วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ผักสลัด แต่ละชนิดมีประโยชน์

คนจำนวนมากคงชอบทานสลัดเป็นอาหารมื้อเช้าหรือเย็น เพื่อควบคุมน้ำหนัก นอกจากสลัดจะช่วยควบคุมน้ำหนักได้แล้ว ยังมีประโยชน์ทางโภชนาการสูงมากอีกด้วย เพราะ ผักสลัด แต่ละชนิดนั้น ล้วนมีประโยชน์อย่างมาก ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่า ผักสลัด นั้นมีประโยชน์ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่า ผักสลัด แต่ละชนิดนั้นให้ประโยชน์ในด้านใดบ้าง วันนี้เรานำความรู้มาฝากกัน ไปดูกันเลย
ผัดสลัด หรือผักกาดหอม
มีคุณค่าทางโภชนาการ คือ ประกอบด้วยวิตามินบี วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และลูเทียน (lutein) มียาง (latex) ชื่อ แลคทูคาเรียม (lactucarium) ซึ่งมีระดับสูงมากขณะออกดอก นอกจากนั้นยังมีวิตามินบีสูงด้วย
สรรพคุณของผักกาดหอมและวิธีใช้ผักกาดหอม นั้นมักใช้เป็น ผักสลัด มีสารต้านมะเร็งและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับผักสลัดที่มีสีเขียวอื่น ๆ ส่วนที่ใช้ประโยชน์ของผักกาดหอมคือ ใบ เมล็ด และต้น ซึ่งแต่ละส่วนจะให้สรรพคุณแตกต่างกันดังต่อไปนี้
ต้นผักกาดหอม ทั้งต้นคั้นเอาแต่น้ำ นำน้ำที่ได้มาทาฝีมะม่วง (รีดเอาหนองออกก่อน) ใช้ขับพยาธิ แก้พิษ ขับลม เป็นยาระบาย
ใบผักกาดหอม น้ำคั้นจากใบ ใช้แก้ไอ ทำให้หลับง่าย แก้ไข้ ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ
เมล็ดผักกาดหอม ใช้รักษาโรคตับ ขับปัสสาวะ ขับน้ำนม ระงับปวด แก้ปวดเอว และรักษาโรคริดสีดวงทวาร
เรดครอรัล
เป็นผักคล้ายเรดโอ๊ค ใบมีสีเขียวอมแดง หวานกรอบกว่าเรดโอ๊ค มีกากใยอาหารมากเช่นกัน โดยกากใยพวกนี้จะช่วยล้างผนังลำไส้ กำจัดพวกไขมันและอนุมูลอิสระที่เกาะตามผนังลำไส้ อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ได้ ส่วนใหญ่จะทานสด ทำเป็นสลัด เป็นเครื่องเคียงในยำ ทานคู่กับแหนมเนืองจะอร่อยมาก รสชาดคล้ายผักกาดหอมแต่จะหวานกว่า
เรดโอ๊ค
เป็นผักตระกูลสลัดใบมีสีแดงเข้มและเขียวเข้มแล้วแต่สายพันธุ์ มีธาตุเหล็กและวิตามินซีสูง มีกากใยอาหารมาก ย่อยง่าย ช่วยบำรุงสายตา บำรุงกล้ามเนื้อ บำรุงผิวพรรณ ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก และยังช่วยล้างผนังลำไส้ กำจัดพวกไขมันและอนุมูลอิสระที่เกาะตามผนังลำไส้ อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ได้ส่วนใหญ่จะทานสด ทำเป็นสลัด เป็นเครื่องเคียงในยำ ทานคู่กับแหนมเนืองจะอร่อยมาก รสชาดคล้ายผักกาดหอมแต่จะหวานกว่า
กรีนโอ๊ค
ช่วยบำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อ บำรุงผิวพรรณ ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ให้เส้นใยอาหาร ขจัดอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคปากนกกระจอก ป้องกันโรคหวัด
คอส
เป็นผักที่มีวิตามินสูงและมีธาตูเหล็กช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดง (Hemoglobin) ในร่างกาย ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง ผักสลัดคอสยังมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตเพียง 3% เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน และยังช่วยในเรื่องการขับถ่ายอีกด้วย
กะหล่ำปลีม่วง
