที่น่าเบื่อ  ซึ่งไม่เป็นความจริง  ไม่น่าเบื่อหากสองพรรคการเมืองที่ร่วมกันปกครองประเทศเป็นเวลา ๔ ปี ขณะนี้เน้นย้ำถึงความแตกต่างหลายประการ ไม่น่าเบื่อหากมีความเป็นไปได้ของการจับมือผสมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนนับแต่ปี ๑๙๔๙  ไม่น่าเบื่อหากพรรคชาตินิยมขวาสามารถคาดหวังผลได้ว่าจะได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรสมัยหน้า ไม่น่าเบื่อที่จะเปรียบเทียบนโยบายเกี่ยวกับคำถามทางการเมืองที่สำคัญ ๆ ได้แก่ การศึกษา และระบบภาษี การเกษียณบำนาญ และการประกันสุขภาพ
ความต่อเนื่องหรือการเปลี่ยนแปลง  การเมืองกลายเป็นเรื่องอุดมคติและแตกแยกกันอีกครั้งหนึ่ง  ศึกหาเสียงเลือกตั้งไม่เพียงในภาคตะวันออกที่เข้มข้นหนักหน่วงขึ้นกว่าในปีก่อน ๆ อย่างชัดเจน  มีการตะโกนคำว่า “ผู้ทรยศต่อราษฎร” หรือ “ผู้กระตุ้นสงคราม”  โดยเฉพาะยามที่นายก ฯ Angela Merkel ปรากฎตัว หลายต่อหลายครั้งพลเมืองที่โกรธเคืองบางคนถึงกับอยากให้เธอเข้าคุก ภายใต้กลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้การเห็นด้วยกับความรุนแรงไปจนถึงความคิดที่พร้อมที่จะใช้กำลังด้วยตนเองแพร่ระบาดกว้างขวาง  การสำรวจความคิดเห็นมีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยมาหลายสัปดาห์แล้ว ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่าน่าเบื่อ  แต่ขณะเดียวกันผลการศึกษาจากการสอบถามของสถาบันที่เชื่อถือได้ก็สร้างความตื่นเต้น เนื่องจากมีพรรคการเมืองถึงสี่พรรคที่มีโอกาสจะเป็นพรรคที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับสามในสภาผู้แทนราษฎรเยอรมันสมัยที่ ๑๙  ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งจำนวนเท่าใดที่ยังตัดสินใจไม่ได้จริง ๆ ในวันใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง  แม้จะมีการสำรวจความคิดเห็นต่าง ๆ ก็ตาม  การแสดงออกแบบสบาย ๆ ของนาง Merkel ผู้รักษาตำแหน่ง และความก้าวร้าวเป็นพิเศษของผู้ท้าชิง Martin Schulz ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และความเบื่อหน่าย  แต่ทั้งสองคนไม่มีทางเลือกอื่นมากนัก นอกเหนือจากการแสดงออกดังกล่าว นางแมร์เคลในฐานะผู้กำกับทิศทางที่สุขุมในช่วงเวลาของวิกฤตและความไม่สงบทั่วโลก เขาในฐานะบุรุษแห่งการเปลี่ยนแปลง ผู้ประสงค์จะสร้างบริบทใหม่ในนโยบายภายในและสังคม  ความต่อเนื่องหรือการเปลี่ยนแปลงเป็นทางเลือกสองข้อสำหรับผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ ๒๔ กันยายน
        ในเรื่องพื้นฐาน โดยเฉพาะในนโยบายต่างประเทศ แมร์เคลและชูลซ์มีความเห็นพ้องกันมากกว่าที่ผู้หาเสียงเลือกตั้งอยากให้เป็น  พรรคการเมืองของทั้งคู่เห็นพ้องกันในหลักการประชาธิปไตยและยึดหลักการทางจริยธรรม และตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นส่วนใหญ่
การลงคะแนนเสียง  ในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรระดับแคว้นของปีนี้และปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งเพิ่มขึ้น  ผู้สังเกตการระดับผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงการเมืองและวิชาการเชื่อว่าในวันที่ ๒๔ กันยายนชาวเยอรมันจะเดินทางไปใช้สิทธิมากกว่าในการเลือกตั้งเมื่อสี่ปีที่แล้ว ในปี ๒๐๑๓ มีผู้ไปใช้สิทธิ ๗๑.๕และในปี ๒๐๑๗ มีผู้ไปใช้สิทธิ ๗๖.๕ดังนั้นในครั้งนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการแสดงความเบื่อหน่าย   ประชาธิปไตยของสหพันธ์สาธารณรัฐในช่วงเวลา ๖๘ ปีบ่งชี้ถึงเสถียรภาพ พหุนิยม เปิดกว้าง เปลี่ยนแปลงได้ และเป็นมิตรเป็นส่วนใหญ่  เพียงหนึ่งครั้งในสี่ปีจึงเรียกร้องการสนับสนุนเป็นพิเศษที่เสียเวลาเพียงเล็กน้อยจากพลเมือง นั่นคือต้องมีการเลือกตั้ง  ประชาธิปไตยไม่ได้จำกัดเพียงในสถาบันและการเมือง  แต่ยืนยงอยู่ได้ด้วยสังคมมนุษย์  ผู้ที่ไม่ไปเลือกตั้งถือเป็นผู้ที่คว่ำบาตรประชาธิปไตย

