วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

แมร์เคล : ชูลซ์

หลังการโต้คารมทางโทรทัศน์ระหว่างนายก ฯ Angela Merkel กับ Martin Schulz ผู้ท้าชิง CDU/CSU และ SPD เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของศึกหาเสียงเลือกตั้งด้วยความกระฉับกระเฉง  ทั้งสองฝ่ายต่างประกาศชัยชนะในการปะทะคารมเป็นเวลา ๙๐ นาทีเมื่อเย็นวันที่ ๒ กันยายนที่ผ่านมา  แต่ในการสอบถามแมร์เคลมีคะแนนนำหน้า  ผู้ชมราว ๑๖.๒๓ ล้านคนได้ติดตามการโต้คารมทางโทรทัศน์  หรือคิดเป็นสัดส่วนการตลาด ๔๖.๑ทำให้การโต้คารมเป็นรายการที่มีผู้ชมมากที่สุดจนถึงปัจจุบันของปีนี้  ในรายการ “Fünfkampf” ของพรรคการเมืองขนาดเล็กกว่า ๕ พรรคทางสถานีโทรทัศน์ ARD เมื่อเย็นวันที่ ๓ กันยายนที่ผ่านมามีการปะทะคารมกันหนักหน่วงในนโยบายผู้ลี้ภัย  Sahra Wagenknecht ผู้สมัครแข่งขันจากพรรคซ้ายได้ต่อต้านการส่งประชาชนในประเทศเยอรมันที่ปรับตัวได้ดีมาหลายปีแล้วออกนอกประเทศ  เธอปฏิเสธการส่งตัวกลับไปยังประเทศอัฟกานิสถานด้วย  ในขณะที่ Christian Lindner หัวหน้าพรรค FDF กล่าวว่าผู้ที่ไม่มีสิทธิพำนักอาศัยต้องกลับไปเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้  Joachim Herrmann รัฐมนตรีมหาดไทยแคว้นไบเอิร์นจากพรรค CSU ชี้แจงว่าพรรคของเขาไม่เห็นว่าสมเหตุสมผลที่จะอนุญาตให้ครอบครัวตามมาได้ (ที่ขณะนี้ถูกยกเลิกชั่วคราว) อีกครั้งหนึ่ง  ตรงกันข้าม Cem Oezdemir ผู้สมัครแข่งขันจากพรรคเขียวได้บ่งชี้ว่าการอนุญาตให้ครอบครัวตามมาได้ทำให้การปรับตัวง่ายขึ้นด้วย

        ทั้งนี้ ผู้ชมกว่า ๑๖ ล้านคนได้ติดตามการโต้คารมทางโทรทัศน์ของนายก ฯ และผู้ท้าชิงก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไป  ขณะเดียวกันประชาชนเกือบ ๒๐,๕๐๐ คนได้ให้คะแนนผู้สมัครแข่งขันสดด้วยเครื่องวัด Debat-O-Meter ของมหาวิทยาลัย Freiburg  นักวิชาการได้แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับขนาดของข้อมูลที่รวบรวมได้และกล่าวถึง “การลงมติในช่วงเวลาจริงครั้งใหญ่ที่สุด” ในการวิจัยความคิดเห็นเท่าที่เคยมีมาในการปะทะคารมทางโทรทัศน์  โดยผู้เข้าร่วมเห็นว่าผู้ลี้ภัย-การขอลี้ภัย (๒๔.๓%) เป็นปัญหาหลักในประเทศเยอรมัน ก่อนหน้าความปลอดภัยภายใน (๒๐.๖) และความยุติธรรมทางสังคม (๑๗.๓)  หัวข้อเกษียณบำนาญ (๑๑.๔) และการศึกษา (๗.๓) สูญเสียความหมาย  ผู้พัฒนา Debat-O-Meter ยังสรุปว่าการโต้คารมทางโทรทัศน์ช่วยผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งให้ตัดสินใจได้  เนื่องจากสัดส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ตกลงใจลดน้อยอย่างชัดเจนจาก ๒๓.๕% ก่อนการปะทะคารมเหลือเพียง ๑๔.๔% ของผู้ถูกสอบถามที่ยังรู้สึกไม่มั่นใจหลังการถ่ายทอดสด  โดยนายก ฯ ได้รับคะแนนจากสตรีและผู้สูงอายุ  ชูลซ์สร้างความเชื่อมั่นมากกว่าในบุรุษและผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งอายุน้อย  ต่อคำถามที่ว่าจะเลือกผู้ใดโดยตรง นายก ฯ ได้รับคะแนนนำหน้าด้วยคะแนนเสียง ๔๖.๕ชูลซ์ ๓๙.๒ในการสอบถาม ผู้เข้าร่วมเห็นว่าแมร์เคล (๐.๔๐) น่าเชื่อถือมากกว่าชูลซ์ (๐.๓๕) เล็กน้อย  นายก ฯ สามารถทิ้งห่างคู่แข่งขันอย่างชัดเจนในคำถามเกี่ยวกับสมรรถภาพ  โดย นางแมร์เคลได้รับคะแนน ๐.๕๗  ชูลซ์ ๐.๒๖ อย่างไรก็ดี ยังมีเวลาอีกสามสัปดาห์จนกว่าจะถึงการเลือกตั้งในวันที่ ๒๔ กันยายน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น