ประธานาธิบดี
Recep
Tayyip Erdogan ของประเทศตุรกีกดดันสหภาพยุโรป หากไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับการปลอดวีซาเขาจะไม่ปล่อยให้สนธิสัญญารับผู้ลี้ภัยกลับมีผลใช้บังคับ Erdogan ได้ขู่ในการปิดท้ายการประชุมสุดยอดเพื่อช่วยเหลือเร่งด่วนของสหประชาชาติเมื่อวันที่
๒๔ พฤษภาคมที่ผ่านมาที่อิสตันบูลว่าหากการเจรจาเรื่องวีซาไม่เดินหน้า
รัฐสภาที่อังการาจะไม่รับรองสนธิสัญญารับกลับ
ในวันก่อนหน้านายก ฯ Angela Merkel ของประเทศเยอรมันได้ชี้แจงหลังการเจรจากับ Erdogan ว่ากำหนดเวลาที่ต้องประสงค์สำหรับการปลอดวีซาในวันที่
๑ กรกฎาคมศกนี้ไม่สามารถทำได้
สาเหตุเบื้องหลัง ได้แก่ การปฏิเสธของ Erdogan ที่จะปฏิรูปกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายของตุรกี ซึ่งเป็นเงื่อนไขของ EU เพื่อยกเลิกหน้าที่การขอวีซาสำหรับชาวตุรกีในการเดินทางเข้าในเขตเชงเกน
การรับผู้อพยพผิดกฏหมายที่ตกลงกันไว้ในสัญญาผู้ลี้ภัยของ EU ขณะนี้ดำเนินไปบนพื้นฐานของสนธิสัญญาระหว่างประเทศตุรกีและประเทศกรีซและขยายไปถึงเกาะ
Ägäis ของกรีซ ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายนที่ผ่านมา การรับกลับควรเกิดขึ้นบนพื้นฐานของสนธิสัญญารับกลับระหว่าง
EU
และประเทศตุรกีที่ได้รับการลงมติตั้งแต่ปลายปี
๒๐๑๓ แล้ว โดย EU ได้ทำการเจรจาแลกเปลี่ยนที่ซับซ้อนกับตุรกี ตามสัญญาที่เรียกว่าสัญญาผู้ลี้ภัย EU ได้รับอนุญาตให้ส่งผู้ต้องการความคุ้มครองทุกคนที่ข้ามไปยังเกาะของกรีซตั้งแต่วันที่
๒๐ มีนาคมที่ผ่านมากลับไปยังประเทศตุรกี
ยกเว้นผู้ขอลี้ภัยที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าถูกติดตามในประเทศตุรกี ตั้งแต่วันที่ ๔
เมษายนที่ผ่านมาสำหรับชาวซีเรียแต่ละคนที่ถูกส่งกลับ ชาวซีเรียคนอื่นจากตุรกีได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้า
EU
โดยตรงและถูกกฎหมาย กฎเกณฑ์การคัดเลือกยากจะมองออก เพื่อเป็นการตอบแทน
หน้าที่ต้องขอวีซาสำหรับพลเมืองตุรกีในการเดินทางเข้า EU ดั้งเดิมควรได้รับการยกเลิกตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นไป แต่ก่อนหน้านั้นประเทศตุรกีควรบรรลุเงื่อนไข ๗๒
ประการที่ย้อนไปถึงการเจรจาครั้งก่อน ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น