        กฎหมายการเลือกตั้งทั่วไปกำหนดว่ามีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ๕๙๘ ที่นั่ง  แต่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากหวั่นเกรงว่าจะมีจำนวนมากกว่านี้มาก เนื่องจากส.ส. แบบแถม (Überhang) และการปรับตัวเลข (Ausgleich)

วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2560

ผลการศึกษา OECD

        ในการศึกษาในวิชาที่มีอิทธิพลต่ออนาคต ได้แก่ คณิตศาสตร์ สารสนเทศ วิทยาศาสตร์และเทคนิค มหาวิทยาลัยของประเทศเยอรมันอยู่ในตำแหน่งต้น ๆ สัดส่วนของผู้ที่ศึกษาในวิชาเหล่านี้อยู่ที่ ๓๗%  ซึ่งสูงกว่าประเทศอุตสาหกรรมอื่น ๆ ทั้งหมด  ทั้งนี้ เป็นผลจากการศึกษาเปรียบเทียบประจำปีขององค์การเพื่อความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจและพัฒนาการ (OECD)  อย่างไรก็ดี ในประเด็นอื่น ๆ รายงานแสดงการต้องกระเตื้องขึ้นอย่างชัดเจน  ระหว่างที่ประเทศสมาชิก OECD ๓๕ ประเทศใช้จ่ายเฉลี่ย ๕.๒% ของผลิตภัณฑ์รายได้ประชาชาติเพื่อการศึกษา  ประเทศเยอรมันใช้เพียง ๔.๓ซึ่งสามารถเห็นผลได้อย่างมีนัยยะสำคัญโดยเฉพาะในโรงเรียนประถมศึกษาเยอรมัน

