ตามข้อมูลของมูลนิธิหมอชาวบ้าน การสังเกตว่าตัวเอง
คนใกล้ชิดอ้วน น้ำหนักเกิน หรือ น้ำหนักเท่าไรจึงเหมาะสมกับร่างกาย มีวิธีดังนี้
๑. การวัดเส้นรอบเอว ผู้ชาย
เส้นรอบเอวไม่เกิน ๓๖ นิ้ว (๙๐ เซนติเมตร) ถ้ามากกว่านี้ถือว่าอ้วนลงพุง ผู้หญิง เส้นรอบเอวไม่เกิน ๓๒ นิ้ว (๘๐
เซนติเมตร) ถ้ามากกว่านี้ถือว่าอ้วนลงพุงเช่นกัน
๒. คำนวณค่าดัชนีมวลกาย (Body mass index : BMI) โดยดัชนีมวลกาย = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วย (ส่วนสูง (เมตร) คูณ
ส่วนสูง) ตัวอย่างเช่น น้ำหนักตัว ๖๐
กิโลกรัม สูง ๑๗๐ เซนติเมตร (๑.๗๐ เมตร) ดัชนีมวลกาย =
๖๐ หาร (๑.๗๐ คูณ ๑.๗๐) ค่า BMI คือ
๒๐.๗๖ กิโลกรัมต่อตารางเมตร ถ้าค่า BMI
อยู่ระหว่าง
๑๘-๒๕ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ กรณีค่า BMI
สูงมากกว่า
๓๐ ถือว่าอ้วนมาก
ต้องลดน้ำหนักทันทีและปรับพฤติกรรมการกิน
พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันและออกกำลังกานสม่ำเสมอ
๓. คำนวณน้ำหนักที่ไม่ควรน้อยกว่านี้ มีวิธีง่าย ๆ คือ ส่วนสูง (เมตร) คูณด้วยส่วนสูงคูณ
๑๘ (ค่าดัชนีมวลกายขั้นต่ำ) จะได้น้ำหนักที่ไม่ควรน้อยกว่านี้ ตัวอย่างเช่น สูง
๑๗๕ เซนติเมตร (๑.๗๕ เมตร) นั่นคือ ๑.๗๕ คูณ ๑.๗๕ คูณ ๑๘ = ๕๕.๑๒๕ กิโลกรัม น้ำหนักไม่ควรน้อยกว่านี้
ถ้าน้อยกว่าถือว่าเข้าข่ายค่อนข้างผอม
๔. คำนวณน้ำหนักที่ไม่ควรมากกว่านี้ มีวิธีง่าย ๆ คือ ส่วนสูง (เมตร) คูณส่วนสูงคูณ ๒๕ (ค่าดัชนีมวลกายขั้นสูง)
จะได้น้ำหนักที่ไม่ควรมากกว่านี้ ตัวอย่างเช่น สูง ๑๗๕ เซนติเมตร (๑.๗๕ เมตร) นั่นคือ ๑.๗๕ คูณ ๑.๗๕ คูณ ๒๕ =
๗๖.๕๖
กิโลกรัม คือน้ำหนักที่ไม่ควรมากกว่านี้
มิฉะนั้นจะถือว่าอ้วน
แต่ที่สำคัญ คือ การกินอาหารแต่พอดี
ออกกำลังกายสม่ำเสมอสัปดาห์ละ ๕ ครั้ง
อารมณ์แจ่มใสและหลีกเลี่ยงสุรา บุหรี่ ซึ่งเป็นตัวบั่นทอนสุขภาพกายสุขภายใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น