หายนภัยจากเดือนเมษายนที่ผ่านมาปลุกยุโรปให้ตื่น
อย่างน้อยผู้นำประเทศและหัวหน้ารัฐบาลก็ประสงค์จะสื่อสารนี้
หลังจากที่มาร่วมพบปะกันในการประชุมสุดยอดที่บรัสเซลส์หลังการเสียชีวิตของผู้ลี้ภัยราว
๑,๐๐๐ คนภายในไม่กี่วันในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ในแผนปฏิบัติการต่างประสงค์จะบ่งชี้ถึงความเข้มแข็งท่ามกลางวิกฤติ
โดยการระงับการเสียชีวิตในอนาคตได้รับการเชิดชูมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี ๒๐๑๓
ขณะที่ประชาชนหลายร้อยคนจมน้ำตายที่ชายฝั่งหน้าเมือง Lampedusa
ประเทศอิตาลี กระนั้น
เรือผู้ลี้ภัยที่บรรทุกคนเกินขนาดก็ล่มอีกแล้ว
ห่างจากชายฝั่งประเทศลิเบีย ๓๐ ไมล์ทะเล
ทำให้ประชาชนเสียชีวิตกี่คนยังไม่แน่ชัด
“Aerzte ohne Grenzen” กล่าวตำหนิ “การขาดปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือที่เหมาะสมในพื้นที่” ทำให้ปฏิบัติการ Triton ที่ดำเนินการโดย
Frontex (สำนักงานปกป้องพรมแดนของสหภาพยุโรป)
ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งหนึ่ง
แม้ว่านับแต่นั้นจะมีการลงมือทำบางอย่างไปแล้ว โดยประเทศสมาชิก EU ๒๘
ประเทศได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินมากขึ้นและเรือเพิ่มเติมสำหรับ Triton กระนั้น แม้แต่เรือลาดตระเวณ ๑๗
ลำ เครื่องบิน ๔ ลำและเฮลิคอปเตอร์ ๒ ลำก็แทบไม่สามารถครอบคลุมมหาสมุทรใหญ่ที่มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น
๒.๕ ล้านตารางกิโลเมตรได้
แม้ว่าขณะนี้เรือได้รับอนุญาตให้แล่นออกไปไกลกว่าดั้งเดิม ๓๐ ไมล์หน้าชายฝั่ง โดยไปได้ถึง ๑๓๘ ไมล์ทะเล (๒๕๐ กิโลเมตร) ทำให้เข้าไปในน่านน้ำสากล แต่ปฏิบัติการของ Frontex
เป็นการปกป้องพรมแดนยุโรป
เรือลาดตระเวณเป็นไปเพื่อเป้าหมายนี้เป็นเบื้องแรก เรือของ Triton
จะได้รับการเรียกให้ไปร่วมปฏิบัติการกู้ภัยหรือไม่เจ้าหน้าที่ชายฝั่งของอิตาลีเป็นผู้ตัดสิน ตามกฎหมายทะเลสากล
เรือทุกลำที่ถูกเรียกมีหน้าที่กู้ภัยทะเล
ผู้ลี้ภัยทุก ๆ ๓ คนที่ได้รับการช่วยเหลือในปีนี้ต้องขอบคุณเรือที่ดำเนินการโดย
Triton แต่ส่วนใหญ่ได้รับการช่วยไม่ให้จมน้ำจากเรืออื่น แม้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจะลดลงนับแต่การเพิ่มปฏิบัติการของ
Triton แต่ไม่น่าแปลกใจที่ก้าวย่างที่ทำถึงปัจจุบันไม่สามารถระงับการเสียชีวิตของประชาชนคนอื่น
ๆ ทุกวันประชาชนหลายพันคนเดินทางเสี่ยงอันตราย ปฏิบัติการที่ EU
วางแผนไว้ เชน การสนับสนุนการปกป้องพรมแดนที่ประเทศในภาคเหนือของอัฟริกาอย่างดีที่สุดก็เป็นความหวังดี แต่ไม่ได้แก้ไขสาเหตุของการลี้ภัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น