วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

การพิจารณาคดี NSU


        หลังกว่า ๕ ปี วันพิจารณาคดีกว่า ๔๓๐ วัน พยานนับร้อยคน วันที่เต็มไปด้วยน้ำตาในศาลและคำให้การที่น่าตื้นตันของผู้เคราะห์ร้าย ศาลสูงแคว้นที่ München ได้ประกาศคำพิพากษา  โดยผู้พิพากษาได้จบการพิจารณาคดีการฆาตกรรมและก่อวินาศกรรมต่อเนื่องที่แทบว่ามีการเหยียดผิวเป็นแรงจูงใจแต่อย่างเดียว  ซึ่งตามคำฟ้อง กระทำเป็นเวลาหลายปีโดยไม่มีใครห้ามปรามจากกลุ่มนีโอนาซี ที่ประกอบด้วย Uwe Mundlos, Uwe Böhnhardt และ Beate Zschäpe  เธอกลายเป็นโฉมหน้าของ “Nationalsozialistischen Untergrund” (NSU) และเป็นจำเลยหลักในกระบวนการพิจารณาคดีขนาดยักษ์ที่ต้องจารึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์เยอรมัน ในฐานะหนึ่งในคดีที่ใช้หลักฐานแวดล้อมที่ใช้เวลายาวนานที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา  เพื่อนของเธอทั้งสองคนเสียชีวิตแล้ว  โดยได้ฆ่าตัวตายในวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๐๑๑ หลังการปล้นธนาคารล้มเหลว ตัวเธอได้จุดไฟเผาโวนุงที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันที่  Zwickau และไม่นานต่อมาได้เข้ามอบตัวที่ Jena  นับแต่เดือนมกราคม ๑๙๙๘ จนถึงเดือนพฤษภาคม ๒๐๑๓ มีการฆาตกรรมชาวต่างชาติที่มีเชื้อสายตุรกีหรือกรีซ ๙ ราย ตำรวจหญิง ๑ รายและการก่อวินาศกรรมหลายครั้งที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก  ตามความเป็นจริงจนถึงทุกวันนี้ไม่มีหลักฐานว่าเธออยู่ด้วยในที่เกิดเหตุแห่งใดแห่งหนึ่ง  แต่อัยการเห็นว่าเธอรู้ทุกอย่าง มีส่วนร่วมทุกอย่างและร่วมกำกับในแบบของเธอและร่วมลงมือด้วย Zschäpe เองก็ได้กล่าวว่า “โปรดอย่าได้พิพากษาดิฉันให้เป็นตัวแทนสำหรับสิ่งที่ดิฉันไม่ได้ทั้งประสงค์ (จะทำ) หรือได้กระทำ”  การพิจารณาคดีต่อ Zchäpe ผู้ก่อการร้าย NSU และจำเลยร่วมอีก ๔ คนได้เริ่มต้นขึ้นที่มืนเช่นในเดือนพฤษภาคม ๒๐๑๓ และในวันที่ ๑๑ กรกฎาคมที่ผ่านมาศาลได้ตัดสินให้เธอมีความผิดในการฆาตกรรม เป็นสมาชิกองค์การก่อการร้ายและต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต Ralf Wohlleben จำเลยร่วมได้รับโทษจำคุก ๑๐ ปีในฐานะผู้จัดหาอาวุธให้กับ NSU André E. ต้องโทษจำคุก ๒ ปี ๖ เดือนเนื่องจากข้อหาให้ความช่วยเหลือในการพยายามฆ่า  แม้ว่าคำพิพากษาจะสร้างความพึงพอใจให้กับญาติพี่น้องของผู้เคราะห์ร้ายตามที่หลายรายได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่าคาดหวังโทษสูง  แต่คนอื่น ๆ ได้ร้องเรียน (โดยไม่ขึ้นกับคำตัดสิน) ว่าในการพิจารณาคดีคำถามของตนไม่ได้รับคำตอบ ตัวอย่างเช่น ทำไมญาติของตนต้องเสียชีวิต เช่นเดียวกับคำถามเกี่ยวกับความล้มเหลวของทางการว่าเหตุใดผู้ก่อการร้าย NSU จึงคงอยู่ได้โดยไม่มีใครขัดขวางถึงเกือบ ๑๔ ปี  ซึ่งคำถามเหล่านี้จำนวนมากคงจะไม่มีคำตอบเป็นการถาวร  คำพิพากษานี้ยังไม่เป็นที่สุด  เนื่องจากทนายจำเลยได้ประกาศการยื่นอุทธรณ์  ซึ่งกว่าผู้พิพากษาศาลสหพันธ์จะตัดสินก็จะกินเวลาอีกนาน  ดังนั้น การทะเลาะเบาะแว้งด้านกฎหมายจึงจะดำเนินต่อไป  ท่ามกลางความโล่งใจของทุกคนการเมือง สมาคมศาสนาก็ยังแสดงความเห็นพ้องกันว่างานคลี่คลายและการต่อสู้กับการก่อการร้ายจากฝ่ายขวาต้องกระทำต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น