รายงานข่าวสำนักรอยเตอร์ – ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศแผนปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองครั้งสำคัญเมื่อวานนี้ (20) ซึ่งจะช่วยให้ผู้อพยพที่ไม่มีทะเบียนราว 4.7 ล้านคนมีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐฯ ต่อไปโดยไม่ต้องกลัวถูกส่งกลับประเทศ สร้างความโกรธเกรี้ยวต่อฝ่ายรีพับลิกันซึ่งชี้ว่าประธานาธิบดีกำลังใช้อำนาจอย่างผิดกฎหมาย
ระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว โอบามาเมินเสียงตำหนิติเตียนจากพรรครีพับลิกันซึ่งวิจารณ์ว่า การที่เขาตัดสินใจใช้อำนาจบริหารโดยไม่ผ่านสภาเท่ากับ “นิรโทษกรรม” ให้แก่ผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้ฝ่ายรีพับลิกันยินยอมผ่านร่างปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองฉบับครอบคลุมที่ถูกสภาผู้แทนราษฎรปฏิเสธไปก่อนหน้านี้
จากจำนวนผู้อพยพไร้ทะเบียนราว 11 ล้านคนในสหรัฐฯ แผนของ โอบามา จะช่วยให้ผู้อพยพราว 4.4 ล้านคนที่เป็นบิดามารดาของพลเมืองสหรัฐฯ หรือผู้พำนักถาวร สามารถอาศัยอยู่ในสหรัฐฯต่อไปได้ชั่วคราว โดยไม่ต้องกลัวถูกขับออกจากประเทศ
ผู้อพยพไร้ทะเบียนเหล่านี้จะสามารถยื่นคำร้องขอใบอนุญาตทำงานและเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอเมริกัน แต่ไม่สามารถใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และไม่ได้รับการประกันสุขภาพตามกฎหมายปฏิรูประบบสาธารณสุขหรือ “โอบามาแคร์”
มาตรการดังกล่าวจะบังคับใช้ต่อผู้อพยพไร้ทะเบียนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี
ผู้อพยพอีกราว 270,000 คนจะมีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือจากการขยายขอบเขตกฎหมายที่ โอบามา ประกาศใช้เมื่อปี 2012 โดยระบุให้บุคคลที่ถูกพ่อแม่พาเข้ามายังสหรัฐฯอย่างผิดกฎหมายไม่ต้องถูกเนรเทศ
เจ้าหน้าที่รัฐบาลอเมริกันชี้ว่า แผนของ โอบามา ครั้งนี้ถือเป็นการปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองครั้งใหญ่ที่สุดของอเมริกา นับตั้งแต่ยุคประธานาธิบดี โรนัลด์ รีแกน เป็นต้นมา
ผู้จัดการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น