รอยเตอร์ – ญี่ปุ่นวันนี้ (10 ต.ค.) กำลังเตรียมรับมือกับพายุที่มีกำลังแรงที่สุดในปีนี้ ในยามที่ “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ลูกนี้กำลังเคลื่อนตัวขึ้นเหนือมุ่งหน้าไปทางเกาะโอกินาวา และส่งผลให้แดนอาทิตย์อุทัยต้องเผชิญลมแรง และพายุฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่
พายุ “หว่องฟ้ง” ซึ่งมีกำลังแรงสูสีกับซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ไห่เยี่ยน” ที่ทำลายบ้านเรือนของประชาชนฟิลิปปินส์พังพินาศย่อยยับไปเมื่อปีที่แล้ว ได้อ่อนกำลังลงเล็กน้อย ขณะเคลื่อนตัวผ่านมหาสมุทรเปิดขึ้นเหนือ แต่ก็ยังมีความเร็วลมหมุนสูงถึง 259 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น (เจเอ็มแอล) ระบุว่า “ไต้ฝุ่นลูกนี้จะมีขนาดใหญ่ และมีกำลังแรงมากอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้จะอ่อนกำลังลงไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็จะเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่ในปีนี้อย่างแน่นอน”
เจเอ็มแอล รายงานว่า หว่องฟ้ง ซึ่งจะเป็นไต้ฝุ่นที่เคลื่อนตัวเข้าญี่ปุ่นเป็นลูกที่ 2 ในสัปดาห์นี้ กำลังอยู่ทางตอนใต้ของเกาะโอกินาวา และเคลื่อนตัวไปทางเหนือด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (10) มีกำลังลมใกล้ศูนย์กลาง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มีแนวโน้มว่า พายุไต้ฝุ่นลูกนี้จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะโอกินาวามากที่สุดในช่วงดึกคืนวันเสาร์ (11) หรือเช้าวันอาทิตย์ (12)
เป็นที่คาดการณ์กันว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้จะอ่อนกำลังลงขณะเคลื่อนตัวไปทางเหนือ และมีแนวโน้มจะขึ้นฝั่งที่เกาะคิวชู ซึ่งตั้งอยู่สุดปลายตะวันตกของญี่ปุ่นในวันอาทิตย์ (13) ก่อนจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ บ่ายหน้าเข้าเกาะฮอนชู และคาดหมายว่าจะส่งผลให้มีฝนตกหนักในกรุงโตเกียว
สำนักพยากรณ์ความเสี่ยงพายุโซนร้อน ซึ่งคอยตามรอยไต้ฝุ่น ได้จัดให้หว่องฟ้งเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 4 ซึ่งจะอ่อนกำลังลงสู่ระดับ 3 ในวันเสาร์ (11) และระดับ 1 ก่อนเคลื่อนตัวเข้าสู่คิวชู
ทั้งนี้ แม้ว่าจะไม่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตั้งอยู่บนเกาะโอกินาวา แต่ที่คิวชูมี 2 แห่ง และบนเกาะชิโกะกุซึ่งอยู่ติดกับคิวชู อีก 1 แห่ง ซึ่งโรงไฟฟ้าที่อาจได้รับผลกระทบจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นทั้ง 3 แห่งได้ระงับการดำเนินการตามนโยบายของประเทศ
หว่องฟ้งกำลังเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางเดียวกับไต้ฝุ่น “ฟานฝน” ที่พัดถล่มแผ่นดินญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ (6) จนส่งผลกระทบต่อการคมนาคมขนส่ง และจุดประกายให้ทางการประกาศอพยพประชาชนหลายแสนคน ทั้งยังทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน โดยในจำนวนนี้มี 3 คนทหารอากาศชาวอเมริกัน ที่ถูกคลื่นพัดกวาดลงทะเล และชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตระหว่างกำลังเล่นเซิร์ฟ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของเจเอ็มแอลระบว่า การที่มีพายุไต้ฝุ่นกำลังแรงถล่มญี่ปุ่น 2 ลูกติดเช่นนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ แต่ในภาพรวมแล้วพายุเหล่านี้ไม่ได้มีจำนวนเพิ่มขึ้น
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น (เจเอ็มแอล) ระบุว่า “ไต้ฝุ่นลูกนี้จะมีขนาดใหญ่ และมีกำลังแรงมากอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้จะอ่อนกำลังลงไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็จะเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่ในปีนี้อย่างแน่นอน”
เจเอ็มแอล รายงานว่า หว่องฟ้ง ซึ่งจะเป็นไต้ฝุ่นที่เคลื่อนตัวเข้าญี่ปุ่นเป็นลูกที่ 2 ในสัปดาห์นี้ กำลังอยู่ทางตอนใต้ของเกาะโอกินาวา และเคลื่อนตัวไปทางเหนือด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (10) มีกำลังลมใกล้ศูนย์กลาง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มีแนวโน้มว่า พายุไต้ฝุ่นลูกนี้จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะโอกินาวามากที่สุดในช่วงดึกคืนวันเสาร์ (11) หรือเช้าวันอาทิตย์ (12)
เป็นที่คาดการณ์กันว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้จะอ่อนกำลังลงขณะเคลื่อนตัวไปทางเหนือ และมีแนวโน้มจะขึ้นฝั่งที่เกาะคิวชู ซึ่งตั้งอยู่สุดปลายตะวันตกของญี่ปุ่นในวันอาทิตย์ (13) ก่อนจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ บ่ายหน้าเข้าเกาะฮอนชู และคาดหมายว่าจะส่งผลให้มีฝนตกหนักในกรุงโตเกียว
สำนักพยากรณ์ความเสี่ยงพายุโซนร้อน ซึ่งคอยตามรอยไต้ฝุ่น ได้จัดให้หว่องฟ้งเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 4 ซึ่งจะอ่อนกำลังลงสู่ระดับ 3 ในวันเสาร์ (11) และระดับ 1 ก่อนเคลื่อนตัวเข้าสู่คิวชู
ทั้งนี้ แม้ว่าจะไม่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตั้งอยู่บนเกาะโอกินาวา แต่ที่คิวชูมี 2 แห่ง และบนเกาะชิโกะกุซึ่งอยู่ติดกับคิวชู อีก 1 แห่ง ซึ่งโรงไฟฟ้าที่อาจได้รับผลกระทบจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นทั้ง 3 แห่งได้ระงับการดำเนินการตามนโยบายของประเทศ
หว่องฟ้งกำลังเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางเดียวกับไต้ฝุ่น “ฟานฝน” ที่พัดถล่มแผ่นดินญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ (6) จนส่งผลกระทบต่อการคมนาคมขนส่ง และจุดประกายให้ทางการประกาศอพยพประชาชนหลายแสนคน ทั้งยังทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน โดยในจำนวนนี้มี 3 คนทหารอากาศชาวอเมริกัน ที่ถูกคลื่นพัดกวาดลงทะเล และชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตระหว่างกำลังเล่นเซิร์ฟ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของเจเอ็มแอลระบว่า การที่มีพายุไต้ฝุ่นกำลังแรงถล่มญี่ปุ่น 2 ลูกติดเช่นนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ แต่ในภาพรวมแล้วพายุเหล่านี้ไม่ได้มีจำนวนเพิ่มขึ้น
ผู้จัดการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น