วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ผู้นำฮ่องกงยัน ‘ปักกิ่ง’ ไม่เปลี่ยนจุดยืน

      เอเจนซีส์ – ผู้ว่าการฮ่องกงออกมาแถลงย้ำอีกครั้งในวันนี้ (12 ต.ค.) ว่าไม่ลาออกจากตำแหน่ง ย้ำปักกิ่งไม่เปลี่ยนจุดยืนเรื่องวิธีการเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ในปี 2017 ชี้ขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยกำลังควบคุมการประท้วงไม่อยู่ และการปล่อยให้มีการกีดขวางพื้นที่สาธารณะต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ก็เป็นสิ่งซึ่งไม่อาจกระทำได้ ส่วนทางหนังสือพิมพ์ที่เป็นกระบอกเสียงของจีน ได้วิจารณ์อ็อกคิวพาย เซนทรัลว่าเป็น “ความวุ่นวาย” บ่งชี้ผู้นำในปักกิ่งเริ่มไม่พอใจมากขึ้น 
       
        เหลียง ชุนอิง ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ให้สัมภาษณ์สถานีทีวีท้องถิ่น ทีวีบี เมื่อวันอาทิตย์ (12) โดยกล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามเจรจากับแกนนำนักศึกษาต่อไป แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้ปิดความเป็นไปได้ในการ ”ใช้กำลังขั้นต่ำสุด” เพื่อขอคืนพื้นที่สาธารณะ
       
        “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า การเคลื่อนไหวของมวลชนเป็นสิ่งที่เริ่มง่ายแต่หยุดยาก นอกจากนี้ ยังไม่มีใครสามารถควบคุมทิศทางและทำให้การเคลื่อนไหวนี้เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ขณะนี้ การเคลื่อนไหวนี้อยู่ในภาวะที่ควบคุมไม่ได้แล้ว” เหลียงกล่าว
       
        ผู้นำฮ่องกงยังเตือนว่า มีโอกาส “เป็นศูนย์” ที่ผู้นำจีนจะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจในเดือนสิงหาคม เกี่ยวกับวิธีการเลือกตั้งผู้ว่าการเกาะฮ่องกง
       
        อดีตอาณานิคมของอังกฤษแห่งนี้ได้รับคำมั่นว่า จะได้รับสิทธิเสรีภาพโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้สูตร “หนึ่งประเทศ/สองระบบ” ตอนที่คืนกลับสู่อ้อมอกจีนเมื่อ 17 ปีที่แล้ว
       
        ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รัฐสภาจีนประกาศว่า การเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงครั้งต่อไปในปี 2017 จะเปลี่ยนจากที่เคยให้คณะผู้แทนจำนวนหนึ่งเป็นผู้เลือก มาเป็นวิธีให้ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงของฮ่องกงได้เลือกตั้งลงคะแนนกันโดยตรง อย่างไรก็ตาม จะมีคณะกรรมการชุดหนึ่งทำหน้าที่กลั่นกรองว่าผู้สมัครคนใดมีสิทธิที่จะลงเลือกตั้งได้ เรื่องนี้ทำให้ขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงไม่พอใจ อ้างว่าปักกิ่งทรยศหักหลัง โดยต้องการให้การลงสมัครเป็นไปอย่างเปิดกว้าง รวมทั้งยังเรียกร้องให้ เหลียง ลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่ได้ปกป้องสิทธิของชาวฮ่องกง
       
        วันเสาร์ที่ผ่านมา (11) หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้า ที่เป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เผยแพร่บทบรรณาธิการบนหน้าแรก โดยเรียกขานขบวนการ อ็อกคิวพาย เซนทรัล ว่าเป็น “ความวุ่นวาย” ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า สะท้อนความไม่พอใจมากขึ้นในหมู่ผู้นำจีน
        ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้มีขึ้นขณะที่ผู้ประท้วงไปรวมกันหน้าศูนย์ราชการในย่านแอดมิราลตี้ โดยมีการตั้งเต็นท์ราว 200 หลังบนถนนกลอสเตอร์และฮาร์คอร์ต ซึ่งเป็นหนึ่งในถนนที่มีการจราจรคับคั่งที่สุดของฮ่องกงและเป็นเส้นทางสู่ย่านการเงินเซนทรัล ในบรรยากาศคล้ายเทศกาลตั้งแคมป์กลางป่าคอนกรีต
       
        ผู้ประท้วงหลายร้อยคนซึ่งมีทั้งหนุ่มสาวและผู้สูงวัยค้างคืนกลางถนนเมื่อคืนวันเสาร์ ที่ผู้ประท้วงบางคนบอกว่า เป็นค่ำคืนที่สงบและผ่อนคลายที่สุด บางคนเล่นกีตาร์ระหว่างที่มีการปราศรัย บางคนเล่นไพ่หรืออ่านหนังสือ บางคนหาความรู้ในห้องเรียนชั่วคราวที่มีโต๊ะและเต้ารับไฟฟ้าติดตั้งพร้อมสรรพบนทางหลวง
       