เป็นพืชที่มีเยื่อใยอาหารสูงและอุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารหลายชนิด เช่น โปรตีน (สาร indols ซึ่งเป็นผลึกที่แยกมาจาก trytophan กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย) คาร์โบไฮเดรต โซเดียม วิตามินซีซึ่งพบค่อนข้างมากกว่า กะหล่ำปลีสีเขียวถึงสองเท่า ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันมีสารซัลเฟอร์ (Sulfer) ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่และต้านสารก่อมะเร็งที่เข้าสู่ร่างกาย การกินกะหล่ำปลีบ่อย ๆ จะช่วยลดโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งในช่องท้อง ลดระดับคลอเรส เตอรอลและช่วยงับประสาททำให้นอนหลับดี น้ำกะหล่ำปลีคั้นสด ๆ ช่วยรักษาโรคกระเพาะ อย่างไรก็ตามกะหล่ำปลีมีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า goitrogen เล็กน้อย ถ้าสารนี้มีมากจะไปขัดขวางกาทำงานของต่อมไทรอยด์ทำให้นำไอโอดีนในเลือดไปใช้ ได้น้อย ดังนั้นไม่ควรกินกะหล่ำปลีสด ๆ วันละ 1-2 กก. แต่ถ้าสุกแล้วสาร goitrogen จะหายไป กะหล่ำปลีแดงนิยมรับประทานสด เช่น ในสลัดหรือนำมาตกแต่งจานอาหาร การนำมาประกอบอาหารไม่ควรผ่านความร้อนนาน เพราะจะทำให้สูญเสียวิตามินและคุณค่าอาหาร
ผักโขม
ผักโขมมีโปรตีนสูงและมีกรดอะมิโนครบทุกชนิด เหมาะกับผู้ที่กินอาหารมังสวิรัติ เป็นผักใบเขียวที่มีวิตามินเอ บี 6 ซี ไรโบฟลาวิน โฟเลต และแร่ธาตุ สำคัญได้แก่ แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม สังกะสี ทองแดงและแมงกานีส ผักโขมเป็นผักใบเขียวที่มีปริมาณสารออกซาเลตค่อนข้างสูง ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาเรื่องนิ่ว เกาต์ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ รวมถึงผู้ที่ต้องการสะสมปริมาณแคลเซียมควรจะต้องหลีกเลี่ยงการกินผักขมในปริมาณมาก ผักโขมยังเป็นผักบำรุงน้ำนมสำหรับคุณแม่ลูกอ่อน และแม้ผักโขมจะเป็นผักใบเขียว แต่ก็มีบีตา-แคโรทีนสูง โดยมีสารลูทีนและสารเซอักแซนทิน ซึ่งเป็นสารแคโรทีนอยด์อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสารทั้งสองนี้มีสรรพคุณช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา ลดความเสี่ยงจากโรคดวงตาเสื่อมได้ถึงร้อยละ 43 ทั้งยังมีผลในการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ และมีสารซาโปนินที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย นอกจากนั้นผักโขมยังมีเส้นใยอาหารมาก จึงช่วยระบบขับถ่าย และลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้
ปวยเล้ง
ผักปวยเล้งนั้นมีประโยชน์มากมาย ตั้งแต่เเร่ธาตุอย่างธาตุเหล็ก แคลเซียม โพแทสเซียม และวิตามินซี วิตามินบี 2 อีกทั้งยังมีกรดโฟลิกที่เป็นส่วนประกอบที่จำเป็นในการสร้างสารซีโรโทนินในระบบเซลล์ประสาท ซึ่งสารซีโรโทนินที่ว่านี้ก็มีความสำคัญคือจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย หากขาดสารตัวนี้ก็จะทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย นอกจากนั้นแล้ว ปวยเล้งยังมีคลอโรฟิลล์สูง จึงเหมาะกับผู้ป่วยเป็นโรคโลหิตจาง ผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลีย และมีอาการเครียด ทั้งยังมีมีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ และช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วย
คึ่นฉ่าย
มีโพแทสเซียมสูง ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยขับปัสสาวะ รักษาโรคปวดข้อ เช่น รูมาติกและโรคเกาต์ มีโซเดียมอินทรีย์ที่สามารถช่วยปรับความเป็นกรดและด่างในเลือดให้สมดุล น้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายมีสรรพคุณเป็นยากล่อมประสาท ทำให้รู้สึกสบาย และนอนหลับได้ดี
salad-20-08-14
ที่มา : grand-organic.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น