จั่วหัวเรื่องแบบนี้ผู้อ่านอาจจะงงว่ามันประหยัดอะไรของมันตอนนอนหว่า? ประหยัดไฟหรืออย่างไร ใจเย็น ๆ อ่านไปก่อนก็จะได้คำตอบเอง
ว่าแต่ว่าผู้อ่าน “ชาวไทย” ชอบเดินทางท่องเที่ยวกันไหม ตัวผู้เขียนเองชอบการเดินทางมาก ยิ่งได้ผจญภัยหน่อย ๆ ยิ่งดี สมัยที่เด็ก ๆ ยังเล็ก ๆ กันอยู่นั้น เวลาไปเที่ยวกันทีมักอาศัยบริการแบบเหมารวม (Pauschalreise) ที่รวมค่าเดินทาง ที่พักและอาหาร แต่พอเด็ก ๆ เริ่มโตขึ้นก็เริ่มขยับขยายไปใช้บริการบ้านพักเยาวชน (Jugendherberg) แคมปิงหรือบ้านพักตากอากาศ (Ferienhaus) แต่หลังการเติบโตของสายการบินราคาประหยัด (Low Cost Airline) การวางแผนการเดินทางเองโดยไม่ต้องอาศัยตัวแทนท่องเที่ยวทำได้ง่ายขึ้นมาก ยิ่งตั้งแต่ปี ๒๐๑๓ ที่รถโดยสารทางไกลได้รับอนุญาตให้วิ่งรับส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองต่างๆ การเดินทางก็ยิ่งมีตัวเลือกมากขึ้น หมดปัญหาเรื่องยานพาหนะ ทีนี้ก็เหลือเรื่องที่พัก ซึ่งในระยะหลายปีที่ผ่านมานี้ผู้เขียนมักเน้นห้องแบ่งเช่าของเอกชน (Private Zimmer) เป็นหลัก เนื่องจากชอบความรู้สึกที่เหมือนได้อยู่บ้าน ได้รู้จักผู้คนใหม่ ๆ ซึ่งโรงแรมไม่มีให้และยังได้ประหยัดมากกว่าด้วย
ห้องลักษณะนี้มักอยู่ในบ้านของครอบครัวที่ลูก ๆ เติบโตแยกย้ายกันไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว จึงมีห้องเหลือหรือคู่สมรสที่ยังไม่มีลูกหรือนักศึกษาที่กลับไปอยู่บ้านหรือไปเที่ยวที่อื่นช่วงปิดเทอม จึงเอาห้องให้เช่าแทนการทิ้งว่างไว้ เป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วย ตั้งแต่พักมาหลายที่หลายเมืองผู้เขียนมีแต่ประสบการณ์ที่ดี เจ้าของบ้านอัธยาศัยดี เป็นมิตร พร้อมให้ความช่วยเหลือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหรือบอกเล่าเรื่องราวของเมือง ผู้เขียนจึงมักแนะนำเพื่อน ๆ หรือคนรู้จักให้ใช้บริการนี้ แต่กลับไม่ค่อยได้รับความสนใจ ส่วนหนึ่งเข้าใจว่าไม่ไว้ใจในเรื่องความสะดวกสบาย การไม่รู้จะเสาะหาที่พักแบบนี้ได้อย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้วในยุคข้อมูลข่าวสารอย่างทุกวันนี้เป็นเรื่องสะดวกง่ายดายมาก เพิ่งอ่านเจอในนิตยสารของ “ADAC” ฉบับประจำเดือนกันยายน ๒๐๑๔ ว่าห้องพักเอกชนแบบนี้กำลังอยู่ในแนวโน้ม (โอหะ เรามีพวกแล้ว เยๆๆ) จากการสอบถามของ “Bitkom” ชาวเยอรมันราว ๓ ล้านคนได้ใช้บริการนี้หรือเท่ากับ ๕% ของพลเมืองผู้ใหญ่ อีก ๒๗% สามารถนึกภาพออกว่าในอนาคตจะเช่าที่อยู่แบบโฮมสเตย์
ตามข้อมูลของ ADAC การประหยัดในเมืองใหญ่ ๆ มหาศาลมาก ตามการศึกษาของ HRS ผู้ที่หาที่พักค้างคืนในโรงแรมที่ซูริค ซึ่งราคาค่าที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวสูงที่สุดในยุโรป จ่ายเฉลี่ย ๑๔๔.๔๓ ยูโรต่อคืน ผู้ที่จองที่พักตามบ้านหรือที่เรียกว่า “โฮมสเตย์” จะหาห้องได้ในราคา ๓๕-๕๐ ยูโรหรือประหยัดไปได้ถึง ๗๕% มันยังเป็นทางเลือกที่ประหยัดระหว่างมีงานเทศกาลได้อีกด้วย เช่น ระหว่างงานแสดงสินค้าหรือออคโตเบอร์เฟสต์ที่มืนเช่น สำหรับช่วงเวลานี้โรงแรมในเมืองส่วนใหญ่จะถูกจองล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ ผู้ที่สามารถหาที่พักว่างได้ก็ต้องจ่ายราคาเพิ่มสูงอย่างน่ากลัว ตัวอย่างเช่น ห้องคู่ที่โรงแรม Ibis City ที่มืนเช่นระหว่างเทศกาลออคโตเบอร์เฟสต์ ๒ คืนมีราคา ๒๗๙ ยูโร เพียง ๔ สัปดาห์ภายหลังสามารถพักได้ในราคา ๘๐ ยูโร
