ตามรายงานของสื่อไทย
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล
ประเทศเกาหลีใต้ได้ออกประกาศเรื่องสถานการณ์คนไทยถูกปฏิเสธเข้าเมือง ณ
ท่าอากาศยานนานาชาติ สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้)
ตามที่ได้ปรากฏข่าวคนไทยถูกปฏิเสธเข้าเมืองจำนวนมากขึ้นในระยะหลัง ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ
กรุงโซลได้รับแจ้งและร้องเรียนจากคนไทย
เพื่อขอรับความช่วยเหลืออยู่เป็นระยะนั้น
สถานเอกอัครราชทูต ฯ ขอแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยสรุปว่า
๑.
ประเทศไทยมีข้อตกลงยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวจำนวน
๙๐ วัน กล่าวคือคนไทยไม่ต้องขอวีซา ดังนั้น
จึงเป็นช่องว่างให้คนไทยบางรายลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมายในเกาหลีใต้
๒.
จากสถิติสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้เมื่อเดือนมีนาคมพบว่าคนไทยพำนักอย่างผิดกฎหมายในเกาหลีใต้
๕๒,๔๓๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๘.๑
ของจำนวนคนไทยทั้งหมดที่พำนักอยู่ ๙๐,๒๓๕ คน
หากแนวโน้มยังสูงขึ้นต่อไปจะกลายเป็นประเทศที่มีคนพำนักผิดกฎหมายมากที่สุด สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจึงต้องดำเนินการเพื่อลดจำนวนคนไทยที่พำนักผิดกฎหมายลง
๓.
มาตรการที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะดำเนินการเพื่อแก้ไข
คือ ให้ผู้พำนักผิดกฎหมายเดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจ เมื่อปี ๒๕๕๘ มีจำนวนคนไทยเดินทางกลับ ๘,๔๕๒ คน
และการป้องกันการเพิ่มขึ้นของการพำนักผิดกฏหมายด้วยการปฏิเสธการเข้าเมืองของผู้ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย
ทำให้มีคนไทยที่ถูกปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง
๔.
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจอย่างเต็มที่ตามกฎหมายของเกาหลีใต้ที่จะสัมภาษณ์หรือสอบถามคนไทยที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย โดยหน่วยงานราชการไทยไม่มีอำนาจและไม่สามารถเข้าแทรกแซงการตัดสินใจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้
๕.
คนไทยที่ต้องการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวจะต้องเตรียมหลักฐานเอกสาร
คือ บัตรโดยสารเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับ เอกสารสำรองโรงแรมที่พัก จำนวนเงินที่มากพอต่อการเดินทางท่องเที่ยวตามระยะเวลา
แผนการท่องเที่ยว ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะเดินทางไป เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น