โทรศัพท์มือถือสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับธุรกิจการคมนาคมทางใกล้เยอรมันมานับ
๒ ทศวรรษแล้ว
สมัยก่อนเป็นผู้โดยสารที่โทรศัพท์เสียงดังในรถโดยสารหรือรถราง ซึ่งเป็นเรื่องน่ารำคาญสำหรับผู้อื่น ปัจจุบันนี้แทบไม่ค่อยมีการบ่นว่าเรื่องนี้แล้ว
ทุกวันนี้คนขับกลัวคนเดินเท้าที่พิมพ์ข้อความในสมาร์ทโฟนขณะเดินข้ามถนนและไม่ใส่ใจกับการจราจร ระหว่างที่โคโลญน์มีสัญญาณไฟพิเศษสำหรับ
“ชนรุ่นก้มหัว”
โดยแถบหลอดไฟที่ฝังไว้บนพื้นจะส่องแสงหากรถแล่นเข้ามาใกล้
เป็นปฏิกิริยาต่อปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยขึ้นทุกทีกับคนเดินเท้าที่ถูกหันเหความสนใจ
ในปี ๒๐๑๐ ที่โคโลญน์เป็นปีแห่งโศกนาฏกรรม ประชาชน ๔ คนเสียชีวิตที่สถานีรถไฟ ตามข้อมูลของตำรวจ ใน ๒
กรณีคนเดินเท้าเดิมข้ามขณะไฟแดง
อีกคนข้ามรางรถไฟแบบอวดเก่ง ประมาทเลินเล่อ ครั้งกระนั้น มีการเรียกร้องแนวหลอดไฟ LED
เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่ทำให้เสียชีวิต ในปี ๒๐๑๑ ผู้บริหารเมืองจึงได้ลงมตินำการทดสอบแนวหลอดไฟมาใช้
นับเป็นระยะเวลาหนึ่งมาแล้วที่ตำรวจตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ร่วมอุบัติเหตุว่ามีการใช้ก่อนหน้าการเกิดอุบัติเหตุหรือไม่
สาเหตุอื่นก็ได้แก่
ความเผลอไผลผ่านดนตรีจากหูฟังหรือตกอยู่ในภวังค์ความคิดหรือมีเวลาน้อยทำให้ต้องเร่งรีบ แต่ที่เกิดขึ้นเสมอ คือ
การประเมินอันตรายต่ำ
ในโครงการนำร่องที่โคโลญน์มีไฟบนพื้นที่ป้ายรถเมล์ ๓ แห่ง
ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีการสัญจรหนาแน่นพร้อมอันตรายจากอุบัติเหตุ
ในกรอบของการทดสอบมีการตรวจสอบเพื่อบันทึกผลของไฟ
แล้วจึงจะมีการตัดสินใจว่าจะมีการติดตั้งต่อไปหรือไม่และที่ไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น