ยูเครน กาซา อิรัก ซีเรีย ฯลฯ ความวิกฤติเพิ่มขึ้นจริงหรือว่าเรารู้สึกอย่างนั้น เนื่องจากประเทศที่เกิดวิกฤติบางประเทศค่อนข้างใกล้ประเทศเยอรมัน Hans-Dieter Heumann ประธานสถาบันนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ (Baks) กล่าวว่ากรณีความขัดแย้งที่ติดอาวุธนับแต่ปลายสงครามเย็นไม่ได้เพิ่มขึ้น ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ จำนวนประเทศที่ “ไม่มีเสถียรภาพและล่มสลาย” ในจำนวนนี้รวมถึงประเทศโซมาเลีย ลิเบีย และมาลี พบว่าในตะวันออกกลางและอัฟริกาเหนือในขณะนี้เริ่มเห็นลางอวสานของระเบียบที่ไม่มีเสถียรภาพที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ ๑ ความขัดแย้งระหว่างมุสลิมสุหนี่และชีอะห์ที่ถูกถือหางและการโหมกระพือจากมหาอำนาจในภูมิภาค เช่น กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย และอิหร่าน ในระยะยาวถึงกับสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพรมแดนของประเทศในภูมิภาค
มูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพนานาชาติตั้งคำถามเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “โลกจะแตกแยกออกจากกัน?” คำตอบของผู้เชี่ยวชาญต่อคำถามนี้สรุปได้ว่า “ไม่ แต่…” โดยผู้เชี่ยวชาญได้สังเกตเห็น “การขยายใหญ่ขึ้นของวิกฤติ” นับแต่เริ่มต้นปีนี้ ตามสายตาของผู้เชี่ยวชาญ เหตุผล ได้แก่ ข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐกำลังอำลาจากบทบาทในฐานะตำรวจโลกด้วย ท่าทีที่รีรอของสหรัฐได้รับการบันทึกอย่างละเอียดจากบุคคลที่ไม่ใช่รัฐ เช่น Al-Qaida หรือกลุ่มการร้าย Islamischer Staat (IS) เช่นเดียวกับจากมหาอำนาจต่าง ๆ ในภูมิภาค ผลคือการกระจายอำนาจ ซึ่งทำให้สาเหตุของความขัดแย้งที่ใช้ความรุนแรงในโลกเพิ่มจำนวนขึ้นหลายเท่า
ตามดัชนีสันติภาพโลกล่าสุดของสถาบันเพื่อเศรษฐกิจและเสรีภาพ (IEP) ที่มีที่ตั้งที่นครนิวยอร์กและนครซิดนีย์ ซีเรียที่มีสงครามกลางเมืองอยู่ในอันดับ ๑๖๒ ซึ่งขณะนี้เป็นอันดับสุดท้าย นักวิจัยระบุ “ความไม่มีสันติภาพ” สุดขีดที่อัฟกานิสถาน อิรัก โซมาเลีย และซูดานใต้ ในจำนวนมหาอำนาจที่กำลังขึ้นสู่อำนาจล่าสุด Heumann ไม่ได้นับเพียงประเทศจีนเท่านั้น หากแต่อิหร่านด้วย ตรงกันข้าม ตุรกีได้รับการประเมินสูงกว่าความเป็นจริงในความเป็นไปได้ด้านนโยบายต่างประเทศ ตามสายตาของเขา แม้ว่าวิกฤติในยูเครนตะวันออกจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและรัสเซียเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร แต่ไม่มีอันตรายว่าจะเกิดสงครามเย็นครั้งใหม่ในยุโรป เหตุผลอื่น ๆ ที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากทุกวันนี้มีความรู้สึกว่าจำนวนความขัดแย้งที่ติดอาวุธทั่วโลกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาพจากสงคราม ซึ่งทุกคนสามารถดูได้จากอินเตอร์เน็ต ขณะที่กองทัพอากาศอิรักโจมตีเมือง Halabdscha ของชาวเคิร์ดด้วยแก๊ซพิษในเดือนมีนาคม ๑๙๘๘ กินเวลาหลายสัปดาห์กว่าภาพที่เคลื่อนไหวของเหยื่อจะปรากฎต่อสาธารณชนเป็นวงกว้าง
ดัชนีสันติภาพโลก ที่ตรวจสอบประเทศ ๑๘๒ แห่งถึงสันติภาพทั้งภายนอกและภายใน โดยดูจากปัจจัยบ่งชี้ เช่น งบประมาณที่ใช้ทางทหารและปฏิบัติการทางทหาร ค่าใช้จ่ายเพื่อปฏิบัติการสันติภาพขององค์การสหประชาชาติและความปลอดภัยทางสังคม
ประเทศที่มีสันติภาพมาก ๑. อีสแลนด์ ๒. เดนมาร์ก ๓. ออสเตรีย ๔. สวิตเซอร์แลนด์และนิวซีแลนด์ เยอรมนีอยู่ในอันดับที่ ๑๗.
ประเทศที่ไม่มีสันติภาพมาก ๑๐๑. สหรัฐอเมริกา ๑๕๒. รัสเซีย ๑๕๘. โซมาเลีย ๑๕๙. อิรัก ๑๖๐. ซูดานใต้ ๑๖๑. อัฟกานิสถาน ๑๖๒. ซีเรีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น