หลังจากมาอยู่เยอรมันได้นานนมกาเล (คนสมัยนี้ยังรู้จักสำนวนนี้อยู่ไหมน้อ?) ผู้เขียนได้อ่านพบเรื่องพระธาตุประจำราศีเกิด ซึ่งเดิมไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน แล้วยังมีการแนะนำว่าใครเกิดปีใดก็ควรหาโอกาสไปไหว้พระธาตุตามปีเกิดสักครั้ง เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เอาล่ะสิ ในใจก็นึกว่า อืม ทำไมถึงจะไม่ไปล่ะ แต่พระธาตุประจำปีเกิด (ตามปีนักษัตร) ของผู้เขียนก็อยู่ถึงจังหวัดน่านโน่น ปกติเวลากลับไปประเทศไทยก็มักขึ้นเหนือไปเชียงใหม่เป็นประจำทุกครั้งไป แต่เนื่องจากระยะทางที่ยาวไกลก็เลยใช้บริการการบินเพื่อประหยัดเวลา ก็บินข้ามน่านไปมา จนพี่ชายพี่สาวเกษียณอายุราชการเลยเสนอตัวเป็นโชเฟอร์ให้ ก็วางแผนไว้ดิบดีในปี ๒๐๑๙ ที่ผ่านมาว่าไปไทยแล้วจะไปไหว้พระธาตุเสียที แต่ถึงเวลาเข้าโดนโควิดขวิดเสียแผนป่นปี้ กว่าจะได้ทำตามความตั้งใจก็ปาเข้าไปเมื่อกลางปี ๒๒ นี่เอง ไม่เป็นไร ถือคติไปช้าดีกว่าไม่ไปเลย
นอกเหนือจากได้ไปไหว้พระธาตุช่อแห้ง พระธาตุประจำปีเถาะแล้ว คณะของเรายังได้ไปแวะสักการะพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน แม้จะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับปีเกิดของคนในคณะ และในเมื่อโชเฟอร์เกิดปีระกาก็ถือโอกาสแวะไปไหว้พระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน ที่เป็นทางผ่านด้วย แต่น่าเสียดายที่ชาวปีกุน ผู้ร่วมคณะอีกคนไม่ได้ไหว้พระธาตุประจำปีเกิดของตัว เหตุที่ไม่ได้อยู่ในเส้นทาง ผู้เขียนเลยเกิดความสนใจขึ้นมาว่าแล้วสำหรับปีเกิดอื่น ๆ พระธาตุอยู่ที่ใดกันบ้าง คาดว่าคงมีคนไม่รู้อีกจำนวนไม่น้อย จึงเสาะหามาให้อ่านกันตามเคย ซึ่งตามประวัติพระธาตุทั้งสิบสองแห่งส่วนใหญ่มีตำนานว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังสถานที่เหล่านั้นทั้งสิ้น ได้แก่
ปีชวด พระธาตุศรีจอมทอง ตั้งอยู่บนยอดดอยจอมทอง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พระบรมธาตุเจดีย์องค์นี้มีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ไม่ได้ฝังดินเหมือนพระธาตุแห่งอื่น ๆ แต่ประดิษฐานในกู่ภายในวิหาร สามารถอัญเชิญมาสรงน้ำได้
ปีฉลู พระธาตุลำปางหลวง ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง วัดเก่าแก่ของจังหวัดลำปาง เป็นวัดที่เริ่มสร้างในปีฉลู และแล้วเสร็จในปีฉลูเช่นกัน
ปีขาล พระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ ประดิษฐานพระเกศาธาตุและพระบรมสารีริกธาตุพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า
ปีเถาะ พระธาตุช่อแห้ง จังหวัดน่าน บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากกรุงสุโขทัย
ปีมะโรง พระธาตุพระสิงห์ ตั้งอยู่ที่วัดพระสิงห์ ภายในพระเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุส่วนกระดูกข้อมือซ้ายรวมกับพระเกศา ประชาชนยังนิยมไปกราบสักการะพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ที่วัดแห่งนี้ด้วย
ปีมะเส็ง มีพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำปีเกิด แต่เนื่องจากอยู่ไกล จึงมีการจำลองพระมหาเจดีย์ที่พุทธคยาขึ้นที่วัดอนาลโยพิทยาราม จังหวัดพะเยา ซึ่งสามารถไปกราบไหว้แทนได้
ปีมะเมีย พระธาตุชเวดากอง ประเทศพม่า แต่ถ้าไม่สะดวกที่จะเดินทางไกล ผู้ที่เกิดปีมะเมียสามารถเดินทางไปนมัสการพระธาตุเมืองตาก ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดพระบรมธาตุ จังหวัดตาก แทนได้ เนื่องจากเป็นเจดีย์ที่ได้รับการจำลองแบบมาจากพระธาตุชเวดากอง โดยครอบพระธาตุเจดีย์องค์เดิมไว้
ปีมะแม พระธาตุดอยสุเทพ ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่
ปีวอก พระธาตุพนม ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุพนมวรวิหาร จังหวัดนครพนม ซึ่งพระบรมธาตุเจดีย์บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้าไว้ด้วย
ปีระกา พระบรมธาตุหริภุญชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ซึ่งพระเกศบรมธาตุได้รับการบรรจุไว้ในโกศทองคำประดิษฐานในพระเจดีย์แบบล้านนาไทย
ปีจอ ตามพุทธประวัติกล่าวว่าพระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์นั้นอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ประดิษฐานพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า แต่ความที่พระธาตุเจดีย์องค์นี้มนุษย์อย่างเรา ๆ ไม่สามารถเดินทางไปถึงได้ ดังนั้น นอกจากกราบไหว้ด้วยการบูชารูปแล้วสามารถบูชาพระเจดีย์ที่วัดเกตการาม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีชื่อพ้องกันแทนได้ โดยวัดตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ปีกุน พระบรมธาตุดอยตุง ที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่บรรจุพระรากขวัญ (กระดูกไหปลาร้า) เบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า
อ่านดูแล้ว เราก็เคยไปมาแล้วหลายแห่งเหมือนกันนี่นา เป็นความบังเอิญในฐานะนักท่องเที่ยวที่ชมชอบการเยี่ยมชมศิลปวัฒนธรรมตามสถานที่ต่าง ๆ มากกว่า บางครั้งรู้ว่าเพื่อนไม่เคยไปยังมีการไปกราบไหว้สักการะแทนเพื่อนก็มี อันนี้ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ขอให้ผู้อ่านได้ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยเน้อ (แบบเลียนแบบข้อความยอดฮิตของรายการสายมูทั้งหลายในไทย คริคริ)
เรียบเรียงโดย "เอื้อยอ้าย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น