ความยืนยาวของชีวิตประชาชนในประเทศเยอรมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับแต่ทศวรรษที่
๘๐ Franziska Wöllert จากสถาบันประชากรและพัฒนาการแห่งเบอร์ลินกล่าวว่าประชาชนไม่เพียงแต่สูงวัยขึ้นทุกปี แต่ยังสูงวัยอย่างมีสุขภาพดีขึ้นด้วย Rupert Püllen ประธานสมาคมแพทย์โรคชราเยอรมันกล่าวเสริมว่าสมาคม
ฯ มีข้อบ่งชี้ว่าผู้มีวัย ๘๐ ปีทุกวันนี้
โดยเฉลี่ยมีร่างกายฟิตกว่าและแข็งแรงกว่าเมื่อ ๒๐ ปีก่อน ตามการคำนวณของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
เมื่อถือกำเนิดเด็กหญิงจะมีอายุยืนยาว ๘๓ ปี ๑ เดือน สำหรับเด็กชาย ๗๘ ปี ๒ เดือน ทำให้ภายใน ๑๐ ปีสุดท้าย เด็กหญิงมีอายุยืนขึ้น
๑ ปีครึ่ง เด็กชายถึงกับ ๒ ปี ๓ เดือน ประชาชนในวัยเกษียณก็มีชีวิตยืนยาวขึ้นเช่นเดียวกัน ตามการคำนวณ บุรุษวัย ๖๕
ปีจะได้ฉลองวันเกิดครบรอบปีที่ ๘๒
เนื่องจากสามารถใช้ชีวิตได้อีก ๑๗ ปี ๘ เดือนที่ยังเหลือ ซึ่งมากกว่าเมื่อ ๑๐ ปีที่แล้ว ๑ ปี ๕
เดือน
สตรีในวัยเดียวกันจะเกือบได้ฉลองวันเกิดครบรอบ ๘๖ ปี โดยยังมีเวลาใช้ชีวิตอีก ๒๑ ปีหรือมากกว่าเดิม
๑ ปี ๒ เดือน
Wöllert
กล่าวว่าความยืนยาวของชีวิตเพิ่มขึ้นทั่วโลก นักสถิติพบว่าในการเปรียบเทียบนานาชาติ
ประเทศเยอรมันไม่ได้อยู่ในตำแหน่งต้น ๆ
ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ฝรั่งเศส ลักเซมบวร์ก เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์
หรือออสเตรีย ความยืนยาวของชีวิตของทั้งสองเพศสูงกว่าประเทศเยอรมันเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับเฉลี่ยของสหภาพยุโรป
บุรุษในประเทศเยอรมันมีอายุยืนยาวกว่าเล็กน้อยและสตรีสั้นกว่าเล็กน้อย Püllen กล่าวว่าสาเหตุหลักของความยืนยาวของชีวิตที่เพิ่มขึ้น
คือ ความก้าวหน้าทางการแพทย์ การเสียชีวิตผ่านโรคภัยที่พบบ่อย เช่น หัวใจวาย
เนื้องอก และเส้นโลหิตในสมองแตกลดลง
เขาระบุเหตุผลว่าเนื่องจากการรักษาที่ดีขึ้นและการป้องกันที่ดีขึ้น Wöllert เสริมว่าความยืนยาวของชีวิตข้องเกี่ยวสูงมากกับปัจจัยทางสังคม โดยทั่วไปถือว่ายิ่งมีการศึกษาดีขึ้นเท่าใด
ประชาชนก็ใช้ชีวิตถูกสุขอนามัยขึ้นเท่านั้น
ดังนั้น ความยืนยาวของชีวิตจึงสูงขึ้น
Rembrandt
Scholz จากสถาบัน Max-Planck
เพื่อการวิจัยด้านประชากรศาสตร์กล่าวว่า การว่างงานส่งผลทางลบต่อความยืนยาวของชีวิตในบุรุษเป็นพิเศษ ทั้ง Püllen และ Scholz
เห็นพ้องกันว่าโดยทั่วไปสตรีใช้ชีวิตอย่างสนใจในเรื่องสุขภาพมากกว่าบุรุษ อย่างไรก็ดี บุรุษทั้งในวัยทารกและในวัยเกษียณ
ความยืนยาวของชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่าสตรี Püllen
ชี้แจงว่าการใช้ชีวิตของบุรษและสตรีใกล้เคียงกันมากขึ้นทุกที ผล คือ
ความยืนยาวของชีวิตของทั้งสองเพศจึงใกล้เคียงกันด้วย
ความยืนยาวของชีวิตหลังการรวมประเทศในภาคตะวันตกยังสูงกว่าในภาคตะวันออกอย่างชัดเจน ความแตกต่างนี้ลดลงอย่างหนัก Wöllert กล่าวว่าในอดีตประเทศเยอรมันตะวันออก
ประชาชนใช้ชีวิตอย่างไม่ถูกสุขอนามัยมากกว่าเล็กน้อย นอกจากนั้น ระบบสาธารณสุขยังเพ่งเล็งที่ประชาชนในวัยทำงานเป็นพิเศษ Püllen กล่าวว่าส่วนทุกวันนี้ความแตกต่างในภาคตะวันออกและตะวันตกในเรื่องความยืนยาวของชีวิตขึ้นอยู่กับระดับสถานะทางการเงินด้วย ตามการประเมินของ Scholz
สัดส่วนของชาวต่างชาติก็มีบทบาทด้วย
เพียงประชาชนที่สุขภาพดีอพยพและชาวต่างชาติที่ป่วยบ่อย ๆ
เดินทางกลับไปยังบ้านเกิดในวัยสูงอายุ
ซึ่งแคว้นที่ได้รับประโยชน์ คือ บาเดน-วือร์ทเทมแบร์ก ซึ่งเป็นผู้นำในเรื่องความยืนยาวของชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น