วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2560

รุ่นวัยที่มีความสุข

        ตามการศึกษาใหม่ ส่วนใหญ่ของประชาชนสูงอายุในประเทศเยอรมันมองชีวิตตนเองด้วยความพึงพอใจ และมองสภาวการณ์เงินในบัญชีส่วนบุคคลเป็นบวก  ทั้งนี้ เป็นผลการสอบถามเกี่ยวกับคนรุ่นใหม่ภายใต้การมอบหมายของบริษัทประกันภัย Generali ที่ได้รับการเสนอต่อสาธารณะเมื่อวันที่ ๑ มีนาคมที่ผ่านมา  อย่างไรก็ดี ความห่างระหว่างชั้นในสังคมมีความแตกต่างสูงมาก  ซึ่งส่งอิทธิพลต่อความรู้สึกในชีวิตของผู้มีวัย ๖๕-๘๕ ปีในประเทศเยอรมันอย่างรู้สึกได้  โดยประชาชนราว ๔,๑๐๐ คนได้รับการสอบถามเมื่อ ๑ ปีก่อน  การวิเคราะห์ได้ผลว่า

-ความพึงพอใจในชีวิต  ผู้สูงอายุร่วมกับเยาวชนเป็นรุ่นวัยที่มีความสุขที่สุดในประเทศเยอรมัน  ๘๕% ของผู้ถูกสอบถามพึงพอใจกับชีวิต  เพียง ๑ ใน ๑๐ แสดงความพอใจน้อย  ทุก ๑ ใน ๑๐๐ คนถึงกับไม่พึงพอใจเลย  ที่พึงพอใจสูงที่สุด ได้แก่ ผู้สูงวัยในแคว้นชเลสวิก-โฮลสไตน์  ที่ไม่พึงพอใจมากที่สุด ได้แก่ ที่ Mecklenburg-Vorpommern  โดยรวมคนกลุ่มวัยสูงไม่เพียงได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นบวกเท่านั้น  ๑ ใน ๓ ของผู้ถูกสอบถามบอกว่า “มองเห็นโอกาสใหม่” อีก ๑ ใน ๓ มีความเหนื่อยใจ ๑ ใน ๔ ตัดสินใจไม่ได้ในคำถามนี้
เงิน  ผู้ถูกสอบถามตัดสินสภาวการณ์เศรษฐกิจของตนเองโดยรวมดีกว่าในการสอบถามครั้งแรกในปี ๒๐๑๒  โดยมีเงินให้ใช้จ่าย ๖๒๘ ยูโรต่อเดือน  มากกว่าเมื่อ ๔ ปีก่อนราว ๑๐๐ ยูโร  ในการสอบถามรายได้ของครัวเรือนสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ ๒,๔๑๐ ยูโร  ในการมองเศรษฐกิจส่วนตัว ทุก ๑ ใน ๑๐ คนรับว่า “ดีมาก”  ราวครึ่งหนึ่ง “ดี” และ ๑ ใน ๓ “ใช้ได้”  เพียง ๖% รู้สึกว่าแย่หรือแย่มาก  อย่างไรก็ดี มีความแตกต่างขึ้นอยู่กับระดับการศึกษา อาชีพและทรัพย์สิน  รายได้ที่มีให้ใช้จ่ายในผู้มีสถานะต่ำกว่าอยู่ที่เพียง ๓๕๑ ยูโรต่อเดือน

-งาน  โดยรวมประชาชนมากขึ้นมีจำนวนชั่วโมงทำงานนานขึ้นกว่าสมัยก่อน  ในปี ๒๐๑๒ ยังเป็น ๑๑% ของผู้ถูกสอบถาม  ในปี ๒๐๑๕ ค่านี้เพิ่มขึ้นเป็น ๑๕%  ทำให้มากกว่า ๑ ใน ๔ ของผู้มีวัย ๖๕-๖๙ ปียังทำงานสม่ำเสมอ  เฉลี่ยราว ๑๔ ชั่วโมงต่อสัปดาห์  โดยเป็นบุรุษมากกว่าสตรีเกือบสองเท่า  ในวัยระหว่าง ๗๐-๘๐ ปีผู้ถูกสอบถามราวทุก ๑ ใน ๑๐ คนก็ยังทำงาน  เงินในฐานะแรงจูงใจอยู่อันดับที่ ๔  ที่อยู่อันดับแรก ได้แก่ ความสนุกในการทำงาน ความสมบูรณ์ของจิตใจและร่างกาย รวมทั้งการติดต่อสัมพันธ์กับสังคม  อันดับ ๖ ได้แก่ ความเบื่อหน่าย
สุขภาพ  เป็นหัวข้อที่สำคัญที่สุดของผู้มีวัย ๖๕ ปีขึ้นไป  และบ่อยครั้งที่ได้รับการมองเป็นบวกด้วย  ส่วนใหญ่รู้สึกอ่อนวัยกว่าอายุจริง ๗-๘ ปี  คู่สมรสรู้สึกมีสุขภาพดีกว่าคนโสด  เกือบครึ่งหนึ่งของผู้สูงวัยเล่นกีฬา  เมื่อ ๑๐ ปีก่อนยังน้อยกว่าหนึ่งในสาม  แนวโน้มแย่ลงในความรู้สึกเกี่ยวกับสภาพพลานามัยเริ่มขึ้นในวัย ๗๕ ปี  แต่ตรงนี้สภาพทางสังคมก็มีบทบาทด้วย  ราวครึ่งหนึ่งของผู้มีฐานะดีรู้สึกว่าตนเองแข็งแรง  ในผู้มีรายได้ต่ำมีจำนวนเพียง ๑ ใน ๔  ราว ๑ ใน ๕ ของผู้ถูกสอบถาม คู่ครองจำเป็นต้องได้รับการดูแลแล้ว

-เครือข่ายสังคม  เพียงทุก ๑ ใน ๑๐๐ คนของผู้ถูกสอบถามกล่าวว่าไม่สามารถหันหาใครได้ในสภาวการณ์ที่แย่  ตรงกันช้าม ๑ ใน ๓ สามารถพึ่งพาบุตร  ๒ ใน ๓ คู่ครองของตนและราวครึ่งหนึ่งสามารถพึ่งพามิตรสหาย  ๒ ใน ๓ ใช้ชีวิตร่วมกับคู่  ๖๙% มีแวดวงมิตรสหายที่สนิทสนม  ผู้สูงวัยที่เป็นโสดส่วนใหญ่พอใจกับอิสรภาพและไม่ปรารถนาคู่ครองใหม่  โดยในจำนวนนี้เป็นสตรีมากกว่าบุรุษ


-การเดินทางเคลื่อนย้าย  มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ถูกสอบถามขับรถยนต์  ในผู้มีวัย ๖๕-๖๙ ปีมีจำนวนมากกว่าในปี ๑๙๘๕ สองเท่า  ในผู้มีวัย ๘๐-๘๕ ปีอัตรานี้ถึงกับเพิ่มขึ้นมากกว่า ๑๐ เท่า  โดย ๓๘% ของผู้สูงวัยใช้รถยนต์ของตนเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น