อำลา Heiner Geißler

        แม้แต่ในวัยสูงอายุเขาก็ยังถือว่าเป็นผู้แทนของพรรค CDU ที่มีชื่อเสียงที่สุดและเป็นนักต่อสู้ที่สุด ขณะนี้ Heiner Geißler อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขและครองตำแหน่งเลขาธิการพรรค CDU เป็นเวลานานได้เสียชีวิตในวัย ๘๗ ปี เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายนที่ผ่านมา นับเป็นนักการเมืองตัวอย่างที่ใช้สมองที่เฉียบคบและลิ้นที่คมคายไม่น้อยไปกว่าในการโจมตีคู่ต่อสู้ทางการเมืองอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย  เขาเป็นคาธอลิคที่เคร่งครัดและเป็นอดีตนักเรียน Jesuiten  อุดมคติที่เขาสั่งสมร่ำเรียนมาจากที่นั่น เขาได้นำมาใช้ในชีวิตการเมือง โดยเห็นว่าอาชีพนักการเมืองเทียบได้กับอาชีพของบาทหลวง  นาย Geißler ถือว่าเป็นผู้จุดประเด็นทางการเมืองและเป็นผู้ต่อต้านคอมมิวนิสต์ในช่วงต้น ๆ ยุคของนายกรัฐมนตรี Helmut Kohl    จุดสูงสุดของผลงานทางการเมืองของเขาอยู่ในช่วงครึ่งแรกของทศวรรษที่ ๘๐ โดยในปี ๑๙๗๗ โคห์ลได้ดึงตัว Geißler ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดให้ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค CDU ในช่วงเวลาที่โคห์ลเป็นนายก ฯ แคว้นไรน์ลันด์-ฟัลซ์ เขารับใช้โคห์ลในฐานะรัฐมนตรีสังคม ในปี ๑๙๘๒ เขาได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีครอบครัวและสังคมเพิ่มเติมจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ในช่วงเวลานี้เขาได้ดำเนินนโยบายสตรีและครอบครัวใหม่สำหรับพรรค CDU  โดยรวมถึงการริเริ่มใช้เงินเพื่อการอบรมเลี้ยงดูบุตร การแตกหักกับโคห์ลในปลายทศวรรษที่ ๘๐ เกิดจากการที่เขาเร่งรัดให้ปฏิรูป  เขามีสติปัญญาเหนือกว่าโคห์ล แต่ไม่ใช่นักการเมืองที่แสวงหาอำนาจ  ดังนั้น โคห์ลจึงยังคงเป็นนายก ฯ ต่อไป ส่วน Geißler สูญเสียอิทธิพลภายในพรรค CDU พร้อมกับการพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการผ่านการจัดการของโคห์ล  กระนั้น เขาก็ยังไปร่วมพิธีฝังศพของโคห์ลที่ Speyer เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา  แม้หลังการลาจากเวทีการเมืองเขาก็ไม่ได้หายหน้าหายตาไป แต่ยังเป็นที่ต้องการในฐานะแขกรับเชิญในการพูดคุยทางโทรทัศน์ นักเขียนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใกล่เกลี่ยในความขัดแย้งเรื่องค่าแรงและในการไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับสถานีรถไฟใหญ่ Stuttgart 21 ในช่วงท้ายของชีวิตเขาเป็นสมาชิกกลุ่มต่อต้านโลกาภิวัตน์  Attac และร้องเรียนเกี่ยวกับการแบ่งสรรที่ไม่เท่าเทียมกันของความร่ำรวยในโลก การเสียชีวิตของเขาทำให้ประเทศเยอรมันสูญเสียปัญญาชนที่ทำให้การถกเถียงทางการเมืองอย่างกว้างขวาง มีชีวิตชีวา และบ่อยครั้งก็ทำให้แยกข้างกัน

วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560

โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งทั่วประเทศ

        สองสัปดาห์สุดท้ายจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งทั่วไป Martin Schulz ผู้สมัครแข่งขันตำแหน่งนายก ฯ จากพรรค SPD ประสงค์จะโฆษณาจูงใจผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่ยังไม่ได้ตัดสินใจให้เข้มข้นขึ้น  ชูลซ์กล่าวในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๘ กันยายนที่ผ่านมาที่ Würzburg ว่าเกือบครี่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งยังไม่ได้ตกลงใจ  ก่อนหน้านั้นมีการเปิดเผยตัวเลขที่ย่ำแย่สำหรับ SPD จากการสอบถามใหม่ของสถานีโทรทัศน์  ARD และ ZDF  ก่อนหน้าการเลือกตั้งในวันที่ ๒๔ กันยายนที่จะถึง ตามการสอบถาม “แนวโน้มประเทศเยอรมัน” ของสถานีโทรทัศน์ ARD และ “ปรอทการเมือง” ของสถานีโทรทัศน์  ZDF พรรค SPD อยู่ในระดับของต้นปีก่อนชูลซ์จะเป็นตัวแทนพรรคลงสมัครแข่งขันและเป็นหัวหน้าพรรค  การสอบถามทั้งสองทำขึ้นหลังการโต้คารมทางโทรทัศน์กับนายก ฯ Angela Merkel จากพรรค CDU  ในการสอบถามของ ARD พรรค SPD หล่นลง ๒% เหลือ ๒๑ของ ZDF อยู่ที่ ๒๒% หากวันพรุ่งนี้เป็นวันเลือกตั้ง  ตัวเลขทั้งสองอยู่ต่ำกว่าผลการเลือกตั้งของปี ๒๐๐๙  ขณะที่พรรคพร้อมผู้สมัคร Frank-Walter Steinmeier ได้รับเลือก ๒๓ซึ่งเป็นผลคะแนนที่ย่ำแย่ที่สุดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง  ส่วน CDU/CSU ต้องยอมรับความสูญเสียเล็กน้อย  โดยคะแนนตกจาก ๓๙ เหลือ ๓๘แต่ยังคงเป็นพลังทางการเมืองที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างชัดเจน  พรรคการเมืองที่เล็กกว่าก็แทบไม่มีการเคลื่อนไหว  พรรคซ้ายสามารถคำนวณคะแนนเสียง ๙% เช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อน  พรรคเขียวอยู่ที่ ๘% ไม่เปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน  FDP ต้องเสียคะแนนไป ๑% และขณะนี้อยู่ที่ ๘% เช่นเดียวกัน  ตรงกันข้าม AfD ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้น ๑% และขณะนี้ระบุคะแนนเสียง ๙ที่ชูลซ์สามารถทำคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน  ได้แก่ คำถามเกี่ยวกับนายก ฯ  ต้นเดือนกันยายนผู้ถูกสอบถามปรารถนาให้เขาเป็นหัวหน้ารัฐบาลในอนาคต  หลังการโต้วาทีเพิ่มเป็น ๓๓ทำให้การทิ้งช่วงอย่างชัดเจนหลังแมร์เคลลดลงเล็กน้อย สำหรับนายก ฯ ที่ครองตำแหน่งอยู่มีผู้ถกสอบถามลงคะแนนให้ ๕๗% เช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อน  โดยได้รับความชื่นชอบจากผู้ถือหางพรรค CDU/CSU (๙๗%) และผู้เลือกพรรค FDP  ตรงกันข้าม ผู้ถือหางพรรค SPD (๗๗%) พรรคซ้าย (๕๙%) และ AfD (๔๓%) ส่วนใหญ่ชอบชูลซ์มากกว่า  ผู้ถือหางพรรคเขียวเสมอกัน (๔๕% สำหรับแมร์เคล ๔๕% สำหรับชูลซ์)  การผสมสีใดควรปกครองประเทศเยอรมันในอนาคต?  พันธมิตรรัฐบาลที่เป็นที่นิยมที่สุดยังคงเป็นการผสมใหญ่ดำ-แดง  ๔๒% ของผู้ถูกสอบถามเห็นว่าการผสมตั้งรัฐบาลระหว่างพรรค CDU/CSU และ SPD ดี คิดเป็น  ๓๙% เห็นว่าไม่ดี  คิดเป็น  ๓๘% จะให้การต้อนรับการผสมดำ-เหลือง  ๓๙% ปฏิเสธ  เพียง ๒๔% เห็นว่าการผสมตั้งรัฐบาลของดำ-เขียวดีเช่นเดียวกับพันธมิตรจาก SPD พรรคเขียวและ FDP  การผสมแดง-แดง-เขียวได้รับการเห็นด้วยสูงเท่ากัน  การผสมที่ไม่ได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้ ได้แก่ พันธมิตรจาก CDU/CSU FDP และพรรคเขียว  เพียง ๒๓% ของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมดมีความเห็นเป็นบวกเกี่ยวกับการผสมนี้ 

อย่างไรก็ดี นักวิจัยความคิดเห็นได้ย้ำว่าไม่เห็นว่าผลลัพธ์จากการสอบถามเป็นการพยากรณ์สำหรับการเลือกตั้งในวันที่ ๒๔ กันยายน หากแต่เพียงเป็นการบันทึกชั่วขณะ เนื่องจากผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งจำนวนมากยังคงไม่ตกลงใจเช่นเดิมว่าประสงค์จะไปเลือกตั้งหรือไม่ และจะเลือกผู้ใด  ล่าสุด ๕๘% กล่าวว่าแน่ใจแล้วว่าจะลงคะแนนเสียงให้พรรคการเมืองใด  ๔๒% ปฏิเสธ  แม้หลังการปะทะคารมแมร์เคล-ชูลซ์ตัวเลขผู้ที่ยังไม่ตกลงใจก็ลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

