ปกติผู้เขียนจะเป็นคนที่เรียกได้ว่าไม่เอาเรื่องเอาราวกับใคร มักถือคติช่างกู ช่างมึง ช่างแม่งอยู่เป็นประจำ แต่บอกเลยว่าอะไรที่เกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์มักปรี๊ดแตก ทนไม่ได้เอาเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นทาสแมวเต็มตัว แต่ก็ไม่ได้รังเกียจหมา จะออกแนวนางงาม (เหลือน้อย)..รักเด็ก รักสัตว์ อิอิ อย่างวันนี้ที่ต้องขอบ่นออกสื่อ ก็เนื่องจากเดินไปเห็นหมานั่งหน้าจ๋อยอยู่บนรถที่จอดอยู่ข้างถนนที่ไม่มีร่มเงาในอุณหภูมิกว่า ๓๐ องศา เออ ใครนะช่างทำได้ลงคอ ขนาดเรายังร้อนแทบแย่ แล้วหมาล่ะ?
ตามข้อมูล สำหรับสุนัขและสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ อุณหภูมิสูงสามารถเป็นอันตรายได้ หากอยู่ปล่อยไว้ในรถยนต์ ดร. Swantje Schumacher จากสำนักงานเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค คุ้มครองสัตว์และสัตวแพทย์จากเขตเมือง Aachen เตือนว่าหากอุณหภูมิไต่สูงเกินกว่าเกณฑ์ ๒๐ องศา ในรถยนต์จะร้อนมาก หากหมาถูกปล่อยให้อยู่ในรถยนต์ที่อุณหภูมิสูง สามารถนำไปสู่ความเสียหายด้านสุขภาพและในกรณีที่เลวร้ายสามารถนำไปสู่ความตายอย่างทรมานได้ เพียงไม่กี่นาทีในรถยนต์ที่ปิดท่ามกลางแดดร้อนก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต แสงอาทิตย์จะทำให้ภายในยานพาหนะร้อนขึ้นบางส่วนได้ถึง ๕๐ องศาเซลเซียสหรือมากกว่า ในกรณีดังกล่าวรถยนต์สามารถกลายเป็นกับดักให้ถึงตายได้ การเปิดหน้าต่างแง้มไว้เพื่อป้องกันความร้อนก็ไม่พอ การจอดรถไว้ในที่ร่มก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการที่อุณหภูมิจะสูงขึ้นได้ เนื่องจากแม้ปราศจากแสงอาทิตย์โดยตรง ภายในตัวรถยนต์ก็ยังร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหากดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ และยานพาหนะตากแดดเต็ม ๆ
สัตว์หลายประเภทสามารถเหงื่อออกได้เพียงเล็กน้อย ซึ่งต่างจากมนุษย์อย่างเรา ๆ ตัวอย่างก็เช่น หมาและแมวด้วย โดยมันจะปรับปริมาณความร้อนด้วยการหายใจทางปาก หากอุณหภูมิที่แวดล้อมอยู่สูงเกินไป ระบบการทำงานนี้จะล้มเหลว คุณหมอชูมัคเกอร์ได้กล่าวว่าด้วยเหตุนี้ในอุณหภูมิฤดูร้อนหมาจึงต้องมีน้ำดื่มเพียงพอและความเป็นไปได้ที่จะทำให้ตัวเย็นลง ซึ่งคนเราควรใส่ใจในข้อนี้ด้วยหากหาสัตว์ไปไหน ๆ ด้วย
ผู้ใดที่สังเกตเห็นว่าสัตว์ตกอยู่ในภาวะลำบากควรตามหาเจ้าของหากเป็นไปได้ หากรถยนต์จอดในที่สถานที่จอดรถของห้างร้านและสัตว์ยังไม่ตกอยู่ในอันตรายก็สามารถประกาศตามหาเจ้าของรถได้ หากหมาหายใจแรง ซวนเซ อาเจียร ลิ้นเป็นสีดำและตาลอย สามารถแปลได้ว่ามันโดนความร้อนเล่นงานเข้าแล้วและกำลังตกอยู่ในอันตราย ในกรณีฉุกเฉินควรรีบแจ้งตำรวจ (หมายเลข ๑๑๐) ดับเพลิง (๑๑๒) หรือเทศกิจ เพื่อให้สามารถเปิดรถยนต์ได้
นี่คือไม่รู้จะไปหาเจ้าของรถเจ้าของหมาได้ที่ไหน เพราะเป็นพื้นที่ข้างถนน ก็ได้แต่ยืนมองดูเจ้าหมาและอยู่เป็นเพื่อน จิ้มจมูกติดกระจกเพื่อดูว่ามีชามน้ำอยู่ตรงไหนหรือเปล่าก็มองไม่เห็น หลังจากรอแล้วรอเล่าไม่เห็นแม้แต่เงา เลยจำเป็นจำใจต้องไปต่อ พร้อมกับนึกบ่นเจ้าของยืดยาวอยู่ในใจ รักสัตว์ยังไงกันฟะ น่าสงสารที่สุด ทำไมไม่จูงไปด้วยก็ไม่รู้ ฯลฯ ตอนนั้นไม่ได้นึกถึงการแจ้งจนท. ตามข้อมูลข้างต้น เพราะยังหวังอยู่ว่าเจ้าของจะรีบทำธุระแล้วรีบกลับมา แต่บอกเลยว่าเรื่องแบบนี้อย่าหาทำ ไอ้ที่คิดว่าแป๊บเดียวน่านี่คือต้องมานั่งเสียใจภายหลังว่าไม่น่าเลย น้ำตานองกันมาเยอะละ จริ๊ง
ข้อมูล Aachener Zeitung am Sonntag
เรียบเรียงโดย "เอื้อยอ้าย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น