ผู้เขียนต้องสารภาพว่างงจริง ๆ เกี่ยวกับความรู้ใหม่ ๆ ในเรื่องของการบริโภค สิ่งที่เคยได้ยินได้ฟังและเชื่อมาแต่เล็กแต่น้อย พอโต (แก่) ขึ้นกลับกลายเป็นไม่ใช่เสียแล้ว เข้าตำรา “รู้มากยากนาน รู้น้อยพลอยรำคาญ” จริง ๆ ในกรณีนี้ ความเชื่อ ๕ ข้อต่อไปนี้ผู้อ่านคิดว่าจริงหรือไม่ ?
๑. ผลไม้และผักมีสารอาหารน้อยลงทุกที
สมาคมเพื่อการบริโภคเยอรมันพบว่าผลและผักไม่ได้มีสารอาหารน้อยกว่าเมื่อ ๕๐ ปีก่อน การขึ้น ๆลง ๆ ตามธรรมชาติเกิดขึ้นผ่านอุณหภูมิ ปริมาณฝนและช่วงเวลาเก็บเกี่ยว หากพืชใดขาดวิตามินและเกลือแร่ การดูดซึมจะถูกทำลาย พืชจะไม่โตขึ้นและไม่สร้างเมล็ดหรือผล
๒. คาร์โบไฮเดรตเป็นตัวทำให้อ้วน
ขึ้นอยู่กับยอดพลังงงานทั้งหมด ใครใส่พลังงานเข้าไปมากกว่าที่ใช้ออกไป น้ำหนักจะขึ้น อย่างน้อย ๕๐% ของพลังงานที่กินเข้าไปในแต่ละวันควรประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต
๓. วิตามินซีป้องกันไม่ให้เป็นหวัด
การศึกษาแสดงว่าการกินวิตามินซีเพิ่มเติมไม่ได้ปกป้องจากโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ แต่โรคจะคงอยู่เป็นระยะเวลาสั้นกว่า หากกินวิตามินซีตอนที่อาการของโรคแสดงตัวแล้วก็ไม่มีผลต่อหวัด ที่ป้องกันได้ผลดีกว่ามาก ได้แก่ การล้างมือบ่อย ๆ
๔. ไม่กินอาหารหลัง ๑๘ นาฬิกา
การงดอาหารเย็นดูจะเป็นอาวุธวิเศษในการต่อสู้กับน้ำหนักที่มากเกินไป กระนั้น สำหรับยอดพลังงานของวันหนึ่ง ๆ ไม่สำคัญว่ากินเมื่อใด หากแต่มากเท่าใด ชาวยุโรปใต้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าอาหารตอนเย็นไม่จำเป็นต้องทำให้อ้วน แต่เนื่องจากการดูดซึมอาหารในช่วงเย็นทำงานน้อยลง ตอนเย็นจึงควรกินอาหารเบา ๆ เพื่อไม่ให้การย่อยอาหารทำให้นอนไม่หลับในตอนกลางคืน
๕. กาแฟดูดน้ำจากร่างกาย
เป็นเวลานานที่มีการแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าควบคู่กับการดื่มกาแฟ เนื่องจากคาเฟอีนกระตุ้นการทำงานของท่อปัสสาวะ ขณะนี้นักวิชาการระบุว่าการสูญเสียของเหลวภายใน ๑ วันจะได้รับการทดแทนอีกครั้งหนึ่ง หากดื่มกาแฟในปริมาณไม่มากกว่า ๒-๓ แก้ว ร่างกายต้องการน้ำเพื่อให้ทำงานได้ แต่ประชาชนทุก ๆ ๔ คนในประเทศเยอรมันดื่มน้อยเกินไป ไม่ถึงปริมาณอย่างต่ำ ๑.๕ ลิตรต่อวันที่ได้รับการแนะนำ
เรียบเรียงโดย “ตะวันฉาย”
ข้อมูล tk aktuell
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น