วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บริโภคกะเพรา ขับไล่โรคภัย

ในข้อมูลอย่างเป็นทางการนั้นอาหารประจำชาติของไทย คือต้มยำกุ้ง แต่เชื่อว่าสำหรับชาวไทยเองแล้วหากให้กล่าวถึงอาหารที่รับประทานเป็นประจำแทบทุกวันย่อมต้องเป็นผัดกะเพรา
ด้วยความสะดวกรวดเร็วในการปรุงและความหลากหลายทั้งกะเพราหมู ไก่ เนื้อหรือทะเล ทำให้เมื่อนึกเมนูอื่นไม่ออกก็ต้องสั่งผัดกะเพราไว้ก่อน
“ใบกะเพรา” ที่เป็นส่วนประกอบหลักของผัดกะเพราเองเป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์กับร่างกายหลายประการ

กะเพรา (ชื่อวิทยาศาสตร์Ocimum sanctum) เป็นไม้ล้มลุก แตกกิ่งก้านสาขา สูง 30-60 ซม. นิยมนำใบมาประกอบอาหารคือ ผัดกะเพรา กะเพรามี 3 พันธุ์ คือ กะเพราแดง กะเพราขาว และ กะเพราลูกผสมระหว่างกะเพราแดงและกะเพราขาว
ในแต่ละภาคของไทยมีการเรียกกะเพราด้วยชื่อที่แตกต่างกันออกไป เช่น ภาคกลางจะเรียกว่ากะเพราแดง กะเพราขาว ส่วนเชียงใหม่และภาคเหนือจะเรียกว่าก่ำก้อขาว ก่ำก้อดำ กอมก้อขาวกอมก้อดำ ในขณะที่ภาษากะเหรี่ยงและบริเวณแม่ฮ่องสอนจะเรียกว่า ห่อตูปลู ห่อกวอซู
ส่วนที่มีสรรพคุณทางการแพทย์ของกะเพราประกอบด้วย ใบ เมล็ด และราก ซึ่งมีสรรพคุณและการเตรียมการที่แตกต่างกัน
ใบ ใบสดของกะเพรา มีน้ำมันหอมระเหยอยู่ ซึ่งประกอบด้วยl inalool และ methyl chavicol มีสรรพคุณบำรุงธาตุไฟ เป็นยาบรรเทาและช่วยขับลม ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้องบำรุงธาตุ ขับผายลม บรรเทาอาการจุกเสียดในท้อง
ใช้ใบสดหรือยอดอ่อนสด 1 กำมือ มาต้มให้เดือดแล้วกรองน้ำดื่มแต่ถ้าใช้กับเด็กทารกให้เอามาตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำมาผสมกับน้ำยามหาหิงคุ์แล้วใช้ทาบริเวณรอบๆสะดือและฝ่าเท้า สามารถบรรเทาอาการปวดท้องของเด็กได้ น้ำที่คั้นออกจากใบยังใช้ขับเสมหะ ขับเหงื่อหรือใช้ทาภายนอกช่วยแก้โรคผิวหนังกลากเกลื้อนได้
นอกจากนี้ ใบสดยังนำมาผัดหรือนำมาแกงเป็นอาหารตามที่เราคุณเคยกันดี สำหรับใบแห้งใช้ชงกินกับน้ำ แก้ท้องขึ้นท้องเฟ้อและน้ำมันที่ได้จากใบกะเพรานั้นสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิด ช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด และมีฤทธิ์ฆ่ายุงได้ โดยจะมีฤทธิ์อยู่ได้นาน 2 ชั่วโมง
เมล็ด เมล็ดกะเพราเมื่อนำไปแช่น้ำเมล็ดจะพองตัวเป็นเมือกขาวเมือกนี้สามารถใช้พอกบริเวณตาเมื่อตามีผง หรือฝุ่นละอองเข้าผงหรือฝุ่นก็จะออกมา ซึ่งจะไม่ทำให้ตาช้ำอีกด้วย
ราก ใช้รากกะเพราที่แห้งดีแล้วนำมาชงหรือต้มกับน้ำร้อนเพื่อดื่มซึ่งสามารถใช้บรรเทาโรคธาตุพิการหรืออาหารไม่ย่อยได้
น้ำ สกัดทั้งต้นมีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ สามารถช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ในใบมีฤทธิ์ขับน้ำดีช่วยย่อยไขมันและลดอาการจุกเสียด
อาจกล่าวได้ว่าในบรรดาสมุนไพรทุกชนิดที่มีในประเทศไทยกะเพราดูจะเป็นสมุนไพรที่คนไทยบริโภคมากที่สุดทั้งยังชื่นชอบมากเสียด้วย
File:Ocimum tenuiflorum2.jpg
ภาพจาก  http://commons.wikimedia.org/wiki/File:Ocimum_tenuiflorum2.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น