วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2565

อย่าปล่อยไว้ในรถ

ปกติผู้เขียนจะเป็นคนที่เรียกได้ว่าไม่เอาเรื่องเอาราวกับใคร มักถือคติช่างกู ช่างมึง ช่างแม่งอยู่เป็นประจำ แต่บอกเลยว่าอะไรที่เกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์มักปรี๊ดแตก ทนไม่ได้เอาเลยทีเดียว  เนื่องจากเป็นทาสแมวเต็มตัว แต่ก็ไม่ได้รังเกียจหมา จะออกแนวนางงาม (เหลือน้อย)..รักเด็ก รักสัตว์  อิอิ  อย่างวันนี้ที่ต้องขอบ่นออกสื่อ ก็เนื่องจากเดินไปเห็นหมานั่งหน้าจ๋อยอยู่บนรถที่จอดอยู่ข้างถนนที่ไม่มีร่มเงาในอุณหภูมิกว่า ๓๐ องศา  เออ ใครนะช่างทำได้ลงคอ ขนาดเรายังร้อนแทบแย่ แล้วหมาล่ะ?

ตามข้อมูล สำหรับสุนัขและสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ อุณหภูมิสูงสามารถเป็นอันตรายได้  หากอยู่ปล่อยไว้ในรถยนต์  ดร. Swantje Schumacher จากสำนักงานเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค คุ้มครองสัตว์และสัตวแพทย์จากเขตเมือง Aachen เตือนว่าหากอุณหภูมิไต่สูงเกินกว่าเกณฑ์ ๒๐ องศา ในรถยนต์จะร้อนมาก  หากหมาถูกปล่อยให้อยู่ในรถยนต์ที่อุณหภูมิสูง สามารถนำไปสู่ความเสียหายด้านสุขภาพและในกรณีที่เลวร้ายสามารถนำไปสู่ความตายอย่างทรมานได้  เพียงไม่กี่นาทีในรถยนต์ที่ปิดท่ามกลางแดดร้อนก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต  แสงอาทิตย์จะทำให้ภายในยานพาหนะร้อนขึ้นบางส่วนได้ถึง ๕๐ องศาเซลเซียสหรือมากกว่า  ในกรณีดังกล่าวรถยนต์สามารถกลายเป็นกับดักให้ถึงตายได้  การเปิดหน้าต่างแง้มไว้เพื่อป้องกันความร้อนก็ไม่พอ  การจอดรถไว้ในที่ร่มก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการที่อุณหภูมิจะสูงขึ้นได้  เนื่องจากแม้ปราศจากแสงอาทิตย์โดยตรง ภายในตัวรถยนต์ก็ยังร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว  โดยเฉพาะหากดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ และยานพาหนะตากแดดเต็ม ๆ 

สัตว์หลายประเภทสามารถเหงื่อออกได้เพียงเล็กน้อย  ซึ่งต่างจากมนุษย์อย่างเรา ๆ  ตัวอย่างก็เช่น หมาและแมวด้วย  โดยมันจะปรับปริมาณความร้อนด้วยการหายใจทางปาก  หากอุณหภูมิที่แวดล้อมอยู่สูงเกินไป ระบบการทำงานนี้จะล้มเหลว  คุณหมอชูมัคเกอร์ได้กล่าวว่าด้วยเหตุนี้ในอุณหภูมิฤดูร้อนหมาจึงต้องมีน้ำดื่มเพียงพอและความเป็นไปได้ที่จะทำให้ตัวเย็นลง  ซึ่งคนเราควรใส่ใจในข้อนี้ด้วยหากหาสัตว์ไปไหน ๆ ด้วย

    ผู้ใดที่สังเกตเห็นว่าสัตว์ตกอยู่ในภาวะลำบากควรตามหาเจ้าของหากเป็นไปได้  หากรถยนต์จอดในที่สถานที่จอดรถของห้างร้านและสัตว์ยังไม่ตกอยู่ในอันตรายก็สามารถประกาศตามหาเจ้าของรถได้  หากหมาหายใจแรง ซวนเซ อาเจียร ลิ้นเป็นสีดำและตาลอย สามารถแปลได้ว่ามันโดนความร้อนเล่นงานเข้าแล้วและกำลังตกอยู่ในอันตราย  ในกรณีฉุกเฉินควรรีบแจ้งตำรวจ (หมายเลข ๑๑๐) ดับเพลิง (๑๑๒) หรือเทศกิจ  เพื่อให้สามารถเปิดรถยนต์ได้

นี่คือไม่รู้จะไปหาเจ้าของรถเจ้าของหมาได้ที่ไหน เพราะเป็นพื้นที่ข้างถนน  ก็ได้แต่ยืนมองดูเจ้าหมาและอยู่เป็นเพื่อน จิ้มจมูกติดกระจกเพื่อดูว่ามีชามน้ำอยู่ตรงไหนหรือเปล่าก็มองไม่เห็น หลังจากรอแล้วรอเล่าไม่เห็นแม้แต่เงา เลยจำเป็นจำใจต้องไปต่อ  พร้อมกับนึกบ่นเจ้าของยืดยาวอยู่ในใจ รักสัตว์ยังไงกันฟะ น่าสงสารที่สุด ทำไมไม่จูงไปด้วยก็ไม่รู้ ฯลฯ  ตอนนั้นไม่ได้นึกถึงการแจ้งจนท. ตามข้อมูลข้างต้น  เพราะยังหวังอยู่ว่าเจ้าของจะรีบทำธุระแล้วรีบกลับมา แต่บอกเลยว่าเรื่องแบบนี้อย่าหาทำ ไอ้ที่คิดว่าแป๊บเดียวน่านี่คือต้องมานั่งเสียใจภายหลังว่าไม่น่าเลย น้ำตานองกันมาเยอะละ จริ๊ง 


ข้อมูล  Aachener Zeitung am Sonntag

เรียบเรียงโดย "เอื้อยอ้าย"


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น