ควันหลงจากโต้คารม

        ในการโต้คารมครั้งเดียวทางโทรทัศน์ก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเย็นวันที่ ๒ กันยายนที่ผ่านมานายก ฯ Angela Merkel  จากพรรค CDU และ Martin Schulz ผู้ท้าชิงจากพรรค SPD ได้ปะทะคารมกันอย่างหนักหน่วง แต่ส่วนใหญ่เป็นไปตามหลักการ  หนึ่งในประเด็นหลักของการโต้คารมที่ถ่ายทอดสดโดยสถานีโทรทัศน์ ARD, ZDF, RTL และ Sat1 ได้แก่ นโยบายการอพยพและผู้ลี้ภัย  โดยชูลซ์ได้ย้ำข้อกล่าวหาที่ว่าในเดือนกันยายน ๒๐๑๕ นายก ฯ ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับการเปิดพรมแดนโดยไม่ดึงเพื่อนบ้านในสหภาพยุโรปให้เข้ามีส่วนร่วม  ซึ่งนายก ฯ โต้ว่าในชีวิตของหัวหน้ารัฐบาลจะมีชั่วขณะที่ต้องลงมือจัดการทันที   ในหลายประเด็นแมร์เคลและชูลซ์ไม่แสดงความแตกต่างกันมากในเนื้อหา  หัวหน้าพรรค SPD เน้นว่าไม่สามารถจัดการกับการปรับตัวของผู้ลี้ภัยหนึ่งล้านคนในตลาดแรงงานได้ในเวลาไม่กี่ปี  นายก ฯ เองก็กล่าวถึงความมานะพยายามที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด  แมร์เคลไม่ประสงค์จะสั่นคลอนสนธิสัญญาผู้ลี้ภัยระหว่างสหภาพยุโรปกับตุรกี แม้จะมีวิกฤตอย่างหนักระหว่างประเทศเยอรมันกับตุรกี  แต่ทั้งคู่เห็นว่าการเข้าเป็นสมาชิก EU ของตุรกีตัดออกไปได้  หากได้เป็นนายก ฯ ชูลซ์ประสงค์จะเสนอต่อคณะมนตรีสหภาพยุโรปให้ยุติการเจรจาเพื่อเข้าเป็นสมาชิกกับตุรกี  ส่วนนายก ฯ ประกาศว่าประสงค์จะตรวจสอบการเพิ่มการเตือนภัยเดินทาง เช่นเดียวกับการจำกัดการติดต่อทางเศรษฐกิจ  อย่างไรก็ดี นางติติงถึงไม่ควรยกเลิกการเจรจาอย่างสิ้นเชิงกับตุรกี  โดยกล่าวว่าหากประสงค์ให้พลเมืองเยอรมันเป็นอิสระ ต้องยังคงอยู่ในการเจรจา  ประเด็นหลักในนโยบายต่างประเทศของเธอ ได้แก่ คำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกา  ตรงกันข้ามชูลซ์ให้น้ำหนักหัวข้อความยุติธรรมทางสังคม  ที่น่าตื่นเต้นได้แก่เรื่องเกษียณ  แมร์เคลได้ตอบโต้ข้อกล่าวหาของผู้ท้าชิงที่ว่า CDU/CSU ประสงค์จะให้ประชาชนในประเทศเยอรมันทำงานจนถึงวัย ๗๐ ปีว่า “ผิดแล้ว”  ทั้งนี้ ในการสอบถามอย่างเร่งด่วนของสถานีโทรทัศน์ ZDF ในการโต้คารมนายก ฯ แมร์เคลได้รับคะแนนเสียง ๓๓%

