สนธิสัญญาสภาพภูมิอากาศประวัติศาสตร์พร้อมเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน โดยโลกควรอุ่นขึ้นเพียง ๑.๕ องศาเซลเซียส
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกควรลดลงเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในการเสนอแบบร่างสนธิสัญญาสภาพภูมิอากาศปารีส Laurent Fabius รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศสและหัวหน้ากลุ่มผู้เจรจาของการประชุมสภาพภูมิอากาศที่ดำเนินมาเป็นเวลา
๒ สัปดาห์ที่ Le Bourget ชานเมืองปารีส
กล่าวว่าเราเผชิญกับช่วงเวลาประวัติศาสตร์
หากเราล้มเหลวในขณะนี้ ลูกหลานของเราในอนาคตจะไม่ให้อภัยเราเลย เป้าหมายของการเจรจาที่ปารีส ได้แก่
การทำสนธิสัญญาสภาพภูมิอากาศที่ผูกมัดทั่วโลกฉบับแรก นอกจากนั้น
กลไกการตรวจสอบเป้าหมายสภาพภูมิอากาศระดับชาติสม่ำเสมอไม่ได้ถูกตัดออกจากสนธิสัญญาอย่างที่หวั่นเกรงกันก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นความสำเร็จที่สำคัญ
เนื่องจากหากปราศจากหนทางควบคุมและเพิ่มเป้าหมายเป็นประจำ
สนธิสัญญาก็แทบไม่มีคุณค่า ตั้งแต่ปี ๒๐๒๓
เป็นต้นไป ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นเอกเทศควรตรวจสอบทุก ๆ ๕
ปีว่าแต่ละประเทศทำตามที่รับปากไว้ได้เพียงใดและมีพื้นที่ที่จะแทนที่ด้วยเป้าหมายที่เอาจริงเอาจังกว่าหรือไม่ นอกจากนั้นทุก ๆ
ประเทศควรประเมินว่าสามารถตั้งเป้าหมายที่จริงจังกว่าได้ก่อนหรือไม่
ซึ่งเป็นตัวตัดสินเพื่อให้มีโอกาสที่จะรักษาความอุ่นขึ้นทั่วโลกให้ต่ำกว่า
๒ องศา
เป้าหมายสภาพภูมิอากาศที่ได้รับการเสนอจากประเทศต่าง ๆ
จนถึงปัจจุบันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของสนธิสัญญาที่จะจำกัดความอุ่นให้ต่ำกว่า
๒ องศา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น