วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

สัตว์ก็มีหัวใจ

        เพิ่งเห็นข่าวคนใจร้ายขับรถกระบะทับหมาตายที่เมืองไทย อย่าว่าแต่จะดูคลิปที่ว่อนไปทั่วและการให้สัมภาษณ์ของคนขับเลย  ลำพังเห็นแค่หัวข่าวก็รู้สึกหดหู่บอกไม่ถูกแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธจึงก่อเหตุชนิดนี้ได้ลง และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก แน่นอนเหลือเกินว่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นเดียวกัน  ไม่ใช่เฉพาะแค่หมา ข่าวและคลิปแมวจรถูกรถทับก็มีให้เห็นเป็นประจำ
ในขณะที่ในประเทศเยอรมันผู้เขียนไม่เคยได้ยินข่าวประเภทนี้เลย อย่างมากก็เห็นซากสัตว์เล็กที่ถูกรถทับหรือชนตายบนท้องถนน อันนี้เชื่อได้ว่าผู้ขับไม่ได้ตั้งใจ แต่อีกกรณีที่เห็นบ่อยคือการปล่อยหมาไว้ในรถยนต์ ขณะเจ้าของไปทำธุระหรืออะไรก็แล้วแต่  ซึ่งหากเป็นฤดูกาลที่สภาพอากาศปกติก็ไม่กระไรนัก แต่ในฤดูร้อนเช่นขณะนี้นั้นถือว่าเป็นการทรมานสัตว์ประเภทหนึ่งทีเดียว
        แต่ละปีในประเทศเยอรมันมีสุนัขเสียชีวิตในรถยนต์ที่ร้อนจัด เนื่องจากเจ้าของตั้งใจว่าแค่จะทำธุระเล็ก ๆ น้อย ๆ และทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในรถยนต์ที่อุณหภูมิข้างนอกร้อนมาก  ซึ่งผู้ที่ทิ้งสัตว์ไว้ในรถยนต์ท่ามกลางความร้อนเช่นนี้ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบและถือว่ากระทำผิดกฎหมายคุ้มครองสัตว์ 
นักคุ้มครองสัตว์กล่าวว่าสัตว์ทนความร้อนได้ไม่ค่อยดีเช่นเดียวกับมนุษย์นั่นแหละ  เนื่องจากหมาและแมวสามารถกำจัดเหงื่อได้เพียงจากการหายใจผ่านทางปากที่อ้ากว้างและอุ้งเท้าเท่านั้น  ทำให้อุณหภูมิร่างกายเข้าที่ได้ช้า  ดังนั้น จึงควรป้องกันสัตว์จากความร้อนโดยตรงและรังสีจากดวงอาทิตย์  สัญญาณแรกเริ่มที่บ่งชี้ว่าสัตว์ถูกความร้อนเล่นงานเข้าแล้ว คือ การหอบหนักและน้ำลาย ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไปจนถึงอาการเฉื่อยชา การสูญเสียการทรงตัว ลุกลน และอาเจียรก็เป็นสัญญาณที่ควรใส่ใจอย่างจริงจังเช่นเดียวกัน  สุนัขที่ขนหนาเป็นพิเศษสามารถตัดให้สั้นลงจากผู้เชี่ยวชาญ  แต่ก็ควรดูไม่ให้สั้นจนเกินไป  เนื่องจากหมาและแมวก็สามารถถูกแดดเผาได้  โดยสุนัขอาจโดนแดดเผาจมูก  ซึ่งทำให้รู้สึกไม่สบายและเจ็บมาก  ควรพาออกไปเดินเฉพาะช่วงเช้าตรู่และช่วงเย็นที่อากาศยังสบายๆต่อสำหรับสัตว์  อย่างไรก็ดี เพียงช่วงสั้น ๆ ในสวนหรือออกไปเดินสักพักก็เพียงพอแล้ว 
