การแพร่หลายของสมาร์ทโฟนในช่วงหลายรอบปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว Bitkom เชื่อว่าพลเมืองเยอรมัน ๖ จาก ๑๐ คนในวัย ๑๔ ปีขึ้นไปใช้สมาร์ทโฟนอย่างน้อยเป็นครั้งคราว และมีการพูดถึงรุ่นวัย “ก้มหน้า” มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งส่งผลต่อการสัญจรบนท้องถนนด้วย
Petra Reetz โฆษกของสำนักงานกิจการคมนาคมแห่งกรุงเบอร์ลิน ระบุว่าคนขับ ๖,๕๐๐ คนอยู่ระหว่างทางบนรถใต้ดิน รถโดยสารประจำทาง และรถรางในเมืองหลวง กล่าวว่า คนเดินถนนที่เผลอไผลเดินตัดหน้ารถหวุดหวิด ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนขับ ในปี ๑๙๗๙ วอร์คแมนเครื่องแรกออกวางตลาด นับแต่นั้นคนเดินเท้าจำนวนมากเสียบหูฟังเพลงไปด้วยระหว่างเดินทาง ขณะนี้ปัญหาที่เพิ่มขึ้นมา ได้แก่ ผู้ใช้สมาร์ทโฟนบางคนไม่มีสายตาสำหรับระมัดระวังการจราจรอีกต่อไป แต่กลับเช็คอีเมลหรือเขียนตอบอีเมล ระหว่างเดินไปด้วย
ในฤดูร้อนปี ๒๐๑๓ อาสาสมัครของสโมสรรถยนต์ยุโรป (ACE) ได้วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ขับขี่ยานพาหนะราว ๓๐,๐๐๐ คน คนเดินเท้า ๓๖,๐๐๐ คน และคนขี่จักรยานมากกว่า ๑๓,๐๐๐ คนที่ทางม้าลาย พบว่าทุกคนทำผิดพลาด รวมทั้งคนเดินถนน ACE สรุปว่ามากกว่า ๑๓% ของผู้ใหญ่ที่ทางข้ามถนนม้าลายได้ปิดตัวเองจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง และเดินบนถนนโดยไม่ดูซ้ายแลขวาและบ่อย ๆ มัววุ่นกับสมาร์ทโฟน
แม้ว่าในปัจจุบันสำนักงานตำรวจยังไม่มีสถิติว่าสมาร์ทโฟนมีบทบาทบ่อยเพียงใดในอุบัติเหตุ แต่สำนักงานตำรวจแห่ง Stuttgart ตั้งข้อสันนิษฐานว่าทำให้อุบัติเหตุเพิ่มขึ้น เนื่องจากการแพร่หลายของสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น
ศาสตราจารย์ Peter Biberthaler ผู้อำนวยการคลีนิคเพื่อการผ่าตัดอุบัติเหตุที่โรงพยาบาลที่ München เห็นด้วยกับการประเมิน โดยตัวเขาเองก็ไม่มีตัวเลขสถิติ แต่ตระหนักจากงานประจำถึงการเพิ่มขึ้นของอุบัติเหตุจากสมาร์ทโฟน
สำหรับผู้ขับรถยนต์จะถูกปรับ ๖๐ ยูโรและถูกหักคะแนน ๑ แต้มที่ศูนย์เก็บข้อมูลการจราจรที่เมือง Flensburg หากถูกจับได้ว่าใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ผู้ขี่จักรยานที่โทรศัพท์ต้องเสียค่าปรับ ๒๕ ยูโร สำหรับคนเดินถนน ยังไม่มีการลงโทษดังกล่าว กระนั้น Sven Rademacher โฆษกของ Deutschen Verkehrssicherheitsrat (DVR) ได้บ่งชี้ถึงระเบียบการคมนาคมบนท้องถนน ไม่อาจตัดผลทางกฎหมายหรือเทคนิคการประกันภัยออกไปได้ ตราบใดที่คนเดินเท้าได้รับการพิสูจน์ว่ามีส่วนผิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น