ตามรายงานอาวุธของ
“Jane´s”
ในปีที่ผ่านมาประเทศเยอรมันเป็นประเทศส่งออกอาวุธรายใหญ่ที่สุด นับเป็นอันดับสามของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา
และรัสเซีย
ผู้ผลิตอาวุธเยอรมันขายอาวุธมูลค่าราว ๔.๗๘ พันล้านดอลลาร์ (๔.๒ พันล้านยูโร)
ในต่างประเทศ
อาวุธเล็กที่อันตรายเป็นพิเศษ เช่น ปืนพก และปืนกลที่ตกไปอยู่ในมือคนร้ายได้ง่าย
และทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เสียชีวิตยังไม่ได้นำไปคิดคำนวณด้วย
เมื่อพิจารณาทั่วโลกลูกค้าที่ดีที่สุดอยู่ที่ตะวันออกกลางและอัฟริกาเหนือ ในปี ๒๐๑๕ ไม่มีภูมิภาคอื่น ๆ
นำเข้าขีปนาวุธทางทหารมากกว่านี้ ตามการบันทึกของผู้เชี่ยวชาญของ Jane´s การที่ประเทศอาหรับใช้เงินจำนวนมากสำหรับการนำเข้าอาวุธ
เครื่องบิน เรือ ปืนใหญ่ และเทคนิคการเฝ้าจับตาก็เนื่องจากประเทศเหล่านี้แทบไม่มีการผลิตเองในด้านไฮเทคพวกนี้
สำหรับคำวินิจฉัยของผู้เชี่ยวชาญที่จำเป็นสำหรับการใช้งานและการดูแลรักษาส่วนใหญ่ก็ต้องซื้อด้วย
สำหรับความต้องการอาวุธของภูมิภาคนอกเหนือจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางและการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายต่าง
ๆ แล้ว ยังมีเหตุผลอีก ๒ ข้อ ได้แก่ การเป็นคู่แข่งกันในอวดแสนยานุภาพกองทัพระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน
และความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ปกครองประเทศที่ไม่ได้มาจากประชาธิปไตยที่จะติดอาวุธไว้จัดการกับผู้ต่อต้าน ที่เป็นที่ถกเถียงกัน ได้แก่
การส่งอาวุธไปยังซาอุดิอาระเบียและกาตาร์
เนื่องจากประเทศในอ่าวทั้งสองไม่เพียงเข้าไปข้องเกี่ยวกับสงครามซีเรียเท่านั้น หากแต่ในความขัดแย้งอื่น ๆ ด้วย โดยซาอุดิอาระเบียเข้าร่วมในสงครามในเยเมนและในปี
๒๐๑๑ ยังมีส่วนร่วมยุติการประท้วงขนาดใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้านบาห์เรนผ่านกองกำลังของตนเอง การส่งรถถังต่อสู้ “Leopard 2”
ของเยอรมันไปยังกาตาร์เริ่มขึ้นในปี ๒๐๑๕
ตามข้อมูลของ Jane´s ในปีนี้กาตาร์ควรได้รับรถถัง ๑๙ คัน
ทำให้ในปีนี้มูลค่าการส่งออกของเยอรมันไปยังประเทศเล็กอย่างกาตาร์ถึงกับสูงกว่ามูลค่าการนำส่งไปยังซาอุดิอาระเบีย ที่มีเรือลาดตระเวณมีมูลค่าสูงที่สุด
ผู้สังเกตการณ์ของสถาบันวิจัยสันติภาพเยอรมันเตือนรัฐบาลเรื่องการพิจารณาประเทศอย่างซาอุดิอาระเบียในฐานะประเทศที่มีเสถียรภาพ นอกจากนั้น อะไรจะเกิดขึ้นในกรณีที่ประเทศล่มสลาย ท้ายสุดเพิ่งเกิดเหตุการณ์สองปีก่อนนี้เองที่กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม
(IS)
บุกปล้นคลังอาวุธของกองทัพอิรักที่
Mossul
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น