        กำแพงและสะพานลอยถูกแต่งแต้มด้วยกระดาษและป้ายที่บางอันมีข้อความประณามผู้ว่าเหลียง เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟีย และเตือนไต้หวันไม่ให้ยอมรับสูตรหนึ่งประเทศ/สองระบบในการเจรจาปรองดองกับจีนที่อาจเกิดขึ้น
       
        ทั้งนี้ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวฮ่องกงหลายหมื่นคนออกจากบ้านมาชุมนุมประท้วง หลังจากตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและกระบองปราบปรามผู้ชุมนุม และถนนสำคัญในย่านเซนทรัล แอดมิราลตี้ คอสเวย์เบย์ และมงก๊อก ทางฝั่งเกาลูนถูกปิด 
       จำนวนผู้ชุมนุมลดฮวบลงเหลือไม่กี่ร้อยคนและกระทั่งไม่กี่สิบคนในบางช่วงเวลาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนจะกลับกระเตื้องขึ้นในคืนวันศุกร์ (10) โดยประชาชนราว 10,000 คนมารวมตัวกันเพื่อฟังแกนนำปราศรัยเรียกร้องให้ประชาชนเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ยาวนาน
       
        แม้บรรยากาศการชุมนุมในแอดมิราลตี้ค่อนข้างผ่อนคลาย ทว่า สถานการณ์บนถนนหลายสายในมงก๊อกยังคงตึงเครียด โดยมีรายงานว่า มีการปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมเมื่อคืนวันเสาร์
       
        ตอนช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว ฝ่ายนักศึกษาและฝ่ายบริหารของฮ่องกง นำโดย แคร์รี่ ลัม ปลัดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งเป็นข้าราชการประจำที่มีตำแหน่งสูงที่สุดของฮ่องกง ได้ตกลงกันในระหว่างการหารือเตรียมการว่า จะจัดการประชุมเจรจาอย่างเป็นทางการกันในวันศุกร์(10) อย่างไรก็ตาม ในวันพฤหัสบดี (9) ลัม ได้ประกาศเลื่อนการเจรจาออกไป ภายหลังที่พวกแกนนำนักศึกษาและผู้นำการประท้วงอื่นๆ เรียกร้องผู้สนับสนุนพวกเขาให้ออกมาชุมนุมกันมากๆ เพื่อสร้างแรงกดดันในเวลาที่จะมีการเจรจากัน
       
        ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ เหลียงกล่าวว่า รัฐบาลต้องพิจารณาข้อเรียกร้องของนักศึกษา แต่ย้ำว่า ทั้งข้อเรียกร้องและการดำเนินการของนักศึกษาต้องถูกต้องตามกฎหมาย
       
        เหลียงเสริมว่า จะพยายามโน้มน้าวและเจรจากับนักศึกษาต่อไป รวมทั้งพยายามไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุม
       
        “หากจำเป็นต้องขอคืนพื้นที่ ผมเชื่อว่า ตำรวจจะดำเนินการตามที่ได้รับการฝึกฝนมาและใช้กำลังน้อยที่สุด เราไม่อยากเห็นประชาชนและนักศึกษาได้รับบาดเจ็บ”
       
        นอกจากถูกกดดันจากการประท้วงแล้ว ในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว เหลียงยังถูกบีบคั้นอีกทางหนึ่งจากพวกสมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงกลุ่มที่สนับสนุนผู้ประท้วง ซึ่งต้องการให้มีการตรวจสอบกรณีที่เขารับเงิน 6.4 ล้านดอลลาร์จาก “ยูเอแอล” ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนของออสเตรเลีย หลังจากบริษัทดังกล่าวซื้อกิจการดีทีแซด โฮลดิ้งส์ ที่ล้มละลายและเหลียงเป็นตัวแทนอยู่ในเอเชีย เมื่อปี 2011
       
       สมาชิกสภานิติบัญญัติเหล่านี้อ้างว่า แม้ขณะนั้นเหลียงยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่งผู้นำฮ่องกง แต่ข้อตกลงดังกล่าวมีภาระผูกพันและการจ่ายเงินต่อเนื่องให้เขามาจนถึงปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ เหลียงยืนยันตอบโต้ว่า ข้อตกลงนี้ไม่ได้มีเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน รวมทั้งข้อตกลงก็ไม่ละเมิดกฎหมายหรือจริยธรรมแต่อย่างใด 
ผู้จัดการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น