นักการเมืองเยอรมันและนักการเมืองยุโรปโต้คำขู่ของประเทศตุรกีที่จะยกเลิกสนธิสัญญาผู้ลี้ภัยกับสหภาพยุโรปหากจนถึงกลางเดือนตุลาคมไม่ยกเลิกหน้าที่ต้องขอวีซาสำหรับชาวตุรกีด้วยถ้อยคำกร้าว Frank-Walter
Steinmeier รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมันกล่าวว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะวางเส้นตายและข่มขู่ซึ่งกันและกัน
เงื่อนไขสำหรับการปลอดวีซาเป็นที่รู้กันทุกฝ่าย ตรงนี้ประเทศตุรกียังมีงานต้องทำ Thomas Strobl รองหัวหน้าพรรค
CDU และรัฐมนตรีมหาดไทยแคว้นบาเดน-วือร์ทเทมแบร์กก็เน้นว่าการแบล็คเมล์ไม่ใช่เครื่องมือทางการเมือง ก่อนหน้านี้ Mevlüt Cavusoglu รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีได้กล่าวว่าหากไม่มีการปล่อยเสรีด้านวีซา
ประเทศตุรกีก็ถูกบีบให้ต้องวางตัวห่างจากสนธิสัญญาส่งกลับและข้อตกลงจากวันที่ ๑๘
มีนาคมที่ผ่านมา หรืออาจจะเป็นช่วงต้นหรือกลางเดือนตุลาคม แต่ประเทศตุรกีคาดหวังวันที่ที่แน่นอน
โดยสนธิสัญญามีการตกลงรับผู้ลี้ภัยผิดกฏหมายจากประเทศกรีซคืนแลกกับการรับผู้ลี้ภัยซีเรียจากตุรกีและความช่วยเหลือ
๖๐๐๐ ล้านยูโรสำหรับตุรกี
หากมีการหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของผู้ลี้ภัยที่ Ägäis และ
EU เร่งการงดวีซา กระนั้น
ประเด็นนี้มีการผูกมัดกับการบรรลุเงื่อนไข ๗๒ ข้อที่บางข้อยังไม่แน่ชัด Alexander Graf
Lambsdorff รองประธานรัฐสภาสหภาพยุโรปกล่าวว่าประเทศตุรกีรู้แน่แก่ใจว่ายังไม่ได้ทำการบ้านของตน แทนการข่มขู่ อังการาควรวิเคราะห์ให้ดีขึ้นว่าเลือกทางไหนที่เป็นไปได้ มิฉะนั้นท้ายสุดจะเป็นผู้แพ้ทั้งสองฝ่าย ขณะนี้ความตึงเครียดกับประเทศเยอรมันเพิ่มขึ้น โดยตุรกีได้ประท้วงการที่ประธานาธิบดี Recep
Tayyip Erdogan ไม่ได้รับอนุญาตให้กล่าวคำปราศรัยกับผู้ถือหางในโคโลญน์ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ในการชุมนุมเมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคมที่ผ่านมา มีชาวตุรกีราว
๔๐,๐๐๐ คนแสดงออกถึงการสนับสนุน Erdogan
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น