ถึงแม้ว่าฤดูหนาวจะยังไม่สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ แต่สองสามวันมานี้แดดออก อากาศอุ่นสบาย ผู้เขียนจึงเริ่มนึกถึงการเก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน เช็ดกระจกขจัดคราบไคลจากฤดูหนาว ฯลฯ อย่างที่ชาวเยอรมันเรียกว่า “Frühjahrsputz” ไม่ได้ขยันขันแข็งหรือเป็นโอมาเยอรมันจอมสะอาด แต่สว่างไสวแบบนี้ มองไปที่ไหนก็เห็นหยากไย่และฝุ่นผงชัดเจน ซึ่งในช่วงเวลามืด ๆ มัว ๆ ระหว่างฤดูหนาวมองไม่เห็น ถึงจะขี้เกียจขนาดไหนก็จำใจต้องแปลงตัวเป็นแจ๋วชั่วคราว ตามปกติผู้เขียนเป็นคนแพ้สารเคมี โดนเข้าละก้อเป็นผิวลอก มือบวมพองเอาเลยทีเดียว จึงใช้น้ำยาทำความสะอาดอยู่ไม่กี่อย่าง เจ้าลูกชายตัวดีสั่นหัวดิก ๆ ท้วงว่าอย่างนี้จะไปได้เรื่องอะไร แต่ตามความเป็นจริงผู้เชี่ยวชาญก็เห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีน้ำยาทำความสะอาดพิเศษประเภทต่าง ๆ เต็มตู้
ส่วนพื้นไม้และเฟอร์นิเจอร์ไม้ น้ำยาทั้งสามชนิดยังสามารถนำมาใช้ได้ โดยเฉพาะไม้ที่ทาน้ำมันหรือลงแวกซ์ อย่างไรก็ดี Stiller แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบอ่อน โดยใช้อย่างประหยัด ซึ่งหมายถึงว่าเช็ดตู้ด้วยน้ำและน้ำยาดูแลพิเศษอย่างอ่อนที่มีส่วนผสมของขี้ผึ้งปีละครั้งก็เพียงพอแล้ว พื้นไม้ถูเป็นครั้งคราวด้วยสบู่สำหรับไม้
สำหรับผู้ที่มีน้ำยาพิเศษต่าง ๆ มากมายหลายชนิดก็ไม่จำเป็นต้องทิ้งไป Stiller มีความเห็นว่าควรใช้ให้หมดดีกว่า แต่ผู้ที่ประสงค์จะเลิกใช้น้ำยาที่สร้างความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมมากจริง ๆ ก็สามารถนำไปมอบให้กับสถานที่รับมอบสารเป็นพิษได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (ปริมาณไม่เกิน ๑๕ ลิตรหรือ ๑๕ กิโลกรัม) ซึ่งที่อยู่ในคอมมูนแต่ละแห่งสามารถดูได้จากปฏิทินกำหนดการเก็บขยะ จะรู้ได้ว่าเป็นพิษหรือไม่ดูได้จากข้างหลังขวด ซึ่งจะมีสัญลักษณ์ติดอยู่ ถังสีดำที่ถูกกากบาทหมายถึงไม่ให้ทิ้งในถังขยะ ถ้าไม่แน่ใจก็ให้นำไปที่สถานที่รับมอบสารพิษ
เอาละ ให้กำลังใจตัวเองโดยคิดเสียว่าเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง เปิดเพลงฟังไปด้วยเพลิน ๆ ไม่นานก็เช็ดกระจกเสร็จเป็นบาน ๆ เห็นหน้าต่างใส ๆ แล้วก็รู้สึกหายเหนื่อยไปได้เยอะ ภาวนาอย่าให้พระพิรุณท่านนึกครึ้มอกครึ้มใจโปรยฝนลงมาก็แล้วกัน เพี้ยง
เรียบเรียงโดย “เอื้อยอ้าย”
ข้อมูล Aachener Zeitung
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น