วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

EU หั่นเป้าเติบโต ศก.ยูโรโซน ชี้ปีนี้จะโตได้แค่ “0.8 เปอร์เซ็นต์”

        เอเจนซีส์ – สหภาพยุโรป (อียู) ปรับลดเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่ม “ยูโรโซน” หรือกลุ่ม 18 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลหลักร่วมกัน ระบุ ปี 2014 นี้ จะมีการเติบโตที่ต่ำเตี้ยเพียง “0.8 เปอร์เซ็นต์” จากผลพวงของภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจทั้งในฝรั่งเศสและอิตาลี รวมถึงแนวโน้มที่ไม่สดใสของเศรษฐกิจเยอรมนี
       
       ปิแอร์ มอสโกวิชี อดีตรัฐมนตรีคลังของฝรั่งเศส ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานนโยบายด้านเศรษฐกิจของอียู เปิดเผยในวันอังคาร (4 พ.ย.) โดยระบุว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนยังคงเปราะบาง และประสบความยากลำบากในการกลับสู่ความมีเสถียรภาพอีกครั้ง
       
       มอสโกวิชีระบุว่า เศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจโลกอาจต้องใช้เวลาอีก 1 ปีหรือมากกว่านั้นในการฟื้นตัว กว่าที่จะกลับไปสู่การเติบโตในระดับปกติ เนื่องจากภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั้งในฝรั่งเศสและอิตาลี รวมถึง แนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ไม่สดใสของเยอรมนี ตลอดจนวิกฤตการเมืองในยูเครนและการเผชิญหน้ากับรัสเซีย ซึ่งกลายเป็นปัจจัยเชิงลบที่ “ทำลายบรรยากาศของการลงทุน” ในยุโรปไปจนหมดสิ้น
       
       ท่าทีล่าสุดของประธานนโยบายด้านเศรษฐกิจของอียูมีขึ้น หลังจากที่อียูเผยแพร่รายงานคาดการณ์ภาวะทางเศรษฐกิจล่าสุดซึ่งระบุว่า ในปี 2014 นี้ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของ 18 ประเทศในยูโรโซนจะมีการขยายตัวที่ต่ำเตี้ยเพียงแค่ “0.8 เปอร์เซ็นต์” เท่านั้น
       
       ขณะที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซนในปี 2015 และ 2016 จะมีการขยายตัวเพียง 1.1 เปอร์เซ็นต์ และ 1.7 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ 
       
       รายงานล่าสุดยังชี้ว่า “อัตราเงินเฟ้อ” ในกลุ่มยูโรโซนมีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยคาดว่า ในปีนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนจะอยู่ที่ระดับ 0.5 เปอร์เซ็นต์ ก่อนจะพุ่งขึ้นเป็น 0.8 เปอร์เซ็นต์ และ 1.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2015-2016
       
       ทั้งนี้ ฌอง-โคลด ยุงค์เกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปคนใหม่ให้คำมั่นว่า เขาเตรียมผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของยุโรปด้วยวงเงินกว่า 383,000 ล้านยูโร ในเดือนธันวาคมนี้ แม้บรรดานักเศรษฐศาสตร์จะเตือนว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวไม่น่าจะมีศักยภาพเพียงพอในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาของยุโรปได้มากนัก

ผู้จัดการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น