วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2560

เกี่ยวกับการเลือกตั้งในประเทศเยอรมัน

        ในระหว่างศึกหาเสียงเลือกตั้งเยอรมันจะได้ยินบ่อย ๆ ว่าเป็นการหาเสียงที่น่าเบื่อ  ซึ่งไม่เป็นความจริง  ไม่น่าเบื่อหากสองพรรคการเมืองที่ร่วมกันปกครองประเทศเป็นเวลา ๔ ปี ขณะนี้เน้นย้ำถึงความแตกต่างหลายประการ ไม่น่าเบื่อหากมีความเป็นไปได้ของการจับมือผสมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนนับแต่ปี ๑๙๔๙  ไม่น่าเบื่อหากพรรคชาตินิยมขวาสามารถคาดหวังผลได้ว่าจะได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรสมัยหน้า ไม่น่าเบื่อที่จะเปรียบเทียบนโยบายเกี่ยวกับคำถามทางการเมืองที่สำคัญ ๆ ได้แก่ การศึกษา และระบบภาษี การเกษียณบำนาญ และการประกันสุขภาพ
ความต่อเนื่องหรือการเปลี่ยนแปลง  การเมืองกลายเป็นเรื่องอุดมคติและแตกแยกกันอีกครั้งหนึ่ง  ศึกหาเสียงเลือกตั้งไม่เพียงในภาคตะวันออกที่เข้มข้นหนักหน่วงขึ้นกว่าในปีก่อน ๆ อย่างชัดเจน  มีการตะโกนคำว่า “ผู้ทรยศต่อราษฎร” หรือ “ผู้กระตุ้นสงคราม”  โดยเฉพาะยามที่นายก ฯ Angela Merkel ปรากฎตัว หลายต่อหลายครั้งพลเมืองที่โกรธเคืองบางคนถึงกับอยากให้เธอเข้าคุก ภายใต้กลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้การเห็นด้วยกับความรุนแรงไปจนถึงความคิดที่พร้อมที่จะใช้กำลังด้วยตนเองแพร่ระบาดกว้างขวาง  การสำรวจความคิดเห็นมีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยมาหลายสัปดาห์แล้ว ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่าน่าเบื่อ  แต่ขณะเดียวกันผลการศึกษาจากการสอบถามของสถาบันที่เชื่อถือได้ก็สร้างความตื่นเต้น เนื่องจากมีพรรคการเมืองถึงสี่พรรคที่มีโอกาสจะเป็นพรรคที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับสามในสภาผู้แทนราษฎรเยอรมันสมัยที่ ๑๙  ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งจำนวนเท่าใดที่ยังตัดสินใจไม่ได้จริง ๆ ในวันใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง  แม้จะมีการสำรวจความคิดเห็นต่าง ๆ ก็ตาม  การแสดงออกแบบสบาย ๆ ของนาง Merkel ผู้รักษาตำแหน่ง และความก้าวร้าวเป็นพิเศษของผู้ท้าชิง Martin Schulz ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และความเบื่อหน่าย  แต่ทั้งสองคนไม่มีทางเลือกอื่นมากนัก นอกเหนือจากการแสดงออกดังกล่าว นางแมร์เคลในฐานะผู้กำกับทิศทางที่สุขุมในช่วงเวลาของวิกฤตและความไม่สงบทั่วโลก เขาในฐานะบุรุษแห่งการเปลี่ยนแปลง ผู้ประสงค์จะสร้างบริบทใหม่ในนโยบายภายในและสังคม  ความต่อเนื่องหรือการเปลี่ยนแปลงเป็นทางเลือกสองข้อสำหรับผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ ๒๔ กันยายน
        ในเรื่องพื้นฐาน โดยเฉพาะในนโยบายต่างประเทศ แมร์เคลและชูลซ์มีความเห็นพ้องกันมากกว่าที่ผู้หาเสียงเลือกตั้งอยากให้เป็น  พรรคการเมืองของทั้งคู่เห็นพ้องกันในหลักการประชาธิปไตยและยึดหลักการทางจริยธรรม และตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นส่วนใหญ่
การลงคะแนนเสียง  ในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรระดับแคว้นของปีนี้และปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งเพิ่มขึ้น  ผู้สังเกตการระดับผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงการเมืองและวิชาการเชื่อว่าในวันที่ ๒๔ กันยายนชาวเยอรมันจะเดินทางไปใช้สิทธิมากกว่าในการเลือกตั้งเมื่อสี่ปีที่แล้ว ในปี ๒๐๑๓ มีผู้ไปใช้สิทธิ ๗๑.๕และในปี ๒๐๑๗ มีผู้ไปใช้สิทธิ ๗๖.๕ดังนั้นในครั้งนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการแสดงความเบื่อหน่าย   ประชาธิปไตยของสหพันธ์สาธารณรัฐในช่วงเวลา ๖๘ ปีบ่งชี้ถึงเสถียรภาพ พหุนิยม เปิดกว้าง เปลี่ยนแปลงได้ และเป็นมิตรเป็นส่วนใหญ่  เพียงหนึ่งครั้งในสี่ปีจึงเรียกร้องการสนับสนุนเป็นพิเศษที่เสียเวลาเพียงเล็กน้อยจากพลเมือง นั่นคือต้องมีการเลือกตั้ง  ประชาธิปไตยไม่ได้จำกัดเพียงในสถาบันและการเมือง  แต่ยืนยงอยู่ได้ด้วยสังคมมนุษย์  ผู้ที่ไม่ไปเลือกตั้งถือเป็นผู้ที่คว่ำบาตรประชาธิปไตย

        กฎหมายการเลือกตั้งทั่วไปกำหนดว่ามีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ๕๙๘ ที่นั่ง  แต่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากหวั่นเกรงว่าจะมีจำนวนมากกว่านี้มาก เนื่องจากส.ส. แบบแถม (Überhang) และการปรับตัวเลข (Ausgleich)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น