วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ภัยสมาร์ทโฟนกับอุบัติเหตุ

การแพร่หลายของสมาร์ทโฟนในช่วงหลายรอบปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  Bitkom เชื่อว่าพลเมืองเยอรมัน ๖ จาก ๑๐ คนในวัย ๑๔ ปีขึ้นไปใช้สมาร์ทโฟนอย่างน้อยเป็นครั้งคราว  และมีการพูดถึงรุ่นวัย “ก้มหน้า” มาระยะหนึ่งแล้ว  ซึ่งส่งผลต่อการสัญจรบนท้องถนนด้วย
Petra Reetz โฆษกของสำนักงานกิจการคมนาคมแห่งกรุงเบอร์ลิน ระบุว่าคนขับ ๖,๕๐๐ คนอยู่ระหว่างทางบนรถใต้ดิน รถโดยสารประจำทาง และรถรางในเมืองหลวง  กล่าวว่า คนเดินถนนที่เผลอไผลเดินตัดหน้ารถหวุดหวิด  ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนขับ  ในปี ๑๙๗๙ วอร์คแมนเครื่องแรกออกวางตลาด  นับแต่นั้นคนเดินเท้าจำนวนมากเสียบหูฟังเพลงไปด้วยระหว่างเดินทาง  ขณะนี้ปัญหาที่เพิ่มขึ้นมา ได้แก่ ผู้ใช้สมาร์ทโฟนบางคนไม่มีสายตาสำหรับระมัดระวังการจราจรอีกต่อไป  แต่กลับเช็คอีเมลหรือเขียนตอบอีเมล ระหว่างเดินไปด้วย
ในฤดูร้อนปี ๒๐๑๓ อาสาสมัครของสโมสรรถยนต์ยุโรป (ACE) ได้วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ขับขี่ยานพาหนะราว ๓๐,๐๐๐ คน  คนเดินเท้า ๓๖,๐๐๐ คน และคนขี่จักรยานมากกว่า ๑๓,๐๐๐ คนที่ทางม้าลาย  พบว่าทุกคนทำผิดพลาด  รวมทั้งคนเดินถนน  ACE สรุปว่ามากกว่า ๑๓% ของผู้ใหญ่ที่ทางข้ามถนนม้าลายได้ปิดตัวเองจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง  และเดินบนถนนโดยไม่ดูซ้ายแลขวาและบ่อย ๆ มัววุ่นกับสมาร์ทโฟน
แม้ว่าในปัจจุบันสำนักงานตำรวจยังไม่มีสถิติว่าสมาร์ทโฟนมีบทบาทบ่อยเพียงใดในอุบัติเหตุ  แต่สำนักงานตำรวจแห่ง Stuttgart ตั้งข้อสันนิษฐานว่าทำให้อุบัติเหตุเพิ่มขึ้น  เนื่องจากการแพร่หลายของสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น
ศาสตราจารย์ Peter Biberthaler ผู้อำนวยการคลีนิคเพื่อการผ่าตัดอุบัติเหตุที่โรงพยาบาลที่ München เห็นด้วยกับการประเมิน  โดยตัวเขาเองก็ไม่มีตัวเลขสถิติ  แต่ตระหนักจากงานประจำถึงการเพิ่มขึ้นของอุบัติเหตุจากสมาร์ทโฟน
สำหรับผู้ขับรถยนต์จะถูกปรับ ๖๐ ยูโรและถูกหักคะแนน ๑ แต้มที่ศูนย์เก็บข้อมูลการจราจรที่เมือง Flensburg หากถูกจับได้ว่าใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ  ผู้ขี่จักรยานที่โทรศัพท์ต้องเสียค่าปรับ ๒๕ ยูโร  สำหรับคนเดินถนน ยังไม่มีการลงโทษดังกล่าว  กระนั้น  Sven Rademacher โฆษกของ Deutschen Verkehrssicherheitsrat (DVR) ได้บ่งชี้ถึงระเบียบการคมนาคมบนท้องถนน  ไม่อาจตัดผลทางกฎหมายหรือเทคนิคการประกันภัยออกไปได้  ตราบใดที่คนเดินเท้าได้รับการพิสูจน์ว่ามีส่วนผิด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น