เอเอฟพี – ทางการตุรกีออกมาระบุในวันที่ 18 ส.ค. ว่าได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตเยอรมนีเข้าพบ เพื่อให้ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่มีรายงานว่ามีสายลับเมืองเบียร์ทำการสอดแนมตุรกีมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ แดร์ ชปีเกล ของเยอรมนีรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (17 ส.ค.) ว่าหน่วยสืบราชการลับ “บีเอ็นดี” ของเยอรมนีได้ทำการสอดแนมประเทศตุรกีมาตั้งแต่ปี 2009 และยังมีการดักฟังการพูดคุยทางโทรศัพท์ของ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ อย่างน้อยหนึ่งครั้ง
กระทรวงการต่างประเทศตุรกีระบุในคำแถลงว่า เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำตุรกี เอเบอร์ฮาร์ด โพห์ล ได้ถูกเรียกตัวให้เข้าพบเพื่อ “ชี้แจงอย่างเป็นทางการและให้ข้อมูลที่น่าพึงพอใจ” เกี่ยวกับการสอดแนมดังกล่าว และหากพบว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เยอรมันควรจะหยุดการกระทำใดๆ ที่เป็นการสอดแนมตุรกีโดยทันที
“การปฏิบัติแบบนั้นไม่อาจเป็นที่ยอมรับได้ สำหรับในสภาวะที่ต้องการความไว้เนื้อเชื่อใจและเคารพกันระหว่างชาติพันธมิตร ถ้าข้อกล่าวหาเหล่านั้นเป็นจริงแม้เพียงน้อยนิด มันก็จะทำให้เกิดสถานการณ์ที่ตึงเครียดขึ้นมา ซึ่งทางเยอรมนีจะต้องอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้” คำแถลงของกระทรวงระบุ
อย่างไรก็ตาม มาร์ติน เชฟเฟอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ระบุว่า เอกอัครราชทูตเยอรมนีไม่ได้ถูกเรียกตัว แต่เป็นการเชื้อเชิญจากกระทรวงการต่างประเทศของตุรกีให้เข้าไปพูดคุยกัน
มาร์ติน เชฟเฟอร์ บอกกับเอเอฟพีว่า การพูดคุยเกิดขึ้นภายใต้บรรยากาศที่เป็นมิตร เป็นการอธิบายให้ทางการตุรกีได้เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกตีพิมพ์ผ่านสื่อของเยอรมนี
ทั้งนี้ นิตยสารฉบับดังกล่าวยังได้อ้างข้อมูลจากเอกสารลับ โดยระบุว่ารัฐบาลได้เลือกตุรกีให้เป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ สำหรับสอดแนมในปี 2009
ก่อนหน้านี้ เยอรมนีได้แสดงความไม่พอใจหลังจากที่มีการออกมาเปิดเผยเมื่อปีที่แล้ว กรณีที่หน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ ถูกกล่าวหาว่าทำการดักฟังการพูดคุยของอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ แดร์ ชปีเกล ของเยอรมนีรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (17 ส.ค.) ว่าหน่วยสืบราชการลับ “บีเอ็นดี” ของเยอรมนีได้ทำการสอดแนมประเทศตุรกีมาตั้งแต่ปี 2009 และยังมีการดักฟังการพูดคุยทางโทรศัพท์ของ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ อย่างน้อยหนึ่งครั้ง
กระทรวงการต่างประเทศตุรกีระบุในคำแถลงว่า เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำตุรกี เอเบอร์ฮาร์ด โพห์ล ได้ถูกเรียกตัวให้เข้าพบเพื่อ “ชี้แจงอย่างเป็นทางการและให้ข้อมูลที่น่าพึงพอใจ” เกี่ยวกับการสอดแนมดังกล่าว และหากพบว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เยอรมันควรจะหยุดการกระทำใดๆ ที่เป็นการสอดแนมตุรกีโดยทันที
“การปฏิบัติแบบนั้นไม่อาจเป็นที่ยอมรับได้ สำหรับในสภาวะที่ต้องการความไว้เนื้อเชื่อใจและเคารพกันระหว่างชาติพันธมิตร ถ้าข้อกล่าวหาเหล่านั้นเป็นจริงแม้เพียงน้อยนิด มันก็จะทำให้เกิดสถานการณ์ที่ตึงเครียดขึ้นมา ซึ่งทางเยอรมนีจะต้องอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้” คำแถลงของกระทรวงระบุ
อย่างไรก็ตาม มาร์ติน เชฟเฟอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ระบุว่า เอกอัครราชทูตเยอรมนีไม่ได้ถูกเรียกตัว แต่เป็นการเชื้อเชิญจากกระทรวงการต่างประเทศของตุรกีให้เข้าไปพูดคุยกัน
มาร์ติน เชฟเฟอร์ บอกกับเอเอฟพีว่า การพูดคุยเกิดขึ้นภายใต้บรรยากาศที่เป็นมิตร เป็นการอธิบายให้ทางการตุรกีได้เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกตีพิมพ์ผ่านสื่อของเยอรมนี
ทั้งนี้ นิตยสารฉบับดังกล่าวยังได้อ้างข้อมูลจากเอกสารลับ โดยระบุว่ารัฐบาลได้เลือกตุรกีให้เป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ สำหรับสอดแนมในปี 2009
ก่อนหน้านี้ เยอรมนีได้แสดงความไม่พอใจหลังจากที่มีการออกมาเปิดเผยเมื่อปีที่แล้ว กรณีที่หน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ ถูกกล่าวหาว่าทำการดักฟังการพูดคุยของอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
ผู้จัดการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น