เอเอฟพี – นักวิทยาศาสตร์ค้นพบรอยเลื่อนใหม่พาดผ่านใจกลางกรุงเวลลิงตันของนิวซีแลนด์ ซึ่งอาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงถึง 7.1 ตามมาตราแมกนิจูด และเป็นการตอกย้ำว่าเมืองหลวงแดนกีวีเป็นหนึ่งในเมืองที่เสี่ยงอันตรายจากแผ่นดินไหวมากที่สุดในโลก
นักธรณีวิทยาจากสถาบันวิจัย NIWA รายงานว่า รอยเลื่อนอาโอเทีย (Aotea) ซึ่งมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่พื้นทะเลในอ่าวเวลลิงตันคาดว่าจะทอดยาวผ่าใจกลางเมืองไปจรดชานเมืองด้านทิศใต้
ฟิลิป บาร์เนส นักธรณีวิทยาทางทะเลประจำสถาบัน NIWA ระบุว่า มีหลักฐานยืนยันว่ารอยเลื่อนแห่งนี้เคยเป็นสาเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 6,200 ปีที่แล้ว และไม่มีทางทำนายได้ว่า การสั่นสะเทือนครั้งใหม่จะเกิดขึ้นอีกเมื่อใด
“เราเชื่อว่ารอยเลื่อนแห่งนี้น่าจะมีการเคลื่อนที่ทุกๆ หลายพันปี… แต่ไม่ทราบว่ามันจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ในอนาคต” เขาให้สัมภาษณ์
นายกรัฐมนตรี จอห์น คีย์ แห่งนิวซีแลนด์ ออกมาเตือนผู้ที่เรียกร้องให้ย้ายเมืองหลวงเพราะกลัวแผ่นดินไหวว่ากำลัง “เพ้อฝัน”เกินเหตุ
“มันไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรสักนิดเดียว ในเวลลิงตันยังมีรอยเลื่อยใหญ่ๆ อีกตั้งหลายจุด… รายงานชิ้นนี้เพียงแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยให้เราตรวจหารอยเลื่อนที่มีอยู่ได้อย่างละเอียดชัดเจนขึ้นเท่านั้น”
รุสส์ แวน ดิสเซน นักธรณีวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวจาก GeoNet ระบุว่า รอยเลื่อยใหม่ที่พบเป็นเพียงหนึ่งใน “หลายสิบรอย” ที่พาดผ่านทั่วเมืองหลวงนิวซีแลนด์ โดยรอยเลื่อนขนาดใหญ่ที่สุดนั้นอาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงถึง 8.5
อย่างไรก็ตาม ด้วยระเบียบการก่อสร้างอาคารที่กรุงเวลลิงตันบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน เขายืนยันว่าอาคารทุกแห่งจะสามารถต้านทานแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนใหม่ได้อย่างแน่นอน
“ผมคงพูดไม่ได้ว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.0 แมกนิจูดจะไม่ก่อความเสียหายเลย แน่นอนว่าต้องมีความเสียหายเกิดขึ้นบ้าง… แต่แรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากรอยเลื่อนนี้เราเชื่อว่าจะไม่ถึงขั้นสูงสุดที่กรุงเวลลิงตันถูกออกแบบมาให้รับได้”
แวน ดิสเซน เตือนด้วยว่า เวลลิงตันอาจยังมีรอยเลื่อนอื่นๆ ที่ตรวจไม่พบอีก
“ลองเปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ ของโลกดูบ้างไหม อิสตันบูลมีรอยเลื่อน นอร์ธ อนาโตเลียน ผ่ากลางเมืองพอดี โตเกียว ซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลิส ซีแอตเติล พวกนี้มีรอยเลื่อนที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวทั้งสิ้น” เขาอธิบาย
นิวซีแลนด์ซึ่งมีชื่อเรียกติดปากว่า Shaky Isles (หมู่เกาะสั่นสะเทือน) ตั้งอยู่บนรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น คือ แผ่นออสเตรเลียและแผ่นแปซิฟิก และยังเป็นส่วนหนึ่งของ “วงแหวนไฟ” ในมหาสมุทรแปซิฟิก
ประเทศหมู่เกาะแห่งนี้เผชิญเหตุแผ่นดินไหวสูงสุดถึง 15,000 ครั้งต่อปี โดยเมื่อปี 2011 แผ่นดินไหวขนาด 6.3 ที่เมืองไครสต์เชิร์ชบนเกาะใต้ได้คร่าชีวิตประชาชนไปถึง 185 คน ซึ่งถือเป็นภัยพิบัติครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์นิวซีแลนด์ยุคใหม่