จนถึงปัจจุบันในการหาที่พักผู้เขียนมักใช้บริการของ Airbnb, Wimdu และ 9flats (นี่โฆษณาให้โดยไม่คิดสตางค์เชียวนะ) ตามข้อมูลของ Airbnb ที่เป็นผู้นำตลาดจะมีบริการที่พักใน ๑๙๐ ประเทศและมากกว่า ๓๔,๐๐๐ เมืองในทุกระดับราคา นับตั้งแต่ก่อตั้งในเดือนสิงหาคม ๒๐๐๘ มีนักเดินทางที่เป็นลูกค้ากว่า ๒๐ ล้านคนทั่วโลกเดินทางด้วยบริการของ Airbnb ไม่เพียงแต่ราคาเท่านั้นที่มัดใจแขก หากแต่ความหลากหลายด้วย ตั้งแต่โซฟาที่ดึงออกมาเป็นเตียง ห้องพักแขกที่มีห้องน้ำ-ส้วมของตัวเอง ไปจนถึงอพาร์ตเมนท์ทั้งหลัง ไม่มีอะไรที่หาไม่ได้ ผู้ที่ต้องการลองของแปลก ๆ ก็สามารถพักในปราสาท กังหันลม เรือยอทช์หรือในรถของละครสัตว์ ส่วน Wimdu จากเบอร์ลินที่ให้บริการที่พักในกว่า ๑๕๐ ประเทศ นับแต่การก่อตั้งในปี ๒๐๑๑ มีการให้บริการที่ประสบความสำเร็จกว่า ๑ ล้านครั้ง 9flats ที่เริ่มต้นให้บริการในปี ๒๐๑๑ ที่เบอร์ลินเช่นเดียวกันมีที่พักใน ๘๐,๐๐๐ เมืองใน ๗๘ ประเทศ อีกเจ้าคือ Fewo-direkt รายนี้ผู้เขียนไม่รู้จัก แต่ตามข้อมูลของ ADAC ก่อตั้งในปี ๑๙๙๗ ในฐานะตลาดสำหรับบ้านพักตากอากาศหรือ อพาร์ตเมนท์ตากอากาศใน ๑๙๐ ประเทศและบริการที่พักตามบ้านด้วย
การหาที่พักก็ทำได้ง่าย ๆ โดยเข้าไปในเว็บไซท์ของผู้ให้บริการที่ว่าแล้วระบุความปรารถนา ได้แก่ เมืองที่จะไปพัก ลักษณะที่พักที่ต้องการ ระยะเวลาการค้างคืน จำนวนผู้พักและเกณฑ์ราคา เช่น ต้องการห้องพักที่เบอร์ลิน (อาจระบุย่านที่ต้องการพักด้วยก็ได้) ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๓ ตุลาคม (๓ คืน) สำหรับผู้ใหญ่ ๒ คน ราคาคืนละไม่เกิน ๓๕-๔๐ ยูโร ก็จะมีภาพที่พักและรายละเอียดเกี่ยวกับที่พัก เช่น ความใกล้ไกลจากกลางเมืองหรือย่านเมืองเก่า อนุญาตให้ใช้ครัวหรือไม่ รวมอาหารเช้าหรือไม่ อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงไปด้วยหรือไม่ ฯลฯ สามารถดูรูปเจ้าของที่พักและข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการทำความรู้จักล่วงหน้า หากใช้บริการของ Wimdu แขกจ่ายค่าธรรมเนียม ๑๕-๒๐% ของราคาที่พักต่อการจอง ของ Airbnb ๓% หลังการพักทั้งแขกและเจ้าของที่พักสามารถให้คำวิจารณ์ที่ผู้ใช้ทุกคนสามารถอ่านได้ ด้วยวิธีนี้และการติดต่อผ่านอีเมลทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถประเมินได้ว่าจะเข้ากันได้หรือไม่และหลีกเลี่ยงความไม่พอใจและผิดหวัง
ถ้าอ่านกันมาถึงตรงนี้คงถึงบางอ้อแล้วว่าที่ว่าประหยัดตอนนอนนั้นเป็นอย่างไร จุดหมายการท่องเที่ยวครั้งต่อไปของผู้เขียน คือ บ้านเพื่อนที่ภาคใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งระยะทางจากบ้านไปก็ไกลโขเป็นพันกิโลเมตร จึงต้องมีการแวะค้างกลางทาง ผู้เขียนกำลังคิดอยากหาที่พักที่ต่างจากเคย เช่น ปราสาทเก่า แต่ว่าที่ฝรั่งเศสมีผอสระอีหรือเปล่า ใครรู้บ้าง? 555
เรียบเรียงโดย “เอื้อยอ้าย”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น