การให้อาหารควรเป็นเพียงอาหารที่ย่อยง่าย แบ่งเป็นปริมาณน้อย ๆ เพื่อไม่ให้ท้องเสียและอาเจียร  นอกจากนั้นควรตั้งน้ำสะอาดไว้ให้เสมอ  บ้านที่มีระเบียงหรือสวนสามารถตั้งอ่างเล่นน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยง  ซึ่งสุนัขมักจะชอบเล่นน้ำ  ส่วนแมวจะกลัวน้ำกว่ามาก  เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีห้องเย็น ๆ ไว้ให้อยู่ เช่น มีทางเข้าถึงห้องใต้ดิน ห้องน้ำที่เย็น ๆ หรือห้องนอนที่ปิดม่าน  สำหรับสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กเป็นเรื่องสำคัญที่จะจัดทำกรงให้มีร่มเงา  หญ้าสดช่วยเรื่องความเย็น  กระต่ายและหนูตะเภาชอบแตงกวา
        ที่อันตรายมากแต่ทุกวันนี้คนเราก็ยังไม่เห็นเป็นเรื่องจริงจัง ก็ได้แก่การทิ้งสุนัขไว้ในรถที่ปิดตามที่ผู้เขียนกล่าวข้างต้น  ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่งในช่วงเวลาวันอุณหภูมิสูง  เพียงไม่กี่นาทีก็สามารถทำให้สัตว์เสียชีวิตได้ แม้แต่รถยนต์ที่จอดอยู่ในร่มก็สามารถร้อนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว  แม้จะเปิดหน้าต่างไว้ก็ยังสามารถทิ้งสัตว์ไว้ได้อย่างมากที่สุดเพียง ๕-๑๐ นาทีเท่านั้น  เพราะอากาศสามารถผ่านเข้ามาได้เพียงเล็กน้อยมาก ทำให้ช่วยไม่ได้เพียงพอ  ควรทิ้งสัตว์ไว้ที่บ้านดีกว่า 
        หากรถยนต์จอดอยู่ท่ามกลางแสงแดดจัด  ไม่ว่าคนหรือสัตว์ไม่สามารถทนได้นานกว่า ๑๐-๒๐ นาที  หลังจากช่วงเวลานี้จะโดนความร้อนเล่นงาน  ซึ่งสามารถนำไปสู่การเสียชีวิตได้  ในอุณหภูมิภายนอกที่ ๓๐ องศา  อุณหภูมิในรถยนต์จะเพิ่มขึ้นเกือบ ๑๐ องศาหลัง ๑๐ นาที  หลัง ๓๐ นาทีอุณหภูมิภายในรถจะขึ้นไปถึง ๔๖ องศา  หากพบสุนัขอยู่ในรถยนต์  โปรดช่วยค้นหาเจ้าของในบริเวณใกล้เคียง เช่น ประกาศหมายเลขทะเบียนรถยนต์ในซุปเปอร์มาร์เก็ต  หากหาเจ้าของไม่พบให้แจ้งดับเพลิงหรือตำรวจท้องที่  ซึ่งจะเสาะหาเจ้าของเช่นเดียวกัน  หากหาไม่พบก็จะทุบกระจกหน้าต่างและนำสุนัขไว้ที่สถานเลี้ยงดูสัตว์หรือสัตวแพทย์  หากสุนัขอยู่ในสภาพอันตรายที่จะเสียชีวิตแล้วควรแจ้งตำรวจทันที  ไม่เช่นนั้นจะเสียเวลาอันมีค่า  เจ้าของสามารถถูกดำเนินคดีตามมาตรา ๑๗ ของกฎหมายคุ้มครองสัตว์  เนื่องจากทิ้งสุนัขไว้ในรถยนต์ท่ามกลางแดดจัดและทำให้มันทรมานหนัก  เจ้าของสามารถถูกโทษจองจำได้ถึง ๓ ปี
        เห็นไหมว่าไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลย ในเมื่อตั้งใจรับเขามาดูแลในฐานะสัตว์เลี้ยง ก็ขอให้เลี้ยงดูเอาใจใส่ให้เต็มที่ เหมือนสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่เด็กจนแก่  ไม่ใช่พอพ้นวัยเด็ก หมดความน่ารักแล้ว ก็เอาไปปล่อย หรือพอแก่เจ็บป่วยแล้วก็เอาไปทิ้ง  แม้แต่หมาแมวจรที่ไม่มีเจ้าของมันก็มีหัวใจ มีความรักตัวกลัวตาย ไม่ได้อยากจะทำตัวให้เป็นภาระของใคร ถึงหากไม่รักไม่ชอบก็ไม่เห็นจะต้องถึงขนาดฆ่าแกงกันเลยนี่นา ถ้ากีดขวางทางนักเพียงกดแตรมันก็หลีกให้แล้ว หรือใครว่าไม่จริง?

เรียบเรียงโดย “เอื้อยอ้าย”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น