นักธรณีวิทยาจากสถาบันวิจัย NIWA รายงานว่า รอยเลื่อนอาโอเทีย (Aotea) ซึ่งมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่พื้นทะเลในอ่าวเวลลิงตันคาดว่าจะทอดยาวผ่าใจกลางเมืองไปจรดชานเมืองด้านทิศใต้
ฟิลิป บาร์เนส นักธรณีวิทยาทางทะเลประจำสถาบัน NIWA ระบุว่า มีหลักฐานยืนยันว่ารอยเลื่อนแห่งนี้เคยเป็นสาเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 6,200 ปีที่แล้ว และไม่มีทางทำนายได้ว่า การสั่นสะเทือนครั้งใหม่จะเกิดขึ้นอีกเมื่อใด
“เราเชื่อว่ารอยเลื่อนแห่งนี้น่าจะมีการเคลื่อนที่ทุกๆ หลายพันปี… แต่ไม่ทราบว่ามันจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ในอนาคต” เขาให้สัมภาษณ์
นายกรัฐมนตรี จอห์น คีย์ แห่งนิวซีแลนด์ ออกมาเตือนผู้ที่เรียกร้องให้ย้ายเมืองหลวงเพราะกลัวแผ่นดินไหวว่ากำลัง “เพ้อฝัน”เกินเหตุ
“มันไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรสักนิดเดียว ในเวลลิงตันยังมีรอยเลื่อยใหญ่ๆ อีกตั้งหลายจุด… รายงานชิ้นนี้เพียงแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยให้เราตรวจหารอยเลื่อนที่มีอยู่ได้อย่างละเอียดชัดเจนขึ้นเท่านั้น”
รุสส์ แวน ดิสเซน นักธรณีวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวจาก GeoNet ระบุว่า รอยเลื่อยใหม่ที่พบเป็นเพียงหนึ่งใน “หลายสิบรอย” ที่พาดผ่านทั่วเมืองหลวงนิวซีแลนด์ โดยรอยเลื่อนขนาดใหญ่ที่สุดนั้นอาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงถึง 8.5
อย่างไรก็ตาม ด้วยระเบียบการก่อสร้างอาคารที่กรุงเวลลิงตันบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน เขายืนยันว่าอาคารทุกแห่งจะสามารถต้านทานแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนใหม่ได้อย่างแน่นอน
“ผมคงพูดไม่ได้ว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.0 แมกนิจูดจะไม่ก่อความเสียหายเลย แน่นอนว่าต้องมีความเสียหายเกิดขึ้นบ้าง… แต่แรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากรอยเลื่อนนี้เราเชื่อว่าจะไม่ถึงขั้นสูงสุดที่กรุงเวลลิงตันถูกออกแบบมาให้รับได้”
แวน ดิสเซน เตือนด้วยว่า เวลลิงตันอาจยังมีรอยเลื่อนอื่นๆ ที่ตรวจไม่พบอีก
“ลองเปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ ของโลกดูบ้างไหม อิสตันบูลมีรอยเลื่อน นอร์ธ อนาโตเลียน ผ่ากลางเมืองพอดี โตเกียว ซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลิส ซีแอตเติล พวกนี้มีรอยเลื่อนที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวทั้งสิ้น” เขาอธิบาย
นิวซีแลนด์ซึ่งมีชื่อเรียกติดปากว่า Shaky Isles (หมู่เกาะสั่นสะเทือน) ตั้งอยู่บนรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น คือ แผ่นออสเตรเลียและแผ่นแปซิฟิก และยังเป็นส่วนหนึ่งของ “วงแหวนไฟ” ในมหาสมุทรแปซิฟิก
ประเทศหมู่เกาะแห่งนี้เผชิญเหตุแผ่นดินไหวสูงสุดถึง 15,000 ครั้งต่อปี โดยเมื่อปี 2011 แผ่นดินไหวขนาด 6.3 ที่เมืองไครสต์เชิร์ชบนเกาะใต้ได้คร่าชีวิตประชาชนไปถึง 185 คน ซึ่งถือเป็นภัยพิบัติครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์นิวซีแลนด์ยุคใหม่
ผู้จัดการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น