วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ท็อป 10 เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก

        ตามการศึกษาใหม่ ฮัมบวร์กอยู่ใน ๑๐ เมืองที่มีคุณภาพชีวิตสูงสุดในโลก  ตามการเปิดเผยของสถาบัน Economist Intelligence Unit แห่งลอนดอนเมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคมที่ผ่านมา ฮัมบวร์กเลื่อนขึ้นมาอยู่ในอันดับ ๑๐ ของเมืองที่ได้รับการตรวจสอบ ๑๔๐ แห่ง  ซิดนีย์ เมืองใหญ่ของประเทศออสเตรเลียหล่นไปอยู่ในอันดับที่ ๑๑  เหตุผลเบี้องหลัง ได้แก่ ความรู้สึกว่าถูกข่มขู่จากการก่อการร้าย  ปลายปี ๒๐๑๔ ซิดนีย์เป็นสถานที่เกิดเหตุกักตัวประกันที่นองเลือดในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง  คะแนนที่แย่เกี่ยวกับเสถียรภาพและความมั่นคงภายใน ถูกกันกรุงเบอร์ลินและนครแฟรงก์เฟิร์ตออกจากอันดับกลุ่มผู้นำ  โดยแฟรงก์เฟิร์ตอยู่ในอันดับ ๒๐ เบอร์ลิน ๒๓  เมืองเยอรมันอื่น ๆ ที่ติดอันดับ ได้แก่ มืนเชน อันดับ ๒๕ และดุสเซลดอร์ฟ อันดับที่ ๓๒ 
เมืองที่น่าอยู่ที่สุดของโลกตามการตรวจสอบยังคงเป็นเมลเบิร์นของออสเตรเลีย  ตามมาติด ๆ ด้วยกรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรียและแวนคูเวอร์ เมืองในภาคตะวันตกของประเทศแคนาดา  เกณฑ์ที่สำคัญในการให้คะแนน ได้แก่ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความปลอดภัย  นั่นคือ ความขัดแย้ง อัตราอาชญากรรม และความรู้สึกปลอดภัยของประชาชน  นอกจากนั้น ยังมีปัจจัย เช่น การดูแลด้านสาธารณสุข สิ่งแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐานหรือข้อเสนอด้านการศึกษาและวัฒนธรรม  โดยให้คะแนนระหว่างยอมรับได้และทนไม่ได้  ที่น่าแปลกใจน้อย คือ Damaskus เมืองหลวงของซีเรีย อยู่ในอันดับสุดท้ายก่อนหน้า Tripolis เมืองหลวงของลิเบียและ Lagos เมืองหลวงของไนจีเรีย 

ตามข้อมูลผู้ทำการศึกษานำเมืองที่ประชาชนอยากจะอาศัยอยู่หรือประสงค์จะไปชมในฐานะนักท่องเที่ยวเข้าไว้ในบัญชี  ทำให้เมืองหลวงคาบูลของอัฟกานิสถานหรือแบกแดดที่อิรักไม่ได้คะแนน  ภายใต้ ๑๐ อันดับแรกเป็นเมืองของออสเตรเลีย ๓ เมือง  ผู้นำทั้งหมดอยู่ในประเทศมั่งคั่งที่มีความหนาแน่นของประชากรค่อนข้างน้อย  โดยเสนอกิจกรรมสันทนาการหลากหลาย ไม่มีทั้งอัตราอาชญากรรมที่สูงหรือโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับไม่ไหว  ผู้ทำการศึกษาระบุว่าเมืองขนาดมหึหา เช่น นิวยอร์ก ลอนดอน ปารีสและโตเกียวมีแนวโน้มเป็นเหยื่อของความสำเร็จของตนเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น