แมร์เคล : ชูลซ์

หลังการโต้คารมทางโทรทัศน์ระหว่างนายก ฯ Angela Merkel กับ Martin Schulz ผู้ท้าชิง CDU/CSU และ SPD เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของศึกหาเสียงเลือกตั้งด้วยความกระฉับกระเฉง  ทั้งสองฝ่ายต่างประกาศชัยชนะในการปะทะคารมเป็นเวลา ๙๐ นาทีเมื่อเย็นวันที่ ๒ กันยายนที่ผ่านมา  แต่ในการสอบถามแมร์เคลมีคะแนนนำหน้า  ผู้ชมราว ๑๖.๒๓ ล้านคนได้ติดตามการโต้คารมทางโทรทัศน์  หรือคิดเป็นสัดส่วนการตลาด ๔๖.๑ทำให้การโต้คารมเป็นรายการที่มีผู้ชมมากที่สุดจนถึงปัจจุบันของปีนี้  ในรายการ “Fünfkampf” ของพรรคการเมืองขนาดเล็กกว่า ๕ พรรคทางสถานีโทรทัศน์ ARD เมื่อเย็นวันที่ ๓ กันยายนที่ผ่านมามีการปะทะคารมกันหนักหน่วงในนโยบายผู้ลี้ภัย  Sahra Wagenknecht ผู้สมัครแข่งขันจากพรรคซ้ายได้ต่อต้านการส่งประชาชนในประเทศเยอรมันที่ปรับตัวได้ดีมาหลายปีแล้วออกนอกประเทศ  เธอปฏิเสธการส่งตัวกลับไปยังประเทศอัฟกานิสถานด้วย  ในขณะที่ Christian Lindner หัวหน้าพรรค FDF กล่าวว่าผู้ที่ไม่มีสิทธิพำนักอาศัยต้องกลับไปเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้  Joachim Herrmann รัฐมนตรีมหาดไทยแคว้นไบเอิร์นจากพรรค CSU ชี้แจงว่าพรรคของเขาไม่เห็นว่าสมเหตุสมผลที่จะอนุญาตให้ครอบครัวตามมาได้ (ที่ขณะนี้ถูกยกเลิกชั่วคราว) อีกครั้งหนึ่ง  ตรงกันข้าม Cem Oezdemir ผู้สมัครแข่งขันจากพรรคเขียวได้บ่งชี้ว่าการอนุญาตให้ครอบครัวตามมาได้ทำให้การปรับตัวง่ายขึ้นด้วย

        ทั้งนี้ ผู้ชมกว่า ๑๖ ล้านคนได้ติดตามการโต้คารมทางโทรทัศน์ของนายก ฯ และผู้ท้าชิงก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไป  ขณะเดียวกันประชาชนเกือบ ๒๐,๕๐๐ คนได้ให้คะแนนผู้สมัครแข่งขันสดด้วยเครื่องวัด Debat-O-Meter ของมหาวิทยาลัย Freiburg  นักวิชาการได้แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับขนาดของข้อมูลที่รวบรวมได้และกล่าวถึง “การลงมติในช่วงเวลาจริงครั้งใหญ่ที่สุด” ในการวิจัยความคิดเห็นเท่าที่เคยมีมาในการปะทะคารมทางโทรทัศน์  โดยผู้เข้าร่วมเห็นว่าผู้ลี้ภัย-การขอลี้ภัย (๒๔.๓%) เป็นปัญหาหลักในประเทศเยอรมัน ก่อนหน้าความปลอดภัยภายใน (๒๐.๖) และความยุติธรรมทางสังคม (๑๗.๓)  หัวข้อเกษียณบำนาญ (๑๑.๔) และการศึกษา (๗.๓) สูญเสียความหมาย  ผู้พัฒนา Debat-O-Meter ยังสรุปว่าการโต้คารมทางโทรทัศน์ช่วยผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งให้ตัดสินใจได้  เนื่องจากสัดส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ตกลงใจลดน้อยอย่างชัดเจนจาก ๒๓.๕% ก่อนการปะทะคารมเหลือเพียง ๑๔.๔% ของผู้ถูกสอบถามที่ยังรู้สึกไม่มั่นใจหลังการถ่ายทอดสด  โดยนายก ฯ ได้รับคะแนนจากสตรีและผู้สูงอายุ  ชูลซ์สร้างความเชื่อมั่นมากกว่าในบุรุษและผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งอายุน้อย  ต่อคำถามที่ว่าจะเลือกผู้ใดโดยตรง นายก ฯ ได้รับคะแนนนำหน้าด้วยคะแนนเสียง ๔๖.๕ชูลซ์ ๓๙.๒ในการสอบถาม ผู้เข้าร่วมเห็นว่าแมร์เคล (๐.๔๐) น่าเชื่อถือมากกว่าชูลซ์ (๐.๓๕) เล็กน้อย  นายก ฯ สามารถทิ้งห่างคู่แข่งขันอย่างชัดเจนในคำถามเกี่ยวกับสมรรถภาพ  โดย นางแมร์เคลได้รับคะแนน ๐.๕๗  ชูลซ์ ๐.๒๖ อย่างไรก็ดี ยังมีเวลาอีกสามสัปดาห์จนกว่าจะถึงการเลือกตั้งในวันที่ ๒๔ กันยายน