ชาวเยอรมันกลืนยาปฏิชีวนะบ่อยเกินไป ทำให้ยาต่อต้านแบคทีเรียที่สำคัญลดพลังการให้ผลน้อยลง ในปี ๒๐๑๓ เกือบ ๓๐% ของการเขียนใบสั่งยาปฏิชีวนะน่าสงสัย ทั้งนี้ เป็นผลการศึกษาของบริษัทประกันสุขภาพ DAK-Gesundheit ที่ได้รับการเสนอเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคมที่ผ่านมาที่เบอร์ลิน ผลคือแบคทีเรียมากขึ้นทุกทีพัฒนาการดื้อยาและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนไข้มากขึ้นทุกที โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โรงพยาบาล Herbert Rebscher ประธาน DAK-Gesundheit เรียกร้องแพทย์และคนไข้ให้จัดการกับยาปฏิชีวนะอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น ๔๐% ของผู้ถูกสอบถามได้รับข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับการใช้สารให้ได้ผลดี เช่น เรียกร้องให้ให้ยาปฏิชีวนะหากเป็นหวัดหรือ Bronchitis ซึ่งไม่ช่วยอะไร เพราะว่า ๙๐% ของทั้งหมดเป็นการเจ็บป่วยจากเชื้อไวรัส
จากการศึกษาการดูแลมากเกินไปและผิด ๆ จะชัดเจนเป็นพิเศษระหว่างช่วงเวลาของโรคหวัด ความคาดหวังที่เป็นปัญหาของคนไข้ส่งอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเขียนใบสั่งของแพทย์ แม้ว่าแพทย์โดยทั่วไปรู้เกี่ยวกับพื้นที่ปฏิบัติการของสารต่อต้านแบคทีเรีย แต่เพื่อสงบจิตใจคนไข้โรคหวัดก็ยังเขียนใบสั่งยาปฏิชีวนะ แม้ว่าอัตราการเขียนใบสั่งในเด็กลดลง
กระนั้น รายงานยาปฏิชีวนะฉบับแรกของ DAK ก็ยังแสดงว่าคนไข้เด็กที่ทำประกันยังได้รับใบสั่งยาปฏิชีวนะมากกว่าผู้ใหญ่ ผลที่ตามมาที่น่าวิตกของการใช้ยาปฏิชีวนะบ่อยเห็นได้ชัดในโรงพยาบาล ที่ซึ่งแบคทีเรียที่ดื้อยาเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนไข้ การวิเคราะห์แสดงว่ามีการพบเชื้อโรคในโรงพยาบาลในตัวคนไข้มากขึ้นทุกที จากผู้ทำประกัน ๑ ล้านคนที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลในปีที่ผ่านมา ๒๐,๐๐๐ คน มีเชื้อโรคที่ดื้อยาในตัว ในปี ๒๐๑๐ ยังเป็นราว ๑๕,๐๐๐ คน ทั่วประเทศและจากทุกบริษัทประกันสุขภาพ คนไข้ ๗,๕๐๐-๑๕,๐๐๐ คนเสียชีวิตในแต่ละปีจากการติดเชื้อที่